พ่อแม่ของเขอเข่อเบลอไปอยู่นาน คำถามแสนข้อของซู่เป่าทำให้พวกเขาสับสน
พวกเขาไม่เคยคิดถึงประเด็นเหล่านี้เลย หรือจะพูดอีกอย่างก็คือคนที่สวดภาวนาต่อพระพุทธเจ้าไม่เคยคิดถึงประเด็นเหล่านี้เลย
ก็แค่ขอให้จิตใจสงบลงแค่นั้น
ทุกเดือนเขอเข่อจะมีอาการชักและเป็นไข้อยู่สองสามครั้ง ปีนี้พวกเขาได้หาโรงพยาบาลเฉพาะทางและสวดภาวนาต่อเทพเจ้าเวลาที่เดินทางผ่านวัด
อย่างไรก็ตามเขอเข่อไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเลย เมื่อเวลาผ่านไปอาการก็เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ปกติเคยป่วยเดือนละครั้งหรือสองครั้ง แต่ตอนนี้กลายเป็นถี่ขึ้นสัปดาห์ละครั้งแล้ว
จริง ๆ แล้วพวกเขาก็เข้าใจว่าการไหว้พระหลายแห่งนั้นไม่มีประโยชน์ แต่เมื่อเวลาที่คนคนหนึ่งหมดหวังและไม่มีทางเลือก พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่เชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นแค่ภาพลวงตาได้เท่านั้น
พ่อของเขอเข่อดูเศร้าสลดและฝืนยิ้ม “ขอบใจเธอมากนะ เพื่อนตัวน้อย”
แม่ของเขอเข่อรับเขอเข่อไว้ สองสามีภรรยามีสีหน้าที่เศร้าโศก
มู่กุยฝานพูด “ไปกันเถอะ”
ถ้ายังไม่ไปรักษาบาดแผลอีก ติดเชื้อขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ
และถ้านายหญิงรู้เข้า เธอก็จะใช้กระทะก้นแบนไล่พวกเขาไปตามถนนสามเส้น
ซู่เป่าถูกซูอวิ๋นเจาอุ้มขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมองไปที่เขอเข่อที่เริ่มร้องไห้งอแง เธอก็โบกมือแล้วพูดว่า “ลาก่อนนะน้องเขอเข่อ แล้วเจอกันเร็ว ๆ นี้นะ!”
เขอเข่องับนิ้วแล้วมองดูพี่ชายคนสวยตัวน้อยที่เดินห่างออกไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ
“จะเอาพี่ชาย...” เธอพูดอย่างเสียใจ
แม่เขอเข่อเกลี้ยกล่อม “เด็กดี เราใกล้จะกลับกันแล้ว พี่ชายรอเราอยู่ที่บ้านนะ”
เขอเข่อเบะปากแล้วหยุดพูด
พ่อของเขอเข่อจ้องไปที่ด้านหลังของมู่กุยฝานแล้วพูดอย่างหดหู่ “ชายแก่คนนี้แข็งแกร่งมาก เขาเดินเร็วพอ ๆ กับบินเลย ขึ้นภูเขาก็เร็วลงภูเขาก็เร็ว...ผมไม่เคยเห็นคนแก่ที่คล่องแบบนี้มาก่อนเลย”
โรงพยาบาล
ซู่เป่านั่งเงยหน้าหลับตาอยู่บนเก้าอี้เพื่อให้ป้าหมอตรวจดู
“ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ต้องกลัวนะ” หมอปลอบใจ “แค่รอยขีดข่วนนิดหน่อย”
เธอถอดเสื้อของซู่เป่าออกเพื่อตรวจดูอย่างละเอียด และพบว่ามีเพียงบาดแผลที่แขนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามแผลที่แขนก็ลึกกว่าแผลที่อยู่บนหน้ามาก ดูจากตำแหน่งของแผลแล้วเหมือนเธอใช้แขนกั้นอะไรบางอย่างไว้
“หนูไปทำอะไรมา” หมอถามด้วยความประหลาดใจ
ซู่เป่าคิดอยู่พักหนึ่ง ไม่สามารถพูดได้ว่าเธอถูกวิหารขนาดใหญ่ถล่มทับลงมา และยังสามารถมานั่งอยู่ที่นี่ได้โดยที่ไม่ได้มีปัญหาอะไร
ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่
เธออยากจะบอกว่าเป็นบ้านหลังเล็กกว่านั้นซักหน่อย
ดังนั้นซู่เป่าจึงพูดว่า “ตอนนั้นหนูอยากกลับไปจับไก่ให้คุณยาย แล้วไก่ในเล้าวิ่งเร็วมาก แล้วไม่รู้ทำไมจู่ ๆ เล้าไก่ก็พังลงมา หนูก็เลยโดนกระเบื้องหลังคาข่วนเป็นแผล”
หมอ “อืมมม...”
เธอจี้ถามต่อ “แล้วผู้ใหญ่สองคนนั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นคนในครอบครัวหนูหรือเปล่า หนุ่มคนนั้นเป็นพี่ชายของหนูใช่ไหม ทำไมถึงไม่ให้เขาไปจับล่ะ”
ซู่เป่า “พี่ชายหนูทำไม่ได้ค่ะ!”
หมอ “...”
หมอทำความสะอาดแผลของซู่เป่าอย่างระมัดระวัง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเศษกระเบื้องหลงเหลืออยู่ในแผล จากนั้นจึงทายาห้ามเลือดและพันผ้าพันแผล
ส่วนแผลบนใบหน้าก็ทายาให้แค่นั้น
เมื่อซู่เป่าออกมาจากห้องตรวจ ใบหน้าเล็ก ๆ ที่สวยงามของเธอก็มีรอยแผลที่เห็นได้ชัดเจนสามถึงสี่รอย
หัวใจของซูอวิ๋นเจาและมู่กุยฝานจมดิ่งลง และคิดพร้อม ๆ กัน: กลับไปครั้งนี้จะโดนนายหญิงใช้มือเปล่าสับหัวหรือเปล่า
มู่กุยฝานคิดหาทาง “ฉันมีเรื่องที่ต้องทำนิดหน่อย อีกสองสามวันจะพาซู่เป่ากลับมา นายกลับไปก่อนเลย!”
ซูอวิ๋นเจาเหลือบมองมู่กุยาน และพูดตอบอย่างเข้าใจกัน “ผมก็มีสิ่งที่ต้องทำเหมือนกัน จะยังไม่กลับไปตอนนี้”
ซู่เป่ากระพริบตาและพูดอย่างตรงไปตรงมา "พ่อกับลุงเจ็ดกลัวจะถูกคุณยายใช้มือเปล่าสับหัวใช่ไหมคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...