เช่นเดียวกัน เปลี่ยนเป็นสายอาชีพเขา ก็เกิดคำร้องขอที่เกินมาตรฐานมากมาย ไม่ได้ส่งฝูงชนระยะหนึ่ง ก็ถูกฝูงชนด่าว่าทำตัวสูงส่ง บอกว่าช่วยเหลือประชาชนไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณควรทำ?
ไม่ให้ผู้คนถ่ายรูปตอนนั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์ของตน ก็ถูกด่าว่าผิดแปลกจากมนุษย์มนา ก็แค่ถ่ายรูปเองไม่เห็นต้องทำขนาดนั้นเลยนี่ พวกคุณไม่ได้เข้ากับคนง่ายที่สุดหรอกเหรอ
ครั้งหนึ่งเกิดเหตุระเบิดเพลิงไหม้รุนแรงเข้าไปไม่ได้ ฝูงชนก็ร้อนใจเร่งเร้าให้พวกเขาทะลวงเข้าไปช่วยคนในกองเพลิงทั้งที่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันใดๆ ตามมาตรการ เนื่องจากไม่เข้าไปก็ถูกด่าว่าไม่ใช่คนเอย รู้สึกผิดต่อยูนิฟอร์มบนตัวพวกคุณบ้างเอย...
กระทั่งเพื่อนร่วมงานของเขาบางส่วน เพียงแค่พักสูบบุหรี่เท่านั้น...หลังถูกคนถ่ายรูปไปก็ถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงทันที
ราวกับพวกเขาไม่ควรสูบบุหรี่ ไม่ควรพักผ่อน ไม่ควรดูแลคนในครอบครัวอย่างนั้น...
เนื่องจากการยกยอค่อนข้างสูง ‘มาตรฐาน’ ที่ประชาชนมีต่อพวกเขาก็ยิ่งสูงเช่นกัน
ทว่าพวกเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดา!
ไม่ขอให้เห็นพวกเขาเป็นวีรบุรุษ ขอเพียงมองพวกเขาเป็นคนธรรมดาปกติทั่วไป...
ในสมองของเมิ่งเจิ้งคิดเตลิดไปต่างๆ นานา
ตอนที่ได้สติกลับมาหัวหน้าที่อยู่บนเวทียังคงกล่าวอยู่ “ฉะนั้น...เจ้าหน้าที่เมิ่งเจิ้ง เขาได้เสียสละผลประโยชน์ส่วนตน เพื่อความยิ่งใหญ่ของพวกเรา อืม เหล่าประชาชน แนวหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านการจราจรเอาไว้ได้! บัดนี้ ถูกจัดอันดับให้เป็นคนที่ดีเลิศและก้าวหน้า...”
เมิ่งเจิ้งอึ้งไป
พูดตามตรง อายุเขาก็ไม่ได้น้อยๆ แล้ว สามสิบกว่าแล้ว ลูกเมียมักจะเดือดดาลเวลาที่เขางานยุ่ง เวลากลับบ้านน้อย
เคยมีเพื่อนและญาติๆ บอกว่าที่เขาทำงานที่ต้องถูกรังแกแต่ระบายออกมาไม่ได้มันไร้ความหมาย
แต่ในวินาทีนี้ จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่ามันมีความหมายขึ้นมาแล้ว
“แนวหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านจราจรของประชาชนเอาไว้ได้...”
นี่เป็นเพียงประโยคทางการประโยคหนึ่ง แต่ดวงตาของเมิ่งเจิ้งกลับรื้นไปด้วยน้ำตา
ไม่เพียงแค่เขา ยังมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของเขาอีกมากมาย เหล่าเพื่อนร่วมงานที่ทำงานเป็นแนวหน้าเช่นเดียวกัน วันนี้เช้าจู่ๆ ก็ได้รับคำชมเชยอย่างน่าประหลาดใจเช่นกัน
พวกเขาคิดว่าบางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งใหม่ๆ บางอย่างที่เบื้องบนทำขึ้นมา เพื่อให้ดูดีอะไรต่างๆ
ทว่าเขาหลังเขาได้เห็นเอกสาร ‘ดูแลเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่แนวหน้า’ จริงๆ ถึงได้พบว่าในนั้นแจกแจงรายการปฏิบัติจริงไว้มากมาย การดูแลต่อเจ้าหน้าที่แนวหน้าเอยกระทั่งรวมถึงหนึ่งในตัวชี้วัดการประเมินของเหล่าหัวหน้า
ซึ่งก็หมายถึงไม่ใช่ ‘การพูดลอยๆ’ แต่เป็นมาตรการที่ปฏิบัติได้จริง
“นี่เป็นหัวหน้าคนไหนกัน...” เมิ่งเจิ้งพึมพำ
หัวหน้าที่ทำและออกเอกสารฉบับนี้ ต้องเป็นหัวหน้าที่ดีที่รู้จักเจ้าหน้าที่แนวหน้าเป็นอย่างดีแน่นอน!
ในใจเมิ่งเจิ้งเลือดสูบฉีด ราวกับเดินมานานสองนาน จู่ๆ ก็เห็นแสงรุ่งอรุณอยู่เบื้องหน้า
และเป็นแสงรุ่งอรุณที่เห็นตอนปฏิญาณในใจ ขณะที่พวกเขาเลือกเดินในสายอาชีพนี้!
ความเชื่อ!
เมิ่งเจิ้งยกหมวกบนศีรษะขึ้น เดินออกไปด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม มุ่งไปทำหน้าที่ของตน
อีกด้านหนึ่ง มู่กุยฝาน ‘หัวหน้า’ ที่เมิ่งเจิ้งยกย่อง กำลังสวมผ้ากันเปื้อนพร้อมทั้งต้มไข่ฝูหรงให้ซู่เป่าอย่างเงอะๆ งะๆ เป็นอย่างมาก
เขาไม่เคยต้มอะไรที่พิถีพิถันขนาดนี้มาก่อน กะไม่ดี ไม่ใช่ต้มจนสุกเกินไปแต่มันไม่เป็นรูปเป็นร่างเลย
“ล้มเหลวอีกแล้ว” มู่กุยฝานมองไข่ฝูหรงที่ไม่เป็นรูปเป็นร่างหร็อมแหร็มในถ้วย หมดคำพูดเป็นอย่างมาก
จากนั้นก็หยิบช้อนตักซุปมาตักสวบๆ กินจนหมดในไม่กี่คำ แล้วก็ทำใหม่อีกครั้ง
คุณท่านซูแอตมิตอยู่ที่โรงพยาบาล นายหญิงซูไปเฝ้าไข้ ป้าอู๋อยู่ทำกับข้าวที่บ้าน แต่ต้องออกไปส่งกับข้าวบ่อยๆ
แต่วันนี้ตอนเช้า มู่กุยฝานเกิดนึกอยากต้มไข่ฝูหรงให้ซู่เป่ากิน
เขาคิดว่ากล้วยๆ...
ตอนนี้ซู่เป่าตื่นแล้ว เธอกอดกระต่ายน้อยด้วยมือเดียว หาวทีหนึ่ง จากนั้นก็ถามขึ้นอย่างงุนงง “พ่อขา พ่อกำลังทำอะไรอยู่เหรอคะ”
มู่กุยฝานหันหน้าไป “หืม ตื่นแล้วเหรอ มานั่งก่อนสิ พ่อนึ่งไข่ฝูหรงให้หนูอยู่”
นอกจากไข่ฝูหรง ก็ต้องทำเนื้อมากินด้วย
มู่กุยฝานทำอาหารที่ต้องพิถีพิถันพวกนั้นไม่เป็นเช่นกัน ปีกไก่โค้กอะไร ไก่หมกเกลืออะไร...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...