ภายในห้องนี้เงียบไปชั่วขณะ หลังจากนั้นไม่นาน เซียวตั๋วก็พูดด้วยรอยยิ้มที่ดูฝืนๆ “คุณผู้หญิงป๋อ อย่ากล่าวหาคนดีๆสิครับ”
“ใช่ พวกเราเป็นนักธุรกิจจริงๆ!”
ฟู่ฉือโจวพูดกับเสิ่นม่านอย่างจริงจัง
“จะใช่นักธุรกิจจริงหรือไม่ก็ตาม ฉันไม่สนใจ แต่ฉันคิดว่าป๋อซือเหยียนน่าจะสนใจพอสมควร”
เสิ่นม่านพูดอย่างใจเย็น "ฉัน เป็นเพียงคุณหนูผู้ร่ำรวยที่ไม่รู้อะไร แต่ป๋อซือเหยียนไม่ใช่ ถ้าฉันบอกป๋อซือเหยียนในสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไป ฉันไม่รู้ว่าเขาจะสนใจหรือไม่”
“คุณนี่ช่างเป็นผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์นักนะ!”
ฟู่ฉือโจวไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้
เสิ่นม่านมองเซียวตั๋วอย่างจริงจัง “ฉันไม่เบี้ยวหรอก ถ้าคุณให้ฉันยืมเงินสี่หมื่นล้าน ฉันจะคืนให้คุณพร้อมดอกเบี้ยหลังจากนี้สามปี”
ฟู่ฉือโจวเบิกตากว้าง “ล้อเล่นอะไรอยู่ สี่หมื่นล้าน คุณรู้ไหมในสามปีข้างหน้าดอกเบี้ยจะเป็นเท่าไร? ถ้าคุณไม่สามารถคืนเงินได้ เราจะขาดทุนไปสี่หมื่นล้าน คุณคือภรรยาขิงป๋อซือเหยียน ถึงตอนนั้นใครจะกล้าทำอะไรคุณหละ?”
“ฉันรู้ว่าดอกเบี้ยเท่าไหร่ ฉันสามารถเซ็นสัญญากับพวกคุณได้ ถ้าฉันไม่สามารถจ่ายคืนได้ ฉันจะยกบ้านและหุ้นของตระกูลเสิ่นให้กับพวกคุณ ฉันจะทำงานอย่างหนักให้พวกคุณตลอดชีวิตและทำทุกอย่างตามที่พวกคุณต้องการ”
เสิ่นม่านลังเลอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า "นอกจากนี้ การแต่งงานของฉันกับป๋อซือเหยียน น่าจะอยู่ได้ไม่เกินสามปี ถึงแม้ว่าจะเกินสามปีไปและฉันยังเป็นภรรยาของเขาอยู่ เขาก็จะไม่ปกป้องฉันอยู่ดี"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวตั๋วก็เงยหน้าจ้องมองไปที่เสิ่นม่านอยู่พักหนึ่ง
หูของฟู่ฉือโจวก็ผึ่งขึ้นตามทันที
ดูเหมือนเขาจะได้ยินกลิ่นคำนินทาเมื่อกี้นี้
แต่ในไม่ช้า ฟู่ฉือโจวก็จัดการกับความคิดของเขา “ถึงเป็นอย่างนั้นก็ไม่ได้! ผมไม่เห็นด้วยเด็ดขาด!”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ ก็มีเสียงทุ้มและสงบดังขึ้นข้างๆ “ตกลง ผมจะให้คุณยืม”
“อะไรนะ?!” ฟู่ฉือโจวลุกขึ้นจากเก้าอี้ “นายก็บ้าไปแล้วเหรอ!”
“เงินหนะ ผมจะให้แผนกบัญชีโอนให้คุณ สำหรับสัญญา พวกเราค่อยมาจัดการหลังจากเสร็จเรื่อง”
“เซียวตั๋ว! พ่อมึงสิ! ”
ฟู่ฉือโจวกระทืบเท้า
“ขอบคุณมากค่ะคุณชายเซียว”
เสิ่นม่านยืนขึ้น “ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอข่าวจากคุณชายเซียวนะคะ ขอให้ความร่วมมือผ่านไปด้วยดี”
เสิ่นม่านยิ้มแล้วหันหลังเดินออกจากห้องทำงานของประธานไป
เมื่อฟู่ฉือโจวเห็นว่าเธอจากไปแล้ว เขาก็กัดฟันแล้วพูด “เธอดูจากไปอย่างมีความสุขเชียว สี่หมื่นล้านนะ! นายโดนล้างสมองไปแล้วเหรอ? เธอเป็นภรรยาของป๋อซือเหยียน ทำไมนายถึงยอมให้เธอยืมเงิน?”
เซียวตั๋วยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย “เธอหน้าตาสวยดี”
“เชี่ยไรเนี่ย! ทำไมผมต้องเป็นคนออกเงินทุกครั้งเวลาที่นายจะเต๊าะสาว”
เซียวตั๋วยืนขึ้นแล้วหยิบบัตรธนาคารออกมาตบที่หน้าอกของฟู่ฉือโจว “ผู้หญิงที่ผมถูกใจ ของขวัญหมั้นหนะเดี๋ยวผมออกเอง”
“อะไรนะ? ของขวัญหมั้นเหรอ? เธอเป็นภรรยาของป๋อซือเหยียน นายจะให้ของขวัญหมั้นแบบไหน?”
เซียวตั๋วไม่สนใจฟู่ฉือโจว และเดินออกจากห้องทำงานของประธานไป
“ไร้สาระ เป็นบ้ากันไปหมดแล้ว!”
ที่นี่ ทันทีที่เสิ่นม่านก้าวเข้าบ้านตระกูลป๋อ เธอก็เห็นป๋อซือเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องนั่งเล่น
เสิ่นม่านขมวดคิ้ว
ในชาติก่อนนี้ จำนวนครั้งที่ป๋อซือเหยียนก้าวเข้ามาในบ้านนั้นแทบจะนับครั้งได้
ป๋อซือเหยียนคิดถึงบ้านขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
เสิ่นม่านแค่คิดว่าเขากลับมาบ้านเพื่อนั่งเฉยๆ ดังนั้น เธอจึงหันหลังกลับเพื่อจะขึ้นไปชั้นบน
ทันใดนั้น ป๋อซือเหยียนก็พูดอย่างเย็นชา “เสิ่นม่าน!”
ฝีเท้าของเสิ่นม่านหยุดลง
“มีอะไร?”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเย็นชาของเสิ่นม่านในช่วงสองวันที่ผ่านมา ป๋อซือเหยียนก็รู้สึกอึดอัด เขาจึงพูดอย่างเหลืออด “คนจากงานประมูลมาที่บ้านเพื่อจะมาเอาเงิน”
“รู้แล้ว”
ป๋อซือเหยียนหายใจเข้าลึกๆ “ถ้าเธอมีเงินไม่พอ บอกผมได้นะ”
เสิ่นม่านพูดอย่างเย็นชา “ไม่จำเป็น ฉันจัดการได้แล้ว”
“เธอไปเอาเงินมาจากไหน?”
ห้าหมื่นล้านไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย ป๋อซือเหยียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับทรัพย์สินของตระกูลเสิ่นที่อยู่ในมือของเสิ่นม่าน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะหาเงินมากขนาดนี้มาได้ในเวลาเพียงสั้นๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตหลังความตายของเซินมาน