ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 567

หากถามว่าปาฏิหาริย์ทางการแพทย์ของนายหญิงซูคืออะไร นั่นต้องเป็นการทำอาหารอย่างแน่นอน

หากอธิบายให้ละเอียดอีกหน่อย นั่นก็คือทำอาหารให้หลานสาว

หลังจากนอนหลับไปหนึ่งคืน ก็คือวันที่สามหลังจากฟื้นขึ้นมา นายหญิงซูลุกขึ้นนั่งได้แล้ว

“หมอ ฉันกลับบ้านได้หรือยัง” นายหญิงซูถามขึ้น

หมอดูประวัติการรักษา จากนั้นก็ยิ้มพลางพูดขึ้นว่า “ผ่าตัดมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว ไม่ปรากฏอาการแทรกซ้อนอะไร ฟื้นตัวได้ดีมากๆ! แต่ปกติแล้วก็ต้องใช้เวลาสิบวันถึงจะออกจากโรงพยาบาลได้ คุณอย่าเพิ่งร้อนใจไปนะครับ!”

นายหญิงซูพูดขึ้น “ฉันยังต้องกลับไปทำอาหารให้หลานสาวของฉันนะ...”

หมอหมดคำพูดไปชั่วขณะ “คืออย่างนี้นะครับต่อให้จะออกจากโรงพยาบาลได้ในสิบวัน กลับไปแล้วก็ต้องพักรักษาตัวอย่างน้อยหนึ่งเดือน คุณยังคิดจะทำกับข้าว?”

เขาทำท่าโยนกระทะ แกว่งตะหลิว “ทำกับข้าวจะสะเทือนถึงหน้าอก คุณอายุมากแล้ว ผมแนะนำว่าทางที่ดีคุณอย่าออกแรงประเภทนี้จะดีกว่านะครับ”

นายหญิงซูเถียงเหมือนกับเด็ก “ทำอาหารจะเป็นการออกแรงได้ยังไง”

คุณท่านซูพูด “เอาละ ใช่ว่าที่บ้านจะไม่มีคนทำกับข้าวเสียหน่อย คุณเชื่อฟังเถอะนะ อย่าพอถึงเวลาแล้วแผลฉีกต้องกลับมานอนโรงพยาบาลอีกเลย ทรมานจะตาย!”

นายหญิงซูถลึงตาใส่เขาทีหนึ่ง

หลังหมอกำชับสองสามประโยคก็ออกจากห้องผู้ป่วยไป

นายหญิงซูอิงอยู่บนหมอน ทำหน้าอย่างหมดอาลัยตายอยาก

ชีวิตสูงวัยที่เลี้ยงเด็กให้อ้วนไม่ได้ จะนับว่าเป็นชีวิตสูงวันอะไรกัน!

คุณย่าและคุณยายที่ได้มาตรฐาน ความรู้ความสามารถโดยพื้นฐานสุดๆ คือเลี้ยงหลานให้อ้วน

ไม่เห็นเหรอว่าซู่เป่าผอมไปตั้งเยอะแล้ว!

ป้าอู๋พูดขึ้น “นายหญิงคะ ดิฉันจะเป็นคนทำเองค่ะ! ปกติก็เป็นลูกมือให้นายหญิงตลอดอยู่แล้ว คุณหนูซู่เป่าชอบกินรสชาติไหนฉันรู้ดีค่ะ”

มุมปากของนายหญิงซูเผยอแต่ไม่ได้พูดอะไร

ป้าอู๋พูดขึ้นอีกว่า “ดิฉันรับผิดชอบทำ นายหญิงรับผิดชอบป้อนนะคะ ขาวอวบอ้วนพีเหมือนเดิมแน่นอนค่ะ”

นายหญิงซูนั่งตัวตรง พยักหน้าพลางพูดขึ้นว่า “เธอพูดถูก! มา เอากระดาษกับปากกามา ฉันจะจดเมนูให้เธอ”

“ตอนนี้เจ็ดโมงครึ่ง...ถ้าไม่ไปเรียนละก็ ปกติซู่เป่าจะตื่นเก้าโมง”

“เธอนึ่งไข่ฝูหรงให้ซู่เป่าถ้วยหนึ่งก่อน จากนั้นค่อยเอาซาลาเปาทอดมาให้อีกสองลูก แล้วทำบะหมี่ซอสหอยเป๋าฮื้อ โจ๊กเต้าหู้ปลาปลา...แล้วก็ฮะเก๋ากุ้งกับเกี๊ยวกุ้งห่อดอกชะบาอย่างละเข่ง”

คุณท่านซูกำลังจะพูดว่า ‘เยอะขนาดนั้นต้องกินให้หมดไหม’ ก็ได้ยินนายหญิงพูดขึ้นว่า “นี่เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย...อาหารเช้าอย่างเป็นทางการให้ทำข้าวไก่ห่อใบบัว คู่กับผักกาดหอมลวกหนึ่งจาน จากนั้นค่อยทำซี่โครงหมูนึ่ง...ตอนเช้าจะกินอาหารที่มีความมันมากเกินไปไม่ได้ ประมาณนี้ก็พอแล้ว...”

คุณท่านซู “...”

นายหญิงซูถือปากกากับกระดาษพลางมองเมนูที่ตัวเองเขียนออกมา พร้อมทั้งตรวจเช็กไปด้วย “โปรตีน วิตามิน คาร์โบไฮเดรต...อืม สุดท้ายเพิ่มนมสดไปด้วยละกัน พอใช้ได้แล้ว”

คุณท่านซู “...”

เอาละ วันนี้อาหารเช้าของทุกคนคือซาลาเปาทอด บะหมี่ โจ๊ก ข้าวไก่ห่อใบบัว...

ป้าอู๋คุ้นเคยจนเห็นเป็นเรื่องปกติไปตั้งนานแล้ว กระทั่งในด้านการป้อนข้าวด้วย ต้องมีความคิดที่สูงเท่ากับนายหญิงซู

“กลัวจะเลี่ยนไหมคะ เพิ่มนมเปรี้ยวรสบลูเบอร์รีไปอีกสักอย่างเป็นยังไงคะ ข้าวบาเล่ย์ก็ไม่เลวนะคะ”

นายหญิงซูพยักหน้า”อืมๆ เพิ่มเข้าไปให้หมด! โภชนาการครบถ้วน!”

คุณท่านซู “...”

ตอนที่ซู่เป่าตื่นขึ้นมา อาหารเช้ามากมายก็ถูกเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

ตั้งแต่กลับมาจากตำหนักพญายมใต้ดิน จำนวนอาหารของซู่เป่าก็เริ่มเยอะมากขึ้น

คนอื่นกินจนน้ำหนักขึ้น

ซู่เป่ากินลงไปจะกลายเป็นพละกำลัง (หนูพึ่งอาหารเพื่อบำเพ็ญและเลื่อนขั้น) (คนอื่นบำเพ็ญตนอย่างยากลำบาก ส่วนหนูขึ้นเป็นเฟยเซิงด้วยการกินอย่างสบายใจ)

กินแล้วแปลงเป็น ‘ตบะ’ ของเธอ ยากจะกินแล้วอ้วน

ฉะนั้นป้อนข้าวซู่เป่าให้อ้วนจึงกลายเป็นความยึดมั่นถือมั่นของนายหญิงซู...

หลังกินข้าวเสร็จซู่เป่าก็กลับบ้านตระกูลซู ตอนนี้เหล่าพี่ๆ จ้างติวเตอร์มา ก่อนหน้านี้ซู่เป่ายังไปโรงเรียนอนุบาล การเรียนไม่จำเป็นต้องเข้มงวดกับมากขนาดนั้น

โดยสรุปคือก่อนที่ผิงเติ่งหวังยังไม่สลายไปอย่างสมบูรณ์แบบ ทุกคนต่างก็ไม่กล้าประมาท ยังกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติไม่ได้

“พ่อคะ เจอคนที่น่าสงสัยบ้างไหมคะ” พอซู่เป่ากลับมาก็ไปหามู่กุยฝานเลย

มู่กุยฝานกำลังจ้องมองภาพกล้องวงจรปิด

ผีที่น่าสงสัยเขามองไม่เห็น

ส่วนคนที่น่าสงสัย ยังคงหาได้อย่างผ่อนคลาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน