นี่เป็นคนแรกเลยที่พูดอย่างมั่นใจว่าเชื่อใจเขา
ถึงแม้ว่าเพื่อนรอบตัวเขาจะบอกว่าเชื่อใจเขาก็เถอะ แต่อย่างน้อยก็ถือเป็นการปลอบใจเขาเล็กน้อย แต่ซู่เป่าเชื่อเขาโดยบริสุทธิ์ใจจริงๆ เขามองออก
ซู่เป่าเอ่ย “เพราะในร้านกาแฟไม่มีผีอยู่จริงๆ ถ้าเกิดว่าหญิงสาวคนนั้นถูกทำร้ายที่นี่จริงๆละก็ ยังไงก็ต้องมีวิญญาณเร่ร่อนอยู่แถวนี้แน่ๆ”
อีกอย่างก็คือ เธอมองดูโหงวเฮ้งของเจ้าของร้านก็ดูไม่ใช่คนร้ายอะไร คงไม่น่าจะทำเรื่องลักพาตัวผู้หญิงอะไรประเภทนี้หรอก
เจ้าของร้านยิ้มอย่างขมขื่น “ขอบคุณมากนะ!”
ว่าแล้วว่าต้องมีการเอ่ยถึงผีอีก…แต่แนวคิดก็แค่แตกต่างจากคนอื่นหน่อยเท่านั้นเอง
เขาถอนหายใจ “วันนี้ผมขอเลี้ยงเองนะครับ! เปิดมาสามวันได้มาแค่ออเดอร์เดียว จะได้กำไรไหมก็ไม่สำคัญหรอกครับ พวกคุณอยากกินอะไรเพิ่มไหมครับ?”
ซู่เป่าร้องว้าว! เจ้าของร้านคนนี้คบได้! เลี้ยงจริงๆด้วย!
“ขอบคุณนะคะ แต่ว่าไม่เป็นไรค่ะ ไม่งั้นกินอิ่มเกินไปแล้วกลับไปอาจกินข้าวที่ยายทำไม่ลง แล้วโดนพ่อจะโดนยายดุเอาได้”ซู่เป่าคิดดีแล้วก็พูดออกไปอย่างจริงจัง
มู่กุยฝานขอบคุณนะ ที่นานๆทียังจำเขาได้น่ะ
เจ้าของร้านมองใบหน้าที่น่ารักของเธอและรู้สึกว่าเธอพูดจาเหมือนเป็นผู้ใหญ่เลย ทั้งจริงจังและดูน่ารัก
“ถ้างั้นเชิญพวกคุณดื่มกาแฟกันตามสบายเลยนะครับ! กาแฟนมพวกนี้ผมไม่คิดตังค์ครับ”
ถึงยังไงก็ไม่มีลูกค้าเข้าเลย ถ้าพวกเขาไม่มากินที่นี่ ยังไงของพวกนี้ก็ทิ้งอยู่ดีเสียดายของ
ซู่เป่าคิดแล้วคิดอีก “เอาอย่างงี้ เดี๋ยวหนูจะช่วยไขคดีให้เอง!”
เจ้าของร้องขำไม่ไหว ยัยเด็กตัวกะเปี๊ยกจะมาช่วยเขาไขคดีอะไรได้?
ทางตำรวจมาตั้งกี่ครั้งก็ยังไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้เลย
“ได้เลย ขอบใจนะ”เขาตกปากรับคำไป
ปรากฏว่าซู่เป่าดันเดินวนไปวนมาอยู่ในร้านจริงๆ
“จื่อ โฉ่ว หยิน เหม่า(สี่ราศีล่าง)…”ซู่เป่าเดินไปด้วยคำนวณไปด้วย
เรื่องเล็กๆแบบนี้ ยังสามารถคำนวณดูหน่อยได้
สุดท้ายซู่เป่าก็ไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูร้านกาแฟ
เอ๊ะ มีปัญหาที่ประตูนี้จริงเหรอ?
เธอยกมือลูบที่พื้นดู…ปรากฏเหมือนถูกไฟฟ้าช็อตเลยก็เลยรีบดึงมือกลับมาทันที!
ซูเหอเวิ่นถามเขาทันทีว่า “เกิดอะไรขึ้นๆ!”
ซู่เป่า “…”
มู่กุยฝานกังวลก็เลยอุ้มเธอขึ้นมาเช็คดูอย่างละเอียด “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ซู่เป่าส่ายหัว “ไม่เป็นไรค่ะ…”
เธอหดมือเล็กๆของเธอไว้
“ฮือๆๆ…หนูรู้แล้วว่าทำไมหมาถึงร้องโหยหวนตอนจะเข้ามา!”
พอเธอพูดคำนี้ออกไป คนนอกประตูก็เตรียมยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเธอทันที
“ทำไมล่ะ?” พวกเขาถาม
ซู่เป่าน้ำตาคลอ “ที่ประตูมีไฟรั่ว!”
ทุกคน “…”
เป็นไปได้ยังไง!
ทุกคนถ่ายเรื่องนี้มาจะเป็นเดือนนึงแล้ว ถ้าเกิดเป็นเพราะไฟรั่วพวกเขาก็ต้องรู้ก่อนสิ
เด็กก็พูดมั่วไปเรื่อย
ซู่เป่าเอ่ย “เรื่องจริงนะ ถ้าไม่เชื่อพวกคุณก็ลองเดินเข้ามาในร้านดูสิ จะได้รู้ไง!”
มีชายคนหนึ่งหัวเราะฮ่าๆ “ขำมาก พวกเราตั้งหลายคนยังไม่เจอเลยแล้วเธอเจอเนี่ยนะ? ถ้าเกิดไฟรั่วจริงละก็ ตอนหมาเดินเข้าไปก็คงโดนไฟช็อตจนไหม้แล้วมั้ง”
“ใช่ๆ เป็นไปไม่ได้ที่ไฟจะรั่ว พวกเราไปๆมาๆที่นี่ตั้งหลายครั้งแล้วยังไม่เห็นใครโดนไฟดูดสักคนเลย”
“ต้องเป็นเพราะผีมาสร้างเรื่องไว้แน่ๆ พวกคุณยังไม่ได้เบิกเนตรหยินหยางก็เลยมองไม่เห็น แต่ฉันสามารถมองเห็นได้! ตรงหน้าพวกคุณ…มีผีสาวตัวหนึ่งยืนจ้องเขม็งมาที่พวกคุณ…”มีบล็อกเกอร์คนหนึ่งแกล้งข่มขู่
“พวกคุณลองคิดดูสิว่าทำไมพวกเราที่เป็นมนุษย์เดินเข้าไปถึงไม่เป็นอะไร แต่หมาทุกตัวกลับร้องโหยหวน? นั่นก็เป็นเพราะว่าหมาสามารถมองเห็นว่าตรงนี้มี ‘คน’อยู่…”
ว่าแล้วว่าโดยรอบจะเริ่มโห่ร้องครึกโครมขึ้นมาและทำให้บรรยากาศดูน่าตื่นเต้นขึ้นไปอีก
มู่กุยฝานคิด นี่คงเป็นผลลัพธ์ที่พวกเขาต้องการมั้ง!
เพราะฉะนั้นถ้าบอกไปว่าไฟรั่ว แวบแรกพวกเขาก็คงไม่มีทางเชื่อ อย่างไรก็ตามถ้าเกิดเป็นเพราะไฟรั่วจริงๆ หลังจากนี้พวกเขาคงไม่มีอะไรให้ตามถ่ายต่อแล้ว
ซู่เป่าเอ่ย “พวกคุณต้องถอดรองเท้า!”
ที่หมาร้องโหยหวนตอนเดินเข้ามาก็เพราะหมาไม่ใส่รองเท้าไงล่ะ!
ซูเหอเวิ่นสนับสนุนซู่เป่า “ใช่ หมามันเดินเท้าเปล่า แต่คนใส่รองเท้า เพราะว่ารองเท้าเป็นฉนวนไฟฟ้า แน่นอนว่าไม่มีทางโดนไฟดูดน่ะสิ…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...