ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 696

“พี่น้องอย่างพวกเธอ...ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า” ชายชราที่เฝ้าดูตัวสั่นระริก เขาเองก็แก่แล้ว...และยิ่งเข้าใจถึงความสิ้นหวังในหัวใจของหญิงชราที่ตายไป

ชายชราอดไม่ได้ที่จะเช็ดน้ำตาและด่าทออย่างรุนแรง “แม่ของพวกเธอสามารถเลี้ยงดูพวกเธอสี่คนได้ แต่พวกเธอทั้งสี่คนกลับดูแลแม่คนเดียวไม่ได้!”

“พวกเธอมันสัตว์เดียรัจฉาน เลวยิ่งกว่าสัตว์เดียรัจฉาน! น่าจะปล่อยให้พวกเธอจมน้ำตายในถังฉี่ตั้งแต่เกิดเลยซะก็ดี!”

“พวกเธอมันไม่ใช่คน กากเดนสังคม ขยะ...”

ชายชราด่าสาปแช่ง และลูก ๆ ของเขาก็รีบดึงเขาไปอย่างรวดเร็ว

แต่ก็ไม่สามารถหยุดการด่าทอจากผู้คนรอบตัวได้ และลูก ๆ ในตระกูลไช่ก็ถูกต่อว่าอย่างรุนแรง

“จับมัน! ยิงมัน!”

“น่าขยะแขยงที่เรามีเพื่อนบ้านแบบนี้”

“โอ๊ย ถ้าเราเห็นเร็วกว่านี้ละก็...”

แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

ละก็อะไร?

เพื่อนบ้านไม่รู้จริง ๆ หรือว่าไช่ต้าหย่งปฏิบัติต่อแม่ของตัวเองแบบนี้

มันดูจุ้นจ้านไปหน่อย หญิงชราถูกไช่ต้าหย่งต่อว่ารุนแรงมากขึ้น และพูดว่าเธอให้เพื่อนบ้านรู้จนตัวเองไม่สามารถเงยหน้าขึ้นได้

บางคนกลัวการดูแล ตัวเองจะสามารถทำอะไรได้บ้าง ตัวเองจะเอาคนสูงอายุมาเลี้ยงไหม

บางครั้งก็โทรไปบ้านพักคนชราและชุมชนก็เคยมาปรับแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรดีขึ้น หญิงชรายังคงไป ๆ มา ๆ บ้านลูกชายทั้งสามคน แก่เฒ่าไร้ที่พึ่งพิง

ความเป็นจริงมักจะโหดร้ายกว่าที่คิด

ไช่ต้าหย่งและคนอื่น ๆ ก้มหัวลงและไม่พูดอะไรอีก

แต่แท้จริงแล้วในใจพวกเขากลับไม่พอใจเอามาก ๆ

ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาฆ่าแม่ของตัวเอง

ตรงกันข้ามหลังจากดูวีดีโอแล้วก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นความผิดของพี่น้องคนอื่น ๆ

ไช่ต้าหย่งคิด ‘ถ้าพี่รองและน้องเล็กเป็นคนเปิดประตู แม่จะตายที่หน้าบ้านของเขาได้ไหม ทำไมเขาถึงถูกกล่าวหาแบบนี้’

ไช่คังคิด ‘เขาช่างเจอเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลจริง ๆ ถ้าพี่ใหญ่และน้องเล็กเปิดประตู เขาจะพัวพันกับเรื่องนี้ได้อย่างไร เพราะเดิมทีในเดือนนี้เขาไม่ใช่คนที่เลี้ยงดูแม่!’

ไช่เสียวหย่งคิด ‘น่ารังเกียจมาก แม่ตะโกนที่ประตูบ้านของทุกคนทั้งคืน และพี่ชายคนโตก็ไปเปิดประตูไม่ได้ มีคนเนรคุณแบบนี้ได้ยังไง’

ไช่โม่ลี่ยิ่งรู้สึกน้อยใจ ‘ลูกสาวที่ออกเรือนไปแล้วก็เปรียบดั่งน้ำที่ได้สาดออกนอกบ้านไป คนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมที่สุดคือเธอ ถ้าเธอแยกบ้านมาอยู่ในเมืองแล้ว ต่อให้แบ่งที่ดินในหมู่บ้าน เธอก็จะไม่เพิกเฉยต่อแม่ของเธอ ลูกสาวที่ออกเรือนแล้วอาศัยอยู่ในบ้านสามี เธอก็จนปัญญาเหมือนกันนะ’

ลูก ๆ หลายคนในตระกูลไช่ถูกจับกุม

ผลสุดท้ายคือมีหลายคนถูกตัดสินฐานละทิ้งและเป็นเหตุทำให้แม่ของตัวเองเสียชีวิต

ไช่ต้าหย่งถูกตัดสินจำคุกสามปี ไช่คังและไช่เสียวหย่งถูกตัดสินจำคุกหนึ่งปีครึ่ง และไช่โมลี่ถูกตัดสินจำคุกแปดเดือน

เหล่าเพื่อนบ้านที่รู้คำตัดสินต่างก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงโดนตัดสินแค่นี้

แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาพูดไม่ออกขึ้นไปอีกก็คือ ลูกสะใภ้เริ่มทะเลาะกันว่าครอบครัวใครจะดูแลเรื่องการจัดงานศพของหญิงชรา...

มันช่างเต็มไปด้วยความโชคร้าย ทั้งไต้ฝุ่น ฝนตก ลมแรง และน่าเบื่อหน่าย

ซู่เป่าที่กลับมาถึงเมืองจิงแล้วรู้สึกหดหู่ใจ ไช่ต้าหย่งและคนอื่น ๆ ช่างน่ารังเกียจ ไม่คิดเลยว่าพวกเขาสมรู้ร่วมคิดกัน และคนในตระกูลของพวกเขาก็น่ารังเกียจเช่นกัน

“พวกเขาเองก็มีลูก พวกเขาไม่กลัวเลยเหรอว่าถ้าแก่ตัวไปก็จะโดนแบบนี้เหมือนกัน” ซู่เป่าถาม

นายหญิงซูรู้เรื่องนี้แล้ว จึงลูบหัวของเธอแล้วถอนหายใจ “เราหวังว่าคนเลวจะได้รับผลกรรมของตัวเอง แต่ความจริงก็คือ ยิ่งเป็นคนเห็นแก่ตัวมากเท่าไร ก็ยิ่งดีเท่านั้น”

เหมือนเวลาเด็กร้องไห้ก็มีนมให้ดื่ม

ในความเป็นจริงมีคนแก่ที่เห็นแก่ตัวมากมาย เช่น คนที่เต้นสแควร์ ไม่สนใจว่าจะรบกวนคนอื่น แย่งสนามบาสเก็ตบอล สนามฟุตบอลไปจนถึงถนน แต่พวกเขาก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมาก

การต่อว่าของคนอื่น? ขอโทษ มันไม่สำคัญอะไรต่อพวกเขาและไม่ได้เข้าหูพวกเขาเลย

การเห็นแก่ตัวนั้นหมายถึงพวกเขาเองก็มีความต้องการในตัวลูก ๆ ด้วย ลูก ๆ จะไม่ดูแลไม่เลี้ยงดูก็ไม่ได้...มีตัวอย่างแบบนี้ให้เห็นอยู่มากมาย

“นั่นถึงมีคำพูดที่ว่าทำดีไม่ได้ดีเหรอคะ” ซู่เป่าถาม

นายหญิงซูคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด “เหตุการณ์แบบนี้มีอยู่มากมายจริง ๆ ที่ใดมีแสงที่นั่นย่อมมีเงา ที่ใดมีความมืดที่นั่นย่อมมีแสงสว่าง ในสังคมนี้มีสถานการณ์มากมายที่ผู้คนเมินเฉย แต่ก็มีสังคมแห่งความรักและช่วยเหลือซึ่งกันและกันที่น่าประทับใจอยู่มากมาย ขึ้นอยู่กับว่าเรามองเห็นอะไร...และเราเลือกที่จะเป็นใคร”

ซู่เป่าพยักหน้า

ถึงอย่างนั้น

เธอก็ไม่ได้รู้สึกดีใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน