ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 542

จี้ฉางจับผีขี้งกเอาไว้ พร้อมถามเสียงเย็น “พูดมา ผิงเติ่งหวังอยู่ที่ใด”

ผีขี้งกตอบเสียงสะอื้น “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน……”

ฉับ จี้ฉางฟันสมองของมันขาดครึ่งหนึ่ง

ผีขี้งก “……”

“ฉันไม่รู้จริงๆ พวกเราถูกปล่อยออกมาโดยผีตนหนึ่งที่คลุมผ้าสีแดง เธอเป็นผีขุนศึก…”

จี้ฉางยิ้มเยือก จากนั้นฟันสมองอีกครึ่งด้านของมัน

ตอนนี้หัวของผีขี้งกราวกับดินสอที่ถูกเหลาจนแหลม

มันอยากร้องไห้แต่ไร้ซึ่งน้ำตา และสงสัยว่าอีกฝ่ายกำลังแก้แค้นให้ซู่เป่า โดยเอาการเค้นถามมาบังหน้า

ก็แค่กัดซู่เป่าไปคำหนึ่งเอง

เจ้าเด็กนั่นก็ยังแข็งแรงร่าเริงอยู่ ไม่ได้มีปัญหาอะไรซักนิด ทำไมต้องทารุณเขาขนาดนี่ด้วย

ผีขี้งกคิดย้อนอย่างสุดกำลัง แต่เขานึกข้อมูลสำคัญออกเพียงอย่างเดียว “ที่ที่พวกเราออกมามีใบแปะก๊วย! จริงด้วย แล้วก็มีเสียงระฆัง!”

มู่กุยฝานหรี่ตา ใบแปะก๊วย…เสียงระฆัง

สองข้อมูลนี้ สามารถระบุสถานที่ได้อยู่หลายแห่ง

ไอ้ผิงเติ่งหวังทรพีนั่น เขาจะต้องจับตัวมันให้ได้!

ผีขี้งกทำหน้าประจบ “ฉันสารภาพขนาดนี้แล้ว พวกคุณช่วย…”

จี้ฉางไร้ซึ่งสีหน้า “มีอะไรที่อยากพูดอีกไหม”

ผีขี้งกคิดแล้วคิดอีก “เอ่อ…ไม่มีแล้ว ไม่มีแล้วจริงๆ”

จี้ฉางพยักหน้า “งั้นเจ้าไปเถิด”

สิ้นเสียงเขาก็สะบัดมือ ผีขี้งกวิญญาณสลาย และถูกน้ำเต้าวิญญาณดูดซับทันที

ผีที่อยู่ใต้มือผิงเติ่งหวัง มิว่าอย่างไรจี้ฉางก็ไม่มีทางเก็บไว้แน่ๆ

เขาต้องระแวงไว้ เขามีศิษย์ตัวน้อยเพียงคนเดียว จะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด

(ผีขี้งก “?” )

บัดนี้ซู่เป่ากำลังฟุบอยู่บนไหล่ของมู่กุยฝาน เธอง่วงจนลืมตาไม่ขึ้น

เธอเหนื่อยมากจริงๆ เมื่อตอนกำลังตื่นเต้นอาจไม่รู้สึก แต่เมื่อผ่อนคลายลงกลับรู้สึกราวกับกระดูกทั้งร่างกำลังจะแหลกสลาย

“ผ่าทุเรียน…ผ่าฟัก…” เจ้าตัวน้อยแม้หลับก็ยังคงพึมพำ

นายหญิงซูรอไปหนึ่งคืนเต็มๆ เมื่อเที่ยงคืนตรงเธอถูกซูอีเฉินลากกลับห้องไปพักผ่อน วันต่อมาฟ้ายังไม่ทันสว่างเธอก็มานั่งรออีกแล้ว

เมื่อเห็นในที่สุดประตูร้านอาหารชั้นห้าก็เปิดออก มู่กุยฝานอุ้มซู่เป่าที่กำลังหลับสนิทออกมา

“ไม่เป็นไรใช่ไหม” สีหน้าของเธอเจ็บใจ “ทำอะไรอยู่ทั้งคืน จริงๆ เลย วันเกิดทั้งทียังไม่ได้ฉลองดีๆ อีก…”

มู่กุยฝานตอบด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วงครับ…”

ชะงักทีหนึ่ง จากนั้นมองไปทางซูอีเฉินรูปหล่อบ้านรวย “ยังไงพี่เขยใหญ่ก็รวย เดี๋ยวคืนนี้จัดอีกรอบ”

ซูอีเฉิน “……”

นายหญิงซูกำลังจะพูดบางอย่างต่อ จู่ๆ เธอก็หรี่ตา พร้อมจ้องไปที่มือเล็กๆ ที่บวมแดงขึ้นมาของซู่เป่า

มันไม่ได้บวมแดงธรรมดา แต่บวมแดงไม่ต่างจากขาหมูน้ำแดงที่เธอทำเลย!

“มู่กุยฝาน!” นัยน์ตาของนายหญิงกระพริบไอสังหาร

มู่กุยฝานอุ้มซู่เป่า ก้าวขากว้างสองเมตร หายไปทางหน้าประตูลิฟท์อย่างว่องไว

“ผมพาซู่เป่ากลับห้องก่อนนะครับ”

“เธอง่วงมาก ไม่ได้นอนทั้งคืนเลย เสียงดังไม่ได้…”

สิ้นเสียงร่างเขาก็หายไปทันที

นายหญิงซูอยากวิ่งตามไป แต่ก็กลัวจะรบกวนซู่เป่าที่กำลังหลับสนิท ทำได้เพียงมองมู่กุยฝานอุ้มซู่เป่าจากไปอย่างอาลัยอาวร

จู่ๆ เธอก็หันไปจ้องทางซูอีเฉิน “มองอะไรกัน ไม่รีบไปเตรียมงานหรือไง งานเลี้ยงวันเกิดเมื่อวานไม่นับ!”

ซูอีเฉินลูบจมูก

แต่นายหญิงก็ยังรู้สึกไม่พอใจ เธอเหล่มองไปทางซูอิ๋งเอ่อร์ “ทำไม จะยืนเป็นเสาไฟฟ้าให้ที่นี่งั้นเหรอ”

ซูอิ๋งเอ่อร์ “……”

ว่าแล้ว ท่าทีเวลาคุณแม่โมโหต่างเหมือนกันทั่วโลก…

ทุกคนรีบหนีไปในทันที

สุดท้ายนายหญิงซูเพียงถอนหายใจทีหนึ่ง มองดูร้านอาหารชั้นห้าที่แสนยุ่งเหยิง

ไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ท้้งโต๊ะทั้งเก้าอี้ถึงได้ล้มลง

เหมือนว่าจะกินของไปไม่น้อยด้วย นายหญิงซูความรู้สึกไวต่อของกินมาก เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเค้กหายไปเยอะมาก ล็อบสเตอร์ทอดกระเทียมหายไปตัวหนึ่ง นอกจากนั้นก็ไม่มีแล้ว สิ่งที่หายไปเยอะที่สุดคือเครื่องดื่ม

“เมื่อคืนซู่เป่าต้องเหนื่อยมากแน่ๆ “ คุณหญิงซูพูดเองเออเอง “กินแค่เค้กมันจะไปมีสารอาหารได้อย่างไรกัน……”

เมื่อคืนต้องเป็นเพราะกับข้าวเย็นลงแน่ ดังนั้นที่กินไปเยอะที่สุดจึงเป็นเค้ก นายหญิงซูรู้สึกเจ็บใจมาก

ในเมื่อมาถึงที่เกาะหนีกวง ก็ต้องกินอาหารทะเลให้อิ่ม ทั้งแมงกะพรุน หอยเชลล์ กุ้งล็อบสเตอร์ ปูอลาสก้า เม่นทะเล ปลิงทะเล…

ต้องจัดให้หมด!

ซูเหอเวิ่นและซูจื่อซีฝืนมาทั้งคืน จึงต่างไปนอนพักผ่อนเช่นกัน

วันนี้ทั้งวันผ่านไปอย่างสงบ นอกจากหานหานที่รู้สึกเบื่อ ซูเหอเวิ่นก็ไม่เล่นกับเธอ เธอจึงทำได้เพียงแบกรับหน้าที่พาแมวหมานกเต่าไปเดินเล่น

ซู่เป่านอนจนถึงตอนหกโมงเย็น เมื่อลืมตา เธอก็เห็นพระอาทิตย์กำลังตกดิน

พระอาทิตย์ลอยอยู่บนเส้นขอบทะเลราวกับไข่แดง แสงแดดสีทองสาดไปทั่วหาด ท้องฟ้าราวกับเป็นผลงานของศิลปินชื่อดัง ที่ถูกร่างออกเป็นยามเย็นหลากสี และทิวทัศน์ทะเลในความฝัน

ลมพัดอ่อนช้อย คลื่นกระทบซ่าๆ เด็กๆ วิ่งเล่นบนหาดอย่างมีความสุข พ่อแม่ที่อยู่ด้านหลังยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายอย่างผ่อนคลาย

“สวยจังเลย!” ซู่เป่าเกาะอยู่ตรงกระจกวิวบานใหญ่ ไม่อยากละสายตาแม้แต่นิด

หานหานเตะประตูเข้ามาดังปึ้ง พร้อมพูดอย่างดีใจ “ซู่เป่า เธอตื่นแล้วเหรอ ไปๆๆ พวกเราไปว่ายน้ำกันเถอะ!”

ซู่เป่าเปลี่ยนชุดว่ายน้ำเสร็จอย่างว่องไว ราวกับเป็นนางเงือกตัวน้อยๆ ยกถังน้ำและวิ่งตามหานหานไปด้านหน้า

มู่กุยฝานตามอยู่ด้านหลัง มือล้วงกระเป๋าสบายใจอย่างหาได้ยาก มองหานหานและซู่เป่าวิ่งไปบนหาด ขีดวาดบนพื้นทราย และภาพที่ขีดถูกคลื่นทะเลซัดหาย

จากนั้นก็กระโดดลงเล่นน้ำในทะเล อากาศในเวลานี้หนาวนิดๆ อุณภูมิเกาะหนีกวงประมาณสิบห้าองศา

ซู่เป่ายังดี ที่ฝึกร่างกายมาก่อน แต่หานหานนั้นไม่ไหว โดดลงไปดังจ๋อมได้ไม่นาน ก็หนาวจนสั่นระริกทันที

“หนาวเป็นหมาแช่แข็งเลย” เธอสูดจมูก

นายหญิงซูมาพร้อมกับผ้าขนหนูตัวหนา รีบเอามาห่มให้กับหานหาน พร้อมพูดติ “หมายังไม่ขนาดนี้เลย หนาวขนาดนี้ยังกล้าลงไปอีก คิดว่าตัวเองเป็นซู่เป่าหรือไง…”

ทางไกล ซู่เป่ากำลังแหวกว่ายในทะเล เจียงจวินและโส่วว่างต่างเฝ้าเธออยู่อีกด้าน เห็นเธอว่ายลึกก็จะดึงเธอกลับมา

หานหานไม่ยอม “น้องทำได้หนูก็ต้องทำได้”

นายหญิงซูเหล่มองเธอทีหนึ่ง “เธอทำไม่ได้จริงๆ”

หานหานจามอย่างที่นายหญิงพูด

“ช่างเถอะ…หนูไปเล่นรถไฟเหาะ ทอร์นาโดและยักษ์ตกตึกดีกว่า…”

นายหญิงซูปฏิเสธโดยไม่คิด “ไม่ได้!”

หานหาน “ทำไมล่ะ”

นายหญิงซูถอนหายใจ “กลัวสมองของเธอจะถูกสะบัดออกมาด้วย”

หานหาน “……”

ขยะที่น่ารำคาญถูกโยนทิ้งแล้ว งานเลี้ยงวันเกิดวันนี้จึงยิ่งใหญ่มากเป็นพิเศษ ซู่เป่าไม่เคยฉลองวันเกิดที่ทะเลมาก่อน

คุณพ่ออยู่ข้างกาย คุณตาคุณยายอยู่ข้างกาย เหล่าคุณลุงก็อยู่ข้างกาย

เธอยังมีพี่ชายพึ่สาว และมีสัตว์เลี้ยงที่เธอชื่นชอบ

อีกทั้งเด็กๆ มากมาย พวกเขารู้สึกดีใจที่ได้พูดคำว่าสุขสันต์วันเกิดกับเธอ และอิจฉาที่วันเกิดของเธอได้จัดถึงสองวัน

บนหาดมีรายการร้องรำทำเพลง บางคนก็เอากีตาร์มาดีด ลมทะเลหนาวเย็นเล็กน้อย แต่ความครื้นเครงของทุกคนไม่น้อยลงแม้แต่นิด

ซู่เป่ามีความสุขเป็นอย่างมาก เธอเล่นจนดึกจึงยอมขึ้นเตียงนอนอย่างเสียดายอาวร

เมื่อหลับลง บนใบหน้ายังคงแขวนรอยยิ้มหวานๆ เอาไว้

มู่กุยฝานลูบผมนุ่มสลวยของเธอ พร้อมพูดเสียงต่ำ “ซู่เป่า สุขสันต์วันเกิดห้าขวบ”

เขาวางของขวัญชิ้นเล็กไว้ข้างหัวเตียงเธอ

กวาดสายตามองไป ในห้องของเธอเต็มไปด้วยของขวัญ

ของขวัญที่ถูกใส่กล่องให้โดยคุณตาคุณยาย เหล่าคุณลุงและพี่ๆ ให้เป็นบางอย่างที่ห่อแยก และมีดอกไม้กำหนึ่ง เปลือกหอยหลากสีหลายๆ อัน และมีกิ๊บหนีบผมสวยๆ

ที่ให้โดยเด็กๆ ที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของเธอ

ซูอีเฉินยืนอยู่หน้าประตู มองซู่เป่าที่กำลังหลับสนิทเงียบๆ

ทุกคนบอกว่าเจ้าตัวน้อยนั้นมีความสุขมาก

เธอมีความสุขมากจริงๆ…

แต่คนอื่นมองไม่เห็น หน้าที่และภาระที่อยู่เบื้องหลังเธอ…

มู่กุยฝานปิดประตูลง พวกเขาจองห้องชุดไป ห้องชุดหนึ่งมีสามห้องนอนสองห้องนั่งเล่น

ซู่เป่านอนห้องหนึ่ง มู่กุยฝานย่อมต้องนอนคนเดียว ส่วนอีกห้องก็ถูกหานหานครอง

มาที่นี่สองวัน พวกเขาเพียงแค่จัดงานเลี้ยงวันเกิดริมหาด ยังไม่ได้ไปสวนสนุกเกาะหนีกวงเลย

สวนสนุกในยามค่ำ ทุกอย่างเงียบลง

จู่ๆ กระดานหกก็ขยับเอง เอี้ยด…เอี้ยด…

ในค่ำคืนที่เงียบสงัด เสียงที่โดดเด่นออกมาฟังดูพิลึกมากเป็นพิเศษ

“คิกๆๆ…”

ภายใต้ความเงียบ กลับมีเสียงหัวเราะแว่วๆ ส่งมา

“ดวงดาวบนฟ้ากระพริบตา……

ข้างทางมีตุ๊กตา

เจ้าตุ๊กตาทำไมถึงไม่กลับบ้านหนา

หรือเพราะแกไม่มีบ้านกัน

ตุ๊กตา ตุ๊กตา ไม่ต้องเสียใจ ไม่ต้องกลัว

ฉันจะแบ่งปันคุณแม่ให้แกครึ่งหนึ่ง…”

ภายใต้แสงถนน จู่ๆ ก็ปรากฏตุ๊กตาประหลาดขึ้น

มันพิงอยู่ตรงเสาไฟ เอนหัว ดวงตาราวกับดวงตาของคนคนหนึ่ง ที่กำลังจดจ้องมายังอีกฝ่าย…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน