ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 699

หญิงชราคิดว่าหลังจากลูก ๆ เรียนจบและเริ่มทำงาน พวกเขาจะได้เบาลงและเริ่มมีความสุข

ใครจะรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปอีกครั้งหลังจากที่ลูก ๆ เริ่มทำงาน

“ลูกชายคนโตสอบราชการไม่ติด เขาบ่นว่าครอบครัวไม่มีเส้นสาย ตอนสอบครั้งที่สองเขาบอกว่าจะใช้เงินหนึ่งแสนหยวนเพื่อหาเส้นสาย พ่อเขาก็เลยให้ไป...”

แต่ลูกชายคนโตใช้เงินไปหนึ่งแสนหยวน แต่ได้รับแค่ตำแหน่งระดับต้น ๆ ในชนบทเท่านั้น สุดท้ายลูกชายคนโตก็ลาออกและกลับมา

เขาบอกว่ามันได้เงินน้อยและงานหนัก ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะกลับเข้าเมืองได้ ดู ๆ แล้วไม่มีความหวัง

“พอลูกชายคนรองแต่งงาน อีกฝ่ายก็อยากให้เขาเข้าบ้าน เรารู้สึกว่าถ้าเด็กผู้ชายคนหนึ่งเข้าบ้าน คนที่จะต้องลำบากและถูกดูหมิ่นก็คือเขา เขาไม่เห็นด้วย ลูกคนที่สองจะไม่ยอมเลิกเป็นอันขาด ฝ่ายหญิงจึงบอกว่าเธออยากซื้อบ้าน ถ้าไม่ซื้อบ้านก็ไม่แต่งงาน...”

ต่อมาก็เลยต้องซื้อบ้านให้ลูกชายคนรอง ตามธรรมเนียมของพวกเขาคือเมื่อลูกชายแต่งงานพ่อแม่จะซื้อบ้านให้เป็นสินสอด ซึ่งทุกคนก็ทำแบบนี้

น่าเสียดายที่หลังจากซื้อบ้านแล้วไม่ถึงสองปีลูกชายคนรองก็หย่า บ้านจึงตกเป็นของฝ่ายหญิง

ต่อมาเมื่อลูกชายคนรองแต่งงานครั้งที่สอง ก็ยังขอให้เขาเข้าบ้านอีกเหมือนเดิม...พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยินยอมและให้เงินลูกชายคนรอง จากนั้นเขาก็สร้างบ้านหลังปัจจุบันด้วยความช่วยเหลือจากพ่อของภรรยา

ซู่เป่าอุทาน “ถ้าอย่างนั้นพวกคุณก็ต้องรวยมากเลยสิคะ...”

เมื่อเธอเห็นการตายของหญิงชรา เธอก็ได้แต่เศร้าโศกและคิดว่าครอบครัวของพวกเขาไม่มีเงิน

ใครจะรู้ว่าพวกเขาสามารถให้เงินหนึ่งแสนหยวนกับลูกชายคนโตเพื่อเส้นสาย ซื้อบ้านให้ลูกชายคนรอง และสุดท้ายก็ให้เงินสำหรับการแต่งงานครั้งที่สองอีกด้วย...สรุปแล้วลูกทุกคนได้รับส่วนแบ่งทรัพย์สินของครอบครัวหมดเลย

“แล้วลูกสาวและลูกชายคนเล็กล่ะ” ซูเหอเวิ่นถาม

ชายชราถอนหายใจ “ลูกสาวบอกว่าอย่าให้เงินหนึ่งแสนหยวนลูกคนโตเพื่อเส้นสาย อย่าซื้อบ้านให้ลูกชายคนรอง ลูกสาวฉันโกรธมาก และลูกชายสองคนก็บอกว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิงจะมาแย่งทรัพย์สินลูกชาย”

พี่ชายและน้องสาวทะเลาะกัน ลูกสาวโกรธและบอกว่าไม่ยุติธรรม ลูกสาวทำอะไรมาตั้งมากมายแต่กลับไม่ได้อะไรเลย ส่วนลูกชายก็แทบจะล้างผลาญทรัพย์สินในบ้าน

ซู่เป่าพยักหน้า “เพราะอย่างนี้นี่เอง!”

ตามที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ ลูก ๆ ในตระกูลไช่ต่างก็ฉลาดซุกซน ตอนจะทำงานก็เอาแต่อ้างว่าจะไปทบทวนหนังสือ

ลูกสาวรู้สึกโกรธในใจ แต่ยังคงช่วยพ่อแม่ทำงานอยู่

ตัวเธอเองอาจรู้สึกว่าพี่น้องของเธอไว้ใจไม่ได้

หญิงชรามีสีหน้าขมขื่น “เราไม่ได้รักลูกชายมากกว่าลูกสาว ในสมัยนั้นใคร ๆ ก็บอกว่าเด็กผู้หญิงเรียนไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่เราสองคนก็กัดฟันส่งเธอเรียนถึงระดับมัธยมปลายต่อให้จะยากแค่ไหนก็ตาม ถึงไม่ได้สอบเข้ามหาวิทยาลัยเราก็ใช้เงินส่งเธอไปเรียนวิทยาลัย…”

“เมื่อเธอแต่งงาน เราให้เงินหนึ่งแสนหยวนเธอติดตัวไว้ และครอบครัวสามีของเธอก็ให้เงินหนึ่งแสนหยวนเป็นค่าสินสอดทองหมั้นเจ้าสาว แล้วเราก็คืนเงินทั้งหมดให้เธอ...”

หลังจากที่ลูกสาวแต่งงานแล้ว ที่ดินในหมู่บ้านก็แบ่งออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน ส่วนหนึ่งสำหรับเธอและอีกส่วนหนึ่งสำหรับลูกชายคนเล็ก

แต่ลูกสาวยังคงรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมและบอกว่าพ่อแม่ของเธอไม่ได้ช่วยเหลือเธอ แต่ช่วยแค่พี่ชายของเธอเท่านั้น

“ตอนยังเด็กลูกคนสุดท้องชอบเที่ยวเล่น แต่หลังจากที่เขาออกจากโรงเรียนตอนมอต้นกลางคันก็เอ้อระเหยลอยชาย มันยากที่จะเอาร้านค้าที่บ้านให้เขาและไม่มีอนาคต...”

“สุดท้ายเขาก็ไปหลงรักผู้หญิงคนหนึ่งและแต่งงานกันในหมู่บ้าน เขามักตำหนิเราเสมอว่าตอนเด็ก ๆ ไม่ใส่ใจเขา พี่ชายทั้งสองต่างเป็นคนในเมือง มีเขาคนเดียวที่อยู่บ้านนอก”

อย่างไรก็ตามพวกเขาพยายามอย่างเต็มที่แล้วที่จะให้สิ่งที่ลูก ๆ ต้องการ แต่ยิ่งให้มากเท่าไร ลูก ๆ ก็ยิ่งรู้สึกไม่ยุติธรรมมากขึ้นเท่านั้น

หญิงชราหลั่งน้ำตา “เราช่วยคนนี้ คนนั้นก็เสียใจ เราช่วยคนนั้น คนนี้ก็โกรธ เรามอบทุกอย่างให้พวกเขาแล้ว แต่พวกเขากลับคิดว่าฉันแก่และไร้ประโยชน์”

บางทีเธอก็ไม่รู้ว่าเธอทำอะไรผิดกันแน่

เธอรักลูกทุกคน ลูกคนไหนอยากได้อะไรก็ให้หมด

หลังจากแบ่งอสังหาริมทรัพย์ที่ดินในชนบทจะถูกแบ่ง และหลังจากแบ่งที่ดินในชนบทมรดกก็จะถูกแบ่ง

ทำอาหารให้กิน ซักผ้า ทำความสะอาดห้องให้พวกเขา ไปรับพวกเขาหลังเลิกเรียน ถือกระเป๋านักเรียนให้ ถือของให้

หลังจากพักอยู่ในโรงเรียนมาหนึ่งสัปดาห์ก็มาเอาเสื้อผ้าไปสัปดาห์ละสองครั้ง นำเสื้อผ้าสกปรกของพวกเขากลับบ้านไปซัก ซักจนสะอาดและพับให้เรียบร้อยก่อนที่จะเอาไปให้พวกเขา

หลังเลิกงานเห็นใจที่พวกเขาทำงานหนัก เมื่อกลับมาบ้านก็เอารองเท้าและถุงเท้าสกปรกไปซักและขัดให้...

แต่ผลสุดท้ายก็คือเขาตะโกนลั่นหน้าประตูบ้านลูกชายคนโตทั้งคืน แต่ลูกชายคนโตกลับแสร้งทำเป็นว่าไม่ได้ยินทั้งคืน

ใบหน้าของหญิงชรามีแต่ความขมขื่น “เจ้าตัวเล็ก เธอคิดว่าฉันทำอะไรผิดไปหรือเปล่า”

ซู่เป่าส่ายหัว พยักหน้า และส่ายหัวอีกครั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน