ย่านที่บ้านของเสี่ยวเหม่ยเช่าอยู่ไม่นับว่าเป็นย่านหรูอะไร เป็นอะพาร์ตเมนต์แบบเปิด มีคนทุกรูปแบบเช่าอาศัยอยู่ที่นี่
เพิ่งจะเข้ามาในอะพาร์ตเมนต์ ก็เห็นยันต์เหลืองแผ่นหนึ่งอยู่บนผนังเข้ามารับหน้า แปะอยู่ในที่สูง ด้านล่างวางกระป๋องไว้กระป๋องหนึ่ง เสียบธูปเอาไว้หนึ่งก้าน
เดินเลาะไปตามทางเดินจนถึงโถงลิฟต์ บนประตูลิฟต์มียันต์แปะอยู่แผ่นหนึ่ง ในมุมประตูลิฟต์ก็มีกระป๋องวางไว้อีกหนึ่งกระป๋อง และเสียบธูปเอาไว้หนึ่งก้าน
ขึ้นลิฟต์ไปชั้นยี่สิบแปด ห้องลิฟต์ที่ออกจากลิฟต์ก็มีการจัดวางในลักษณะเดียวกัน เมื่อไปถึงประตูบ้านของเสี่ยวเหม่ยก็มีการจัดวางแบบนี้เช่นเดียวกัน
เพียงแต่บ้านของเสี่ยวเหม่ยยิ่งดูเกินจริงเข้าไปใหญ่ ประตูเปิดกว้าง ในบ้านตั้งแท่นบูชา บนแท่นบูชาเต็มไปด้วยควันธูป ไฟเทียนทั้งสองด้านน่าจะเผาทั้งวันทั้งคืน น้ำตาเทียนหยดลงเชิงเทียนเต็มไปหมด
พูดได้ว่าในห้องบรรยากาศอึมครึม ควันโขมง...
เสียงติ๊งของนักพรตดังติงตังๆๆๆ อยู่เป็นระยะ
เพื่อนบ้านคนหนึ่งเปิดประตูออกมา มองมาอย่างอัตโนมัติทีหนึ่ง จากนั้นก็พูดบ่นว่า “ให้ตายเถอะ ไม่จบไม่สิ้นจริงๆ ทำแบบนี้น่ากลัวจะตายอยู่แล้ว!”
ซู่เป่าถามขึ้นว่า “คุณน้าคะ บ้านพวกเขาทำแบบนี้ทุกวันเลยเหรอคะ?”
เพื่อนบ้านมองประเมินทั้งสองสามคนทีหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ก็ใช่น่ะสิ? ตอนกลางวันยังดี ตอนกลางคืนทำเอาพวกเราไม่กล้าเปิดประตูเลย”
“มีครั้งหนึ่งเพื่อนบ้านตรงข้ามออกมาตอนกลางคืนพอดี ที่น่าอึ้งคือถูกฉากนี้ทำให้ตกใจจนล้มป่วยไปเลย”
ลูกบ้านนี้เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ทุกคนต่างก็เห็นใจ
อาทิตย์ที่แล้วบอกว่าตายแล้ว ในละแวกบ้านยังหวาดระแวงกันไม่ไหว วันแรกที่เห็นพ่อแม่ของเสี่ยวเหม่ยอกจะแตก ตอนที่บ้าคลั่งจนไม่ยอมแพ้ ทุกคนต่างก็ยังปลอบด้วยความเห็นใจ
แต่หลังจากนั้นก็ไม่ไหวแล้ว ใครจะรับมือกับเพื่อนบ้านที่เรียกวิญญาณทุกวันแบบนี้ได้...
“ตอนกลางวันแสกๆ พวกเราออกจากบ้านมาก็กลัว” เพื่อนบ้านไม่พอใจป่นเหนื่อยใจ “ไปบอกแล้วก็ไม่ยอมฟัง เราเองก็ไม่กล้าพูดมาก ตอนกลางคืนก็นอนผวา”
เพื่อนบ้านไม่กล้าอยู่นาน ต่อว่าอยู่สองประโยคก็รีบเดินจากไป
ซู่เป่ากับซูเหอเวิ่นเดินอยู่ด้านหน้า มู่กุยฝานตามอยู่ด้านหลัง มองประเมินรอบๆ ด้วยความเคยชิน
สุดท้ายก็เห็นเด็กน้อยคนหนึ่งขดตัวอยู่ในมุมทางเดินอย่างน่าสงสาร
“…”
ตอนนี้ในห้องกำลังสั่นกระดิ่งกริ๊งๆๆๆ ซู่เป่าเคาะประตู คนข้างในไม่ได้ยิน
ผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก น่าจะเป็นพ่อของเสี่ยวเหม่ย เขากำลังคุยโทรศัพท์อย่างอึดอัด
ได้ยินเสียงเขาอ้อนวอนแว่วมาอยู่เลือนราง “คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ ขอร้องคุณละครับดูให้ลูกสาวผมหน่อย...”
“เธอยังไม่ตาย ยังไม่ตายแน่นอน ขอร้องคุณละครับ แค่ดูก็ได้...”
ปลายสายน่าจะตัดสายไป พ่อของเสี่ยวเหม่ยเงียบไปอยู่นานสองนาน จากนั้นก็โทรศัพท์ต่อ
ช่วงเวลาระหว่างนั้น แม่ของเสี่ยวเหม่ยก็หยิบข้อมูลขึ้นมากองหนึ่ง ใช้ปากกาวงบนกระดาษแผ่นหนึ่ง “พ่อเสี่ยวเหม่ยดูนี่สิ นี่เป็นเทคโนโลยีล่าสุดของอเมริกา ดร.ลอเรนพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะพื้นขึ้นมามีชีวิตอีกครั้งของการทดลองคนแช่แข็ง...”
“แล้วก็ยังมีอันนี้ แม้อันนี้จะเป็นแค่นิยายเรื่องหนึ่ง...แต่ในนี้เขียนเอาไว้ว่า ผู้หญิงเนื่องจากป่วยเป็นโรครักษาไม่หายจึงถูกคนในครอบครัวแช่แข็ง ฟื้นขึ้นมาหลังผ่านไปสิบแปดปี...”
ในห้องโถงหลัก ผู้ชายสวมชุดผาวนักพรตเต๋าคนหนึ่งกำลังพยามยามสั่นกระดิ่ง ในปากก็พึมพำๆ ไม่หยุด กล่าวบทสวดออกมายกใหญ่
“วิญญาณหวนกลับ! วิญญาณหวนกลับ! วิญญาณจงหวนหลับมา!”
เขาโปรยออกไปกำมือหนึ่ง จากนั้นก็กระโดดเต้นรำไหว้เทพเจ้า
ซู่เป่า “…”
ซูเหอเวิ่น “…”
มู่กุยฝาน “…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...