ความมืดที่ปกคลุมโลกมนุษย์ค่อยๆ หายไป จากนั้นขอบฟ้าก็มีความสว่างไสวราวกับท้องปลามาแทนที่
แม่ของเสี่ยวจิ่วนอนกอดเสี่ยวจิ่วอยู่บนเตียง หลับสนิท พ่อของเสี่ยวจิ่วอยู่อีกด้านของเสี่ยวจิ่ว นอนตะแคงเหมือนอย่างเคย หายใจอย่างสม่ำเสมอ...
เสี่ยวจิ่วตะเกียกตะกายขึ้นมาเงียบๆ
เธอมองพ่อกับแม่อย่างอาลัยอาวรณ์ทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “พ่อคะ แม่คะ เสี่ยวจิ่วไปแล้วนะคะ ต้องอยู่อย่างมีความสุขนะคะ”
เสี่ยวจิ่วอาลัยอาวรณ์ จัดการกระดาษห่อเค้กและขยะที่ห้องรับแขกอย่างเบามือ พยายามหิ้วขึ้นพลางลอยไป
ประตูเปิดออกอย่างแทบจะไม่มีเสียง ซู่เป่ารออยู่นอกประตูตั้งนานแล้ว ซูเหอเวิ่นรีบรับขยะในมือของเสี่ยวจิ่วมา
เสี่ยวจิ่วหันหลังไปมองทีหนึ่ง นัยน์ตาแฝงไปด้วยความอาลัยอาวรณ์
บ้านที่สะอาดและอบอุ่น ต่อไปเธอคงไม่ได้กลับมาอีกแล้ว
“ไปกันเถอะ!” ซู่เป่าจูงมือของเสี่ยวจิ่วขึ้นมา
บนโลกใบนี้เมื่อมีความอาลัยอาวรณ์ไม่มีที่สิ้นสุด ท้ายที่สุดก็ต้องจากลาด้วยความเศร้าโศก
เมื่อมาถึงสี่แยกที่ใกล้บ้านที่สุด เสี่ยวจิ่วที่สวมกระโปรงตัวน้อยสวยงามยืนอยู่ข้างถนน โบกมือให้ซู่เป่าและซูเหอเวิ่นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ลาก่อนนะคะพี่ชาย ลาก่อนนะคะพี่สาว ลาก่อนนะคะคุณลุงทั้งสอง! ขอบคุณพี่ชายพี่สาวแล้วก็คุณลุงด้วยนะคะ!”
“อย่าลืมช่วยไปดูเสียวเหม่ยให้หนูด้วยนะคะ!”
เธอไม่มีความนึกเสียใจแล้ว!
ก่อนตาย ราวกับยังมีเรื่องอีกมากมายที่ยังไม่ได้ทำ มีเรื่องมากมายที่คิดถึง
เมื่อคนตายไปแล้ว ราวกับเหลือเพียงเรื่องเดียวที่ตนเองสนใจมากที่สุด
ตอนนี้เสี่ยวจิ่วทำตามความปรารถนาสุดท้ายสำเร็จแล้ว จะไม่เป็นวิญญาณพยาบาทเร่ร่อนอยู่บนโลกมนุษย์อีกต่อไป จากไปอย่างพอใจได้แล้ว
เป็นครั้งแรกที่ซูเหอเวิ่นมาส่งวิญญาณพยาบาทตนหนึ่งออกเดินทาง ในใจมีความทุกข์ใจและความทอดถอนใจที่ไม่เคยมีมาก่อน เขาเอ่ยขึ้นว่า “ลาก่อน อย่าได้เจอกันอีกเลย หวังว่าเธอจะกลับชาติมาเกิดอย่างราบรื่นนะ”
เสี่ยวจิ่วอดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เมื่อหมุนตัวได้ก็กระโดดโลดเต้นจากไป ท้ายที่สุดก็หายไปจากสายตาของทุกคน
ซูเหอเวิ่นมอง จู่ๆ กลางอากาศก็มีแสงลำหนึ่งประกายวับขึ้นมา ไหลเข้าไปในหว่างคิ้วของเขา ทิ้งตราบางๆ เอาไว้บนหน้าผากรอยหนึ่ง!
ตราประกายแสงลำแสงหนึ่ง จากนั้นเร้นหายเข้าไป
ซูเหอเวิ่นรีบลูบหน้าผากทันที “ให้ตายเถอะ นี่มันอะไรกัน? ฉันถูกผีสิงแล้วเหรอ??”
เขารีบหยิบยันต์ออกมาแปะไปบนหน้าผากของตัวเองแผ่นหนึ่ง!
ใบหน้าของซู่เป่าเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ “เอ่อ พี่คะ พี่นี่ช่างโง่จริงๆ!”
“นั่นไม่ใช่ผีสิงร่างอะไรหรอกค่ะ เป็น ‘เส้นความคืบหน้า’ ของพี่ต่างหาก”
ซูเหอเวิ่น “...” บนศีรษะของเขามีเส้นความคืบหน้า???
นี่มันบ้าอะไรกัน!
แต่ว่า...ฮือๆๆ ไม่นึกเลยว่าน้องซู่เป่าจะว่าเขาโง่ ฉะนั้นความรักจะหายไปใช่ไหม!
มู่กุยฝานบิดขี้เกียจ “ไปกันเถอะ เดี๋ยวคุณยายของหนูจะตื่นแล้ว!”
ซูเหอเวิ่นเอ่ยขึ้นว่า “คุณย่าคงไม่ตื่นเร็วขนาดนั้นมั้งครับ...”
ซู่เป่าวิ่งขึ้นรถด้วยความรวดเร็ว “พี่คะเร็วเข้า ถ้ายังไม่รีบอีกเดี๋ยวคุณยายเอากระทะก้นเรียบมาตีนะ!”
“หนูขอนับนิ้วทำนายก่อนนะ พี่ พี่มี ‘เคราะห์ใหญ่!’”
ซูเหอเวิ่นรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาในทันใด เคราะห์ใหญ่ที่น้องซู่เป่าบอก ต้องเป็นเคราะห์ใหญ่จริงๆ แน่!
ดังนั้นตอนที่ซูเหอเวิ่นกลับบ้าน จึงไม่กล้าแม้แต่หายใจ
กลับถึงห้องอย่างปลอดภัย ไม่กล้านอนต่อ
แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาก็เห็น...
คุณย่ากำลังยกอาหารเช้าขึ้นโต๊ะ “ยืนบื้ออยู่ทำไม? รีบมากินสิ”
“น้องสาวเธอคงไม่ตื่นเร็วขนาดนั้น เดี๋ยวย่ายกเอาไว้ให้เธอต่างหาก...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...