มู่กุยฝานกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิด เขาขมวดคิ้วพร้อมกล่าว “คนแก่คนนี้ไม่ได้เพิ่งมาเช้านี้ เธอรออยู่ที่นี่มาทั้งคืนแล้ว”
ซู่เป่ามองไปทางภาพกล้องวงจรปิด
ในจอภาพ คุณยายดึงแผ่นพลาสติกไว้แน่น และนอนตะแคงอยู่บนม้านั่งหินตัวยาว
ฟ้าฝนคะนอง ร่างของเธอสั่นระริก เธอรอเช่นนี้ไปทั้งคืน โดยไม่รู้ว่าหลับหรือสลบไปกันแน่
ระหว่างนั้นเธอเอ่ยขานเป็นพักๆ ชั้นสองของตึกตรงหน้ามีไฟสว่างขึ้น แต่ก็ดับไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครตอบสนองเธอทั้งนั้น
จนฟ้าสว่าง คนแก่ค่อยๆ ลืมตาตื่น เธอลุกขึ้นยืนสั่นๆ และเดินกลับเส้นทางเดิมอย่างยากลำบาก…
“คุณพ่อ…” ซู่เป่ารู้สึกอยากร้องไห้ “เธอไปไหนกัน”
มู่กุยฝานลุกขึ้นยืน มองออกไปทางไกล จู่ๆ สายตาเขาก็เฉียบคม พร้อมกล่าว “ไม่รู้สิ แต่ตอนนี้เธอกลับมาอีกแล้ว”
ทิศไกล คนแก่เดินผ่านแปลงผักสั่นๆ และตรงมาทางด้านนี้
สายตาของเธอเหม่อลอย ราวกับไม่มีความรู้สึก และไม่เห็นศพของตน
คนแก่เดินไปหยุดหน้าม้านั่งหิน พร้อมนั่งลงด้วยท่าทีโคลงเคลง มือสั่นคลอนของเธอกำแผ่นพลาสติกสีขาวไว้แน่น
จากนั้นดวงตาขุ่นมัวมองไปทางตึก พร้อมตะโกน “ลูกชาย…เปิดประตูที แม่หนาว…”
“เปิดประตูที…”
เธอตะโกนหลายที จากนั้นหยุดลง จดจ้องไปบนตึก ผ่านไปพักใหญ่ ไม่มีใครมาเปิดประตูให้เธอ เธอจึงตะโกนอีกครั้ง
“ลูกชาย...เปิดประตูเถอะ แม่กินไม่เยอะ แม่ดูแลตัวเอง อาบน้ำล้างหน้าเองได้...เปิดประตูเถอะ”
เสียงชราเศร้าโศกตะโกนขึ้นอีกครั้งจากนั้นหยุดลง เธอรอไปอีกพักหนึ่ง ก็ยังคงไม่มีคนมาเปิดประตูเช่นเคย
เธอขดร่างเพราะความหนาว และสั่นระริกอย่างอดไม่ได้ “เปิดประตูหน่อย…น้องชายก็ไม่เปิดประตูให้แม่ แม่จะหนาวตายแล้ว…หนาวมากจริงๆ…”
คนแก่กล่าวกระซิบ ดวงตาขุ่นมัวแผ่ไปด้วยความผิดหวังและสับสน เธอยกมือปาดน้ำตา โก่งหลังลุกขึ้น จากนั้นเดินไปทางถนนเส้นเล็กอย่างผิดหวัง
ซู่เป่าเดินตามขึ้นไปโดยไม่พูดไม่จา
ซูเหอเวิ่นที่ยกกล้องถ่ายรูป และเห็นทุกอย่างกับตา อ้าปากค้างอย่างอดไม่ได้
หานหานขยับยืนข้างเขา กำแขนเสื้อของเขาไว้แน่น พร้อมถามอย่างงุนงง “หมายความว่ายังไง คุณยายมาหาลูกชายของเธองั้นเหรอ ทำไมลูกชายของเธอถึงไม่เปิดประตูล่ะ…ไม่มีคนอยู่บ้านงั้นเหรอ”
ซูเหอเวิ่นเม้มปาก พร้อมเอ่ยตอบ “เลิกถามแล้วไปกันเถอะ”
มู่กุยฝานถือร่ม ยื่นให้กับซูเหอเหวิน “ตามขึ้นไป”
เขาไม่ได้ไปด้วย แต่เลือกที่จะเฝ้าศพของหญิงชราอยู่ที่เดิม และแผ่แววเยือกไปทางชั้นบนทีหนึ่ง
ผ้าม่านชั้นบนขยับ และหยุดนิ่งลงในพริบตา
ไม่ใช่ว่าไม่มีคนอยู่บ้าน พวกเขารู้กระทั่งหญิงชราตายไปแล้ว
แต่กลับมองอย่างแน่นิ่งจนถึงตอนนี้ กระทั่งเธอตายยังไม่ยอมมาเป็นคนเก็บศพคนแรกให้เธอเลยงั้นเหรอ
ซูจิ่นม่อนิ่งอึ้งไปนานแล้ว เมื่อกี้ในกล้องของซูเหอเวิ่นมีคนแก่ที่เหมือนกันศพตรงหน้าไม่มีผิดปรากฏ
มะ-หมายความว่ายังไงกัน
มู่กุยฝานเหล่มองเขาทีหนึ่ง “รีบตามพวกเขาไปดูสิ พวกเขาเป็นแค่เด็กๆ…หรือคุณจะเฝ้าศพที่นี่ก็ได้นะ”
ซูจิ่นม่อตามขึ้นไปในทันที “ฉันไปดูซู่เป่า”
ซูเหอเหวินถือร่มตามอยู่หลังซู่เป่านานแล้ว และคอยกางร่มให้เธอเงียบๆ
วิญญาณของหญิงชราเดินช้ามาก ทั้งสั่นคลอน ทั้งโคลงเคลง ราวกับก่อนตายไม่มีผิด ลมพัดแผ่นพลาสติกสีขาวบนตัวของเธอ เธอใช้สิ่งนี้ในการบังฝน บนตัวเธอสวมเพียงเสื้อแขนสั้น ไม่มีเสื้อคลุมตัวอุ่นและไม่มีชุดกันฝนคอยบังฝน
ไม่รู้ว่าก่อนตายเธอใช้ชีวิตยังไงกัน…
พวกซู่เป่าค่อยๆ เดินตาม
หญิงชราเดินไปเรื่อยๆ เดินถึงถนนด้านนอก หลังเดินไปอีกช่วงหนึ่ง ก็เดินมาถึงอีกบ้านหนึ่ง
“เหล่าเอ้อร์…อยู่บ้านไหม” เธอเรียกอย่างระมัดระวัง
ไม่มีใครขานตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...