ทำอย่างไรได้เล่าองค์หญิงยังไม่ทันก้าวเท้าสองก้าว อาจื่อก็พุ่งเข้ามาขวางทางองค์หญิงด้วยความรวดเร็วทันที ยืนอยู่ข้างหน้าองค์หญิงด้วยใบหน้าเย่อหยิ่ง รวดเร็วเสียจนองค์หญิงไม่ทันได้ซ่อนเตาหลอมขนาดเล็ก องค์หญิงจึงนำเตาหลอมขนาดเล็กมาถือกุมไว้ และดึงมือเข้าไปในแขนเสื้อโดยไม่ให้เห็นร่องรอย
ดีที่อาจื่อไม่ทันสังเกตความผิดปกติ จ้องมององค์หญิงราวกับตนเองสูงส่ง ทำท่าทีดั่งผู้ชนะ
เป็นเช่นนี้ตลอดมา องค์หญิงโล่งอกขึ้นมาทันที หนังตาของนางยกขึ้น กำลังปรารถนาจะเอ่ยให้อาจื่อหลีกทางให้ พอเห็นแล้ว องค์หญิงที่มั่นคงใจเย็นมาตลอดก็เกือบจะส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ไม่ได้
เพราะในขณะนี้ใบหน้าของอาจื่อน่าขำมากเสียจริง
ก่อนหน้านี้ใบหน้าของอาจื่อเต็มไปด้วยดินโคลน แต่ยังดีที่สม่ำเสมอ ดูโดยรวมแล้วนอกจากดำก็ไม่มีอะไรอื่น เวลานี้ถูกน้ำฝนชะล้างเช่นนี้แล้วใบหน้าของนางดำเข้มดำอ่อนปนกันไปเสียหมด มองดูแล้วเหมือนหน้าลาย บวกกับสีหน้าท่าทีเย่อหยิ่งของนางในขณะนี้แล้ว ตลกจนไม่รู้จะตลกอย่างไร
ตนมีสภาพเช่นนี้แล้วยังมีหน้ามาเยาะเย้ยผู้อื่นอีก?
เดินห้าสิบก้าวหัวเราะร้อยก้าวหมายถึงว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง องค์หญิงแค่นเสียงเย็นชา ปรารถนาอ้อมอาจื่อไป เพราะองค์หญิงยังมีเรื่องสำคัญที่จำเป็นต้องสะสาง เซียวเฉวียนกำลังรอให้องค์หญิงไปช่วยอยู่ องค์หญิงไม่สนใจต่อล้อต่อเถียงกับอาจื่อที่นี่ด้วยซ้ำ
แต่ว่าจะง่ายได้อย่างไร องค์หญิงก้าวไปทางซ้าย อาจื่อก็ก้าวมาด้านซ้าย องค์หญิงก้าวไปด้านขวา อาจื่อก็ก้าวมาด้านขวาเช่นเดียวกัน ก็คืออาจื่อไม่อยากหลีกทางให้องค์หญิงนั่นเอง
ในที่สุดองค์หญิงเริ่มอารมณ์เสียใส่อย่างหาได้ยากยิ่ง กล่าวตะคอกด้วยความโมโห “เจ้าหลีกไป!”
“โอ้! เจ้าขึ้นเสียงใส่ใครกัน?” ใบหน้าอาจื่อเปี่ยมไปด้วยความเย้ยหยัน แรงอันน้อยนิดให้พอจับไก่เช่นองค์หญิง กล้ามาเอ็ดตะโรใส่อาจื่อรึ?
หากองค์หญิงรู้ความสักนิด คุกเข่าลงโขกศีรษะสองทีให้อาจื่ออย่างว่านอนสอนง่าย จากนั้นอ้อนวอนอาจื่ออย่างไร้ยางอายให้ปล่อยนางไป……
แม้อาจื่อก็ไม่คิดจะปล่อยองค์หญิงไป แต่หากอาจื่ออารมณ์ดีก็อาจจะพิจารณาให้องค์หญิงตายเร็ว
“เจ้าอ้อนวอนข้าสิ เหมือนเช่นตอนนั้นที่ข้าคุกเข่าลงพื้นอ้อนวอนหมิงเจ๋อพี่ชายเจ้า ขอร้องพร้อมกอดขาข้า” อาจื่อยิ้มร้าย พวกคนในราชวงศ์เหล่านี้มักจะเหนือกว่าผู้อื่น คิดว่าสูงส่ง มองชีวิตคนราวกับหญ้าที่จะเหยียบย่ำเมื่อไหร่ก็ได้
เซียวเฉวียนมองกล่าวว่าอาจื่อโหดร้าย ปล่อยไว้ไม่ได้ หากเป็นไปได้ เหตุฉะไหนอาจื่อจะไม่เคยปรารถนาที่จะเป็นหญิงสาวอ่อนโยน มีความรู้มีมารยาทกันล่ะ!
หากมิใช่เพราะชะตาชีวิตไม่ดี หากไม่ใช่เพราะชีวิตต้องดิ้นรน เหตุใดอาจื่อจึงต้องไปเป็นตัวปลอมกันล่ะ ใช้ชีวิตที่ไม่เป็นชีวิตของตนเองโดยสิ้นเชิง เหตุใดต้องมีวันเวลาราวกับเดินบนน้ำแข็งบางๆและใช้ชีวิตด้วยคมมีด!
อาจื่อไม่ใช่องค์หญิง และก็ไม่ใช่ฉิวซูโหรว นางไม่มีคนเกื้อหนุนหลัง นางจึงทำได้เพียงเป็นหมากทำตามคำสั่งหมิงเจ๋อ!
พูดถึงนี้ ทุกสิ่งอย่างล้วนเกิดขึ้นเพราะหมิงเจ๋อ!
อาจื่อแค้นหมิงเจ๋อ และก็แค้นองค์หญิงต้าถง หากไม่เป็นเพราะองค์หญิง เซียวเฉวียนก็จะไม่เปลี่ยนใจไปรักผู้อื่น ตอนนั้นแม้ว่าอาจื่อจะมีความสัมพันธุ์คลุมเครือกับหยางจู เซียวเฉวียนก็จะไม่เกิดความคิดที่จะหย่ากับอาจื่อ
ต้องเป็นเพราะนางสารเลวองค์หญิงต้าถงที่ล่อลวงเซียวเฉวียน ทำให้เซียวเฉวียนสับสน เซียวเฉวียนจึงทิ้งอาจื่อไป!
ต้องเป็นเช่นนั้นแน่! พี่น้องทั้งสองนี้น่ารังเกียจและน่าแค้นเคืองนัก!
คิดเช่นนี้แล้ว สายตาที่อาจื่อจ้องมององค์หญิงก็เปี่ยมไปด้วยความเกรี้ยวกราด ท่าทางอยากจะฉีกองค์หญิงเสียมิได้
ความปรปักษ์ที่มากล้นเช่นนี้ของอาจื่อ ทำให้องค์หญิงตกใจกลัวจนถอยหลัง เว้นระยะห่างกับอาจื่ออย่างสุดความสามารถ ในสมองขององค์หญิงกำลังครุ่นคิดวิธีว่าจะรับมืออาจื่อเช่นไร ถ้าอาจื่อลงมืออย่างโหดเหี้ยมขึ้นมากะทันหัน ครั้งนี้นางคงไม่ปล่อยองค์หญิงไปง่ายๆเป็นแน่
“โอ้ย!”
เวลานี้เององค์หญิงต้าถงที่ลุกขึ้นมาจากการดิ้นรนในดินโคลนยังไม่ทราบอะไร อาจื่อเปลี่ยนแผนใหม่ คาดคาดฝันว่าอาจื่อจะเดินไปดึงองค์หญิงขึ้นมา และกล่าวด้วยน้ำเสียงปรองดอง “ข้าคิดได้แล้ว พวกเราต่อสู้กันเช่นนี้ต่อไปก็ไร้ประโยชน์ จะเสียเวลาช่วยเซียวเฉวียนไปเสียเปล่า”
“ในเมื่อพวกเรามีเป้าหมายเดียวกัน ก็เพื่อช่วยเซียวเฉวียน เยี่ยงนั้นพวกเรารวมกำลังไปช่วยเซียวเฉวียนออกมาก่อนเถอะ”
“ส่วนเรื่องหลังจากนี้ค่อยว่ากัน”
กล่าวเสร็จ อาจื่อก็รีบไปหยิบเตาหลอมขนาดเล็กขึ้นมาทันที นำมายัดใส่มือขององค์หญิงด้วยการกระทำที่คล่องแคล่วว่องไว “ถือไว้ เพิ่งหล่นมาจากตัวเจ้าเมื่อครู่นี้”
องค์หญิงจ้องมองอาจื่อด้วยใบหน้ามึนงง หญิงผู้นี้วางแผนจะทำอะไรกันแน่? เปลี่ยนหน้ารวดกว่าพลิกหน้ากระดาษเสียอีก!
เกิดสิ่งผิดปกติย่อมมีผี คือ เกิดสิ่งผิดแผกแปลกไปจากเดิมย่อมมีสาเหตุอะไรแน่!
องค์หญิงรีบเอาเตาหลอมขนาดเล็กมาถือไว้ในมือ หันหายจ้องมองอาจื่อด้วยสายตาเตือน อาจื่อยิ้มบางๆ “เจ้ามองข้าเช่นนี้เพราะเหตุใด? ไปกัน พวกเรารีบไปช่วยเซียวเฉวียนเถอะ”
กล่าวเสร็จ อาจื่อยังเข้ามาประคองคล้องแขนองค์หญิงอย่างสนิทชิดเชื้อ เป็นเช่นนี้แล้วองค์หญิงเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็ถูกอาจื่อเดินกึ่งพยุงกึ่งลากไป
องค์หญิงไม่สบายใจยิ่งนัก อาจื่อไม่ใช่คนดีอะไร นางเข้าใจการปฏิบัติต่อผู้อื่นของอาจื่อดีตลอดมา
หากมิเช่นนั้น ชื่อเสียงของฉิวซูโหรวก็คงไม่ถูกทำให้เสื่อมเสียจนกลายเป็นเช่นนี้
องค์หญิงคิดจะเว้นระยะห่าง แต่กลับถูกอาจื่อคว้าไว้แน่น น้ำเสียงของนางมีเจตนาเชิงข่มขู่ด้วย “องค์หญิง เจ้าก็ตามข้ามาเถอะ มิเช่นนั้นฝนตกนักขนาดนี้ เผื่อไม่รู้เจ้าจะตายในหลุมไหนกันแน่เนอะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...