ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 616

“ไอ้เสือตาย” ผีคลั่งรักยิ้มอย่างขมขื่น “เพราะหลิงฟางไม่มีน้ำนมและไอ้เสือก็หิว เขาอายุเพียงสองเดือนเท่านั้น เขาไม่รู้ความอะไรเลย...”

เมื่อลูกไม่ได้กินนมก็ยิ่งร้องไห้หนักมากขึ้น พอเขาร้องไห้ทุกคนก็จะถูกเปิดเผยที่ซ่อน

หลิงฟางจึงกอดลูกไว้แน่นและปิดปากลูกไม่ให้ร้องจนทำให้ลูกขาดอากาศหายใจตาย

“ฉันไม่มีเวลาโศกเศร้าเสียใจ ฉันแบกแม่ที่แก่ชราพร้อมลากจูงหลิงฟางแล้วหลบหนีต่อ”

เขานับไม่ถ้วนว่าถูกพวกทหารญี่ปุ่นไล่ฆ่าระหว่างหลบหนีกี่ครั้งและนับไม่ถ้วนว่ามีกี่คืนที่ไม่ได้นอนหลับสบาย

พ่อของเขาและพ่อแม่ของหลิงฟางล้วนจบชีวิตอยู่ในหมู่บ้าน และแม่ของเขาก็ถูกฆ่าตายระหว่างทางหลบหนี

หลิงฟางถูกยิงที่ขา เขาแบกเธอวิ่งหนีไม่รู้กี่ร้อยกิโลเมตร

“ไม่มีเสบียงและหิวจนหน้ามืด” ผีคลั่งรักพูด “หลิงฟางตีฉันและบอกให้ฉันทิ้งเธอไว้ แต่ฉันไม่ทำ”

ผีคลั่งรักไม่ได้พูดลงรายละเอียดมาก แต่เพียงแค่ประโยคสั้นๆ กลับเผยให้เห็นถึงความยากลำบาก สับสนและไร้ความช่วยเหลือในตอนนั้น

ในที่สุดพวกทหารญี่ปุ่นก็ถอยทัพกลับและพวกเขาก็ทยอยกลับหมู่บ้าน

“ถึงจะลำบากแค่ไหนก็ต้องใช้ชีวิตต่อไป หลังจากฝังศพคนที่เคารพรัก พวกเราก็ปลูกพืชผลบนที่ดินที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังและอยู่อย่างปากกัดตีนถีบ ผ่านไปสองสามปีพวกเราก็มีลูกคนที่สอง”

คราวนี้ดีหน่อยเพราะลูกกินไม่มากนัก หลิงฟางก็ค่อยๆ ฟื้นจากความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูก

แต่นึกไม่ถึงว่ากองทัพญี่ปุ่นจะเข้ามาอีกครั้งที่สอง คราวนี้พวกทหารญี่ปุ่นยิ่งโหดเหี้ยมกว่าเดิม

“พวกเธอไม่สามารถจิตนาการได้เลยว่ามีเรื่องราวโหดร้ายมากมายแค่ไหนที่ไม่สามารถบันทึกลงในตำราเรียนได้”

ลูกคนที่สองของเขาก็ตายอีกโดยถูกพวกทหารญี่ปุ่นต้ม

หลิงฟางรับเรื่องนี้ไม่ได้และต้องการสู้กับพวกทหารญี่ปุ่นอย่างสุดชีวิต แต่กลับถูกกดลงกับพื้น...

“เธอกำลังจะตายและฉันก็โดนสกัดจุดแขนขา แต่จะปล่อยภรรยาของตัวเองไปได้อย่างไร”

เขานึกย้อนวันเวลาในตอนเด็กที่เขาและเธอเดินจับปลาเท้าเปล่าริมแม่น้ำและขึ้นภูเขาไปเก็บผลไม้ป่าด้วยกัน

มีครั้งหนึ่งพวกเขาติดอยู่บนภูเขาเพราะฝนตกหนัก เขาแบกเธอกลับและเธอก็ร้องไห้ตลอดทาง เขาจะปล่อยให้เธอตายโดยไม่ช่วยได้ยังไง

“ฉันถือโอกาสแบกเธอหนีตอนที่พวกทหารญี่ปุ่นหลับ”

ผีหลายใจตกตะลึง “เดี๋ยวก่อน คุณโดนสกัดจุดแขนขาไม่ใช่เหรอ แล้วแบกเธอได้ยังไง”

ผีคลั่งรักยิ้มอย่างขมขื่น “เดินไม่ได้ก็คลาน ถึงคลานก็ต้องพาเธอออกไป”

หลิงฟางของเขาต้องทนทุกข์ทรมานมากเกินไปเพราะเขาไม่มีความสามารถ เขาทำได้เพียงมองดูเธอถูกแปดเปื้อนและแทบขาดใจ เขาไม่สามารถปล่อยให้เธอนอนตายบนพื้นได้

เขาคลานไปแบบนั้น ทั้งหลบทั้งซ่อนและมีเสียงร้องเอะอะของพวกทหารญี่ปุ่นอยู่ด้านหลัง หลิงฟางร้องไห้ขอร้องให้เขาทิ้งเธอไว้

“ฉันไม่ฟัง” ผีคลั่งรักยังคงพูดเพียงสามคำสั้นๆ แต่แสดงถึงการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดในตอนนั้น

และแน่นอนว่าสุดท้ายเขาก็หนีไม่พ้น เขาเป็นลมสลบไปและนับตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่ได้ข่าวของหลิงฟางอีกเลย

ตอนเขาฟื้นขึ้นมาอีกที ในหมู่บ้านก็ไม่มีใครเหลือแล้ว

ในยุคสงคราม ไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่าตัวเองจะมีชีวิตรอด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการดูแลครอบครัว ไม่รู้ว่ามีกี่ครอบครัวที่บ้านแตกสาแหรกขาด

หลายครั้งที่บ้านแตกก็ให้มันแตกไป คนตายก็ตายไป คนส่วนใหญ่ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะไปตามหาจึงทำได้เพียงชินชาและมีชีวิตอยู่รอดตามสัญชาตญาณเท่านั้น

“แต่ฉันไม่ยอมแพ้ ฉันถามคนที่มีชีวิตรอดและพวกเขาก็บอกว่าหลิงฟางถูกพาตัวไปแล้ว”

ถึงแม้ว่าจะโดนสกัดจุดแขนขา แต่เขาก็ยังคงตามไป เขาคืบคลานไปตลอดทาง ถ้าหิวก็กินดินกินหญ้า ถ้ากระหายก็หมอบดื่มน้ำในแอ่ง

ต่อมาเขาได้รับการช่วยเหลือจากกองโจร ตอนที่เขาสืบถามข่าวอีกครั้งก็ได้รู้ว่าหลิงฟางก็ได้รับการช่วยเหลือเช่นกัน แต่ถูกนำตัวไปยังสถานที่อื่นพร้อมกับกองทัพใหญ่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน