องค์หญิงเป็นคนฉลาด นางรู้ว่าอาจื่อโหดเหี้ยมและมีวรยุทธ์อีกด้วย ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางขัดใจอาจื่อ
อาจื่อก็ตามหาเซียวเฉวียนเช่นกัน องค์หญิงต้าถงเคยดูถูกนางมาก่อน คราวนี้นางก็จะดูถูกองค์หญิงกลับบ้าง เพื่อทำให้องค์หญิงรู้ว่าการเห็นผู้ชายของตัวเองอยู่กับผู้หญิงคนอื่นมันเจ็บปวดแค่ไหน
ผู้ชายของตัวเอง
นี่คือตำแหน่งที่อาจื่อมีต่อเซียวเฉวียน นางติดตามมาที่นี่อย่างเอาเป็นเอาตายก็เพื่อแย่งชิงเซียวเฉวียนกลับมา
ตราบใดที่มีเซียวเฉวียน อาจื่อก็มีทุกอย่าง
ตอนนี้เซียวเฉวียนมีสถานะที่แน่นอนในต้าเว่ย มีฐานะร่ำรวย เป็นประมุขแห่งชิงหยวน สถานะนี้สามารถนำความสะดวกสบายมาสู่อาจื่อได้มากมาย เช่น ทำให้เธอสามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบลูกสาวคนโตของตระกูลฉินในอดีตได้
อาจื่อรู้ดีว่าเซียวเฉวียนเป็นคนแบบไหน เขาสามารถยืดหยุ่นได้ ดังนั้นอาจื่อต้องมีไพ่ตายอยู่ในมือเพื่อบรรลุความปรารถนาของตนเอง
ตัวอย่างเช่น ตอนนี้อาจื่อมีองค์หญิงอยู่ในมือแล้ว ถ้าเซียวเฉวียนชอบองค์หญิงจริง ๆ มีเงื่อนไขอะไรบ้างที่อาจื่อไม่สามารถบรรลุได้?
ความปรารถนาของอาจื่อนั้นง่ายมาก ตราบใดที่เซียวเฉวียนให้สถานะนางสนมแก่นาง
น่าเศร้า และน่าเสียดาย
หากในวันนั้นอาจื่อปฏิบัติกับเซียวเฉวียนให้ดี ใช้ประโยชน์จากสถานะเป็นองค์หญิงของนาง และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับเซียวเฉวียนแม้ว่านางจะเป็นตัวปลอม เซียวเฉวียนก็จะไม่ปฏิบัติต่อนางอย่างไร้หัวใจเช่นกัน
แต่น่าเสียดายที่อาจื่อให้ความสำคัญกับตัวเองมากเกินไป คิดว่าตัวเองสามารถเป็นฉินซูโหรวได้ตลอดชีวิต โดยอาศัยอำนาจของตระกูลฉิน เพื่อทำทุกสิ่งที่ต้องการ
สุดท้าย นางก็สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง
ก่อนตอนที่ภรรยาหลวงของเซียวเฉวียนนางมีเกียรติอย่างมาก นางยังดูถูก แต่ตอนนี้กลับมาอ้อนวอนขอเป็นนางสนม อาจเป็นเพราะธรรมชาติที่เลวทรามของมนุษย์
ความคิดของเธอนั้นชัดเจนมาก คนที่มองออกทุกคนก็เห็นได้ แม้แต่องค์หญิงก็เช่นกัน
ตราบใดที่อาจื่อไม่สร้างความวุ่นวายให้กับเซียวเฉวียน องค์หญิงก็จะปล่อยให้นางทำตามใจ ท้ายที่สุดแล้ว อาจื่อตอนนี้ก็คิดแต่เพียงว่าจะหาทางเอาอกเอาใจเซียวเฉวียนให้ได้
สำหรับตอนนี้ เจ้าหญิงและอาจื่อมีเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งก็คือการค้นหาเซียวเฉวียน และช่วยเหลือเซียวเฉวียน
ท้องฟ้าของภูเขาหมิงเซียนช่างมืดครึ้ม น้ำที่เซียวเฉวียนเรียกมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไหลเลย ทางเดินเต็มไปด้วยโคลน สิ่งก่อสร้างสำนักหมิงเซียนถูกทำลายทั้งหมด มู่เวยที่เห็นแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจยิ่งนัก “บ้านของข้า!บ้านของข้า!”
สำนักหมิงเซียนทำจากหิน แม้ว่าหินจะแข็งแรง แต่ดินก็ถล่มลงมาและปิดกั้นบ้านหินทันที ที่นี่คงไม่สามารถอยู่อาศัยได้อย่างแน่นอน
มู่เวยซึ่งยืนอยู่ที่ตีนเขาร้องไห้พลางคิดถึงว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้
ทันใดนั้น นางก็เห็นเงาคนหนึ่งเคลื่อนไหวเล็กน้อย ถ้าไม่สังเกตให้ดีก็คงมองไม่เห็น นางรีบเช็ดน้ำตาออก “ใครอยู่ตรงนั้น ออกมานะ!”
คือโย่วควน
พรุ่งนี้เป็นวันที่เจ็ด
โย่วควนมาที่นี่เพื่อรับเซียวเฉวียนตามที่ตกลงไว้ แต่จู่ๆ ได้พบกับมู่เวยทันทีที่มาถึง
สถานการณ์ปัจจุบันในภูเขาหมิงเซียน โย่วควนรู้โดยไม่ต้องเดาว่าเป็นผลงานของนายท่าน ขณะที่เขากังวลเกี่ยวกับเซียวเฉวียน ก็สงสัยว่านายท่านจะกลับมาทันเวลาหรือไม่ กังวลอยู่พักหนึ่งและชนเข้ากับกิ่งไม้ข้าง ๆ ทำให้มู่เวยสังเกตเห็น
มู่เวยประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่านางไม่คาดคิดว่าโย่วควนจะอยู่ที่นี่
ท้ายที่สุดแล้ว นางและเซียวเฉวียนก็แยกทางกันมานานแล้ว มู่เวยดมจมูก “เจ้ากำลังตามข้ามาหรือเปล่า?”
น้ำในลำธารไหลริน น้ำที่ใสสะอาดเดิมกลายเป็นขุ่นข้นเพราะดินถล่ม โย่วควนก้มมองผืนน้ำ แล้วพูดด้วยความรู้สึกผิดว่า “อ๋อ... ไม่ใช่เลย”
“แล้วเจ้ามาที่นี่ทำไม” ถ้ามู่เวยไม่เห็นความหล่อของโย่วควน ป่านนี้คงจะยิงเขาไปแล้ว ผู้อารักขาเซียวเฉวียน เดิมทีก็แปลก ๆ อยู่บ้าง ถ้าไม่ใช่เพราะนึกถึงความรักของเซียวเฉวียนต่อภรรยาที่รักของเขามากมู่เวยจะไม่สนใจต้าเว่ยสองคนนี้ด้วยซ้ำ
ตอนนี้โย่วควนติดตามนางมาที่นี่ ซึ่งทำให้มู่เวยมั่นใจมากขึ้นว่าคนสองคนนี้ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน
โย่วควนไม่รู้จะอธิบายยังไง เป็นไปได้ไหมที่ตนเองหลงมาที่นี่โดยบังเอิญ?
“แม่นางมูเวย ข้า...”
มู่เวยน้ำตาไหลและนางชี้ไปที่โย่วควน “ข้าจะไม่เชื่อใจเจ้าอีกต่อไป! นายท่านของเจ้าอยู่ที่ไหน! ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน!”
โย่วควนส่ายหัว “แม่นาง... ข้าปฏิบัติต่อเจ้าในฐานะเพื่อนจริง ๆ และไม่เคยโกหกเจ้า ฟังข้านะ เพลิงชุ้ยเจี้ยนสามารถฆ่าคนได้มากมาย เราต้อง......”
“เอาล่ะ เจ้ามาที่นี่เพื่อสิ่งนี้จริง ๆ”
เมื่อครู่นี้ มู่เวยไม่ได้เอ่ยถึงชื่อเพลิงชุ้ยเจี้ยน แต่แค่บอกว่าเป็นสิ่งนั้น เท่านั้นโย่วควนรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของไฟนี้
เดิมทีมู่เวยยังสงสัยอยู่บ้าง แต่ตอนนี้มู่เวยมั่นใจเกือบทั้งหมดแล้วว่าคนทั้งสองคนนี้เป็นพวกหลอกลวง!
“ไฟนี้เป็นของสำนักหมิงเซียนของเรา ใครก็อย่าคิดจะเอาไป!”
มู่เวยหันหลังกลับ แล้วเดินไปยังภูเขาทันที!
โย่วควนคว้านางไว้ “ไม่ได้! เจ้าไปไม่ได้!”
มู่เวยเป็นเพียงหมอในชีวิตประจำวัน ไม่ได้ฝึกฝนฝีมือการต่อสู้ เมื่อผู้ชายตัวใหญ่อย่างโย่วควนกอดนาง นางก็ดิ้นรนอย่างหนัก แต่ก็ไม่สามารถหลุดได้
มู่เวยโกรธมากจนกัดมือโย่วควนจนเลือดไหล แต่โย่วควนกลับกอดไว้แน่น “แม่นาง! เจ้าและข้าต่างก็เพื่อนายท่าน ไม่มีถูกหรือผิด!แต่ตอนนี้นายท่านของข้าอยู่บนภูเขา ข้าทำได้เพียงขอโทษเจ้า!”
“เจ้าเป็นอันธพาล!ปล่อย!ปล่อย!มู่เวยโตมาขนาดนี้แล้ว ยังไม่เคยถูกผู้ชายกอดแน่น ๆ แบบนี้มาก่อน นางทั้งอายทั้งโกรธ “ถ้าพวกเจ้ากล้าทำกับไฟอะไรแบบนี้ ข้าจะฝังพวกเจ้าไว้ในภูเขาหมิงเซียน!”
ในฐานะผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำ คำพูดของมู่เวย นั้นศักดิ์สิทธิ์ นางจะทำให้พวกหลอกลวงทั้งสองคนนี้ต้องอับอาย!
“แม่นาง ขอโทษ”
โย่วควนถอนหายใจเบา ๆ และกอดแน่นขึ้น มู่เวยฉลาดมาก แม้ว่าฝีมือการต่อสู้จะไม่เท่ากับเขา แต่สติปัญญาก็โดดเด่นและเป็นคู่ต่อสู้ของนายท่าน โย่วควนทำได้แค่รู้สึกเสียใจกับมู่เว่ยคือเพื่อน และซื้อเวลาให้กับเซียวเฉวียนมากขึ้น
บนภูเขา ในที่สุดองค์หญิงและอาจื่อก็ได้พบกับเซียวเฉวียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...