ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 769

มู่กุยฝานคิดว่าทางเข้านรก จะมีผีหรือวิญญาณเร่ร่อน และ ‘คน’ ที่มือขาดเท้าขาดมากมาย

แต่ในร่องลมเย็นๆ พัดโชยมา ไม่มีเงาผีเลยแม้แต่ตนเดียว เงียบจนน่าประหลาดใจเล็กน้อย

มือข้างหนึ่งของซู่เป่าจูงป้าสะใภ้ใหญ่ มืออีกข้างหนึ่งจูงพ่อ เดินเข้าไปข้างใน

มู่กุยฝานคำนวณเวลา เดินไปทั้งหมดหนึ่งชั่วโมง ยิ่งลงไปก็ยิ่งหนาว คนที่ร่างกายแข็งแรงอย่างมู่กุยฝานยังอดไม่ได้ที่จะเนื้อตัวสั่นเทา

ตัวแข็งเป็นหมาไปเลยจริงๆ

ทว่าซู่เป่ากับเหยาหลิงเยว่กลับไม่รู้สึกใดๆ

“พ่อคะ พ่อหนาวไหมคะ” ซู่เป่าถาม

มู่กุยฝานพยักหน้า “ที่นี่หนาวจริงๆ...ซู่เป่า ถ้าที่นี่เป็นทางเข้าจริงๆ หนูเข้าไปแล้วต้องระวังตัวมากๆ นะ”

“พ่ออาจจะไปเป็นเพื่อนหนูไม่ได้ แต่พ่อจะพยายาม...ซู่เป่า??”

มู่กุยฝานยังพูดไม่ทันจบดี ทีแรกมือน้อยๆ ยังจูงมือของตนอยู่ทว่าจู่ๆ ก็ปล่อยไป

เขาได้แต่มองซู่เป่าจูงมือเหยาหลิงเยว่เดินไปข้างหน้า เงาร่างยังอยู่ ทว่าราวกับไม่ได้ยินเสียงของเขาอย่างนั้น!

“ซู่เป่า!” มู่กุยฝานกัดฟันเดินไปข้างหน้า พบว่าตนเองไม่สามารถก้าวต่อไปได้แม้แต่นิ้วเดียว ซู่เป่าไม่ได้ยินเสียงของเขาจริงๆ

มู่กุยฝานจึงมองดูซู่เป่ายิ่งเดินห่างออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ ทั้งอย่างนี้

เงาร่างน้อยๆ หายวับไปในหมอกหนาทั้งอย่างนี้

“ซู่เป่า…”

มู่กุยฝานกระซิบ หย่อนก้นล้มลงไปนั่งกองกับพื้น มองไปทางทิศที่ซู่เป่าหายไปอย่างตกตะลึง

สุดท้ายเขา...ก็แยกกับเจ้าเด็กดีแล้ว

นิ้วเรียวยาวของเขาเสยเข้าไปในผมดำขลับ มู่กุยฝานจับผม กดหว่างคิ้ว สุดท้ายก็ลุกยืนขึ้นมา

“เดี๋ยวพ่อมานะ ซู่เป่า”

มู่กุยฝานหยิบหินขึ้นมาก้อนหนึ่ง แล้วลงมือวาดหนักๆ บนผนังหิน

“ครั้งนี้มาเป็นเพื่อนหนูได้แค่ตรงนี้ ครั้งหน้าพ่อจะพยายามเดินไปข้างหน้าเป็นเพื่อนหนูให้ไกลขึ้นอีกหนึ่งร้อยเมตรนะ”

มู่กุยฝานโยนหินทิ้งไป มองเข้าไปในร่องลึกทีหนึ่ง จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไปอย่างเด็ดเดี่ยว

เขาย้อนกลับมายังริมถนนที่จอดรถออฟโรดไว้ แล้วโทรหาซูอีเฉิน

“ซู่เป่าเข้าไปแล้ว”

ซูอีเฉินชะงัก

เร็วขนาดนี้เลยเหรอ...

ทีแรกยังคิดว่าวันนี้คงหาทางเข้าไม่เจอ ต่อให้หาทางเข้าเจอ ก็ไม่มีทางเข้าไปได้เร็วขนาดนั้น

ไม่นึกเลยว่าทั้งหมดจะราบรื่นจน...ทำให้คนกลัดกลุ้มเล็กน้อย

ซูอีเฉินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “อืม รู้แล้ว”

มู่กุยฝานพูดขึ้นอีกว่า “พี่พาคุณแม่กับคุณพ่อกลับไปก่อนเถอะ ให้พวกเขาอยู่ที่อำเภอหงก็เรียบร้อยแล้ว”

เขาอยากจะพูดว่าสถานการณ์แบบนี้ไม่สู้ให้นายท่านซูและนายหญิงซูกลับเมืองจิงเถอะ

แต่คิดๆ แล้วก็ช่างมันเถอะ ถ้านายหญิงซูตัดสินใจแล้วใครก็ฉุดไม่อยู่

“พวกพี่กลับไปก่อนเถอะ ผมจะรอซู่เป่าอยู่ที่นี่”

หลังจากวางสาย มู่กุยฝานก็โทรหาว่านเทา แจกแจงให้เขาส่งสิ่งของที่จำเป็นมาให้

มู่กุยฝานไม่คิดไปจากบ่อลวงวิญญาณ เขาจะเฝ้าอยู่ที่นี่ ถ้าเจ้าเด็กดีออกมา เขาจะได้รอรับเธอเป็นคนแรก...

ซู่เป่าเดินไปๆ ทันใดนั้นก็พบว่าพ่อหายไป

เธอรู้สึกว่าตัวเองยังจูงมือของพ่ออยู่ ผ่านไปสักพักกลับไม่ได้ยินพ่อพูด เมื่อหันกลับไปก็พบว่าเขาหายไปแล้ว

“พ่อคะ” ในใจซู่เป่าเคร่งเครียด รีบหันกลับไปหา

ทว่ารอบข้างราวกับแบ่งแยกเขตแดน มาจากโลกมนุษย์มีทางเข้า แต่ออกไปจากโลกใต้พิภพก็ต้องหาทางออกเช่นกัน

“พ่อคะ เดี๋ยวเรากลับมานะคะ!” ซู่เป่าตะโกนพูดกับเงาร่างอันเลือนรางที่อยู่ด้านนอก

ทว่าสิ่งที่เธอเห็นกลับเป็นเงาร่างนั้นยิ่งไกลออกไป...

ราวกับกระจกบานหนึ่ง เธอเดินอยู่ด้านหน้า บางทีพ่อเองก็อาจจะเดินอยู่ด้านหน้าเช่นกัน แต่อยู่ในทิศทางสลับกัน ยิ่งไกลออกไปเรื่อยๆ

จนมองไม่เห็นอีกต่อไป...

ซู่เป่ายืนใจลอยอยู่ที่เดิมอยู่นานสองนาน จนกระทั่งเหยาหลิงเยว่ดึงเธอ แล้วพูดขึ้นว่า “ไปไหม”

เธอหยิบหินก้อนใหญ่ขึ้นมาก้อนหนึ่ง เสียงอืมเสียงหนึ่งแทรกเข้ามาตรงที่เดิม แล้วพูดขึ้นอีกว่า “เครื่องหมาย...ทางกลับมา!”

บางทีทางออกอาจจะไม่ได้อยู่ตรงนี้ แต่ต้องอยู่แถวนี้แน่ เหยาหลิงเยว่รู้สึกได้

ซู่เป่ากอดเหยาหลิงเยว่เอาไว้แน่น ทันใดนั้นก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา

ถ้าเธอมาเองเพียงลำพัง เธอจะต้องเสียใจมากๆ แน่

“ยังดีที่ยังมีป้าสะใภ้ใหญ่อยู่ด้วย...” ซู่เป่าพูดพึมพำ

เหยาหลิงเยว่คว้าตัวซู่เป่าขึ้นมา อุ้มด้วยมือเดียว แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องกลัว...ป้าสะใภ้ใหญ่อยู่ทั้งคน!”

ซู่เป่ารู้สึกถึงความอบอุ่นบนตัวเธอ พยักหน้า “อืมๆ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน