อาจื่อก็เป็นเหมือนตัวตลกที่ตะโกนอยู่ตลอดเวลา ฉินซูโหรวที่เห็นว่าลูกปัดในมือของเขาเป็นของปลอมก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ความเกลียดชังทั้งเก่าและใหม่ ยากจะควบคุมได้
แม้ว่าอาจื่อจะพอมีทักษะกังฟูพื้นฐานอยู่บ้าง แต่นั้นมันก็เป็นทักษะอันน้อยนิด ในสายตาของฉินซูโหรว มันก็เป็นแค่เรื่องไร้สาระก็เท่านั้น
ฉินซูโหรวกระชากคอเสื้ออาจื่อ โยนนางเข้าไปในถ้ำด้วยความรุนแรง
"อ้า!"
อาจื่อเจ็บเจียนตาย นางเจ็บเอวมาก เรื่องที่อาจื่อตบหน้าองค์หญิงเมื่อครู่ ไม่นึกมาก่อนเลยว่า ฉินซูโหรวจะแก้แค้นให้องค์หญิงทันที
“ข้าอยู่ที่จวนฉินมานานหลายปีขนาดนี้ ไม่เคยทำอะไรให้ตระกูลฉินเลย ทำไมท่านถึงได้เกลียดข้าขนาดนี้?”
อาจื่อทั้งตื่นตระหนกและสับสน ตอนนี้นางไม่สนใจคนใจร้ายอย่างเซียวเฉวียนแล้ว นางแค่อยากรอดชีวิตและพ้นจากเงื้อมมือของฉินซูโหรว
ความสงสัยของนาง ทำให้ฉินซูโหรวถามด้วยความเย็นชาว่า : “เซียวเฉวียน ไม่นับเป็นคนในตระกูลฉินจริง ๆ งั้นหรือ?”
อาจื่อได้แต่กัดฟัน : “เจ้ากับเซียวเฉวียนไม่เคยพบมาก่อน เจ้ายังอยู่ที่นี่เพื่อต่อสู้กับความยุติธรรมแทนเซียวเฉวียนงั้นหรือ? ถ้าการแต่งงานครั้งนี้เป็นเจ้า เจ้าก็จะเป็นแบบเดียวกับข้า!"
“ไม่มีทาง!" ฉินซูโหรวได้แต่กัดฟันพูด “ข้าไม่ใช่เจ้า แม้ว่าข้าจะไม่ได้รักเซียวเฉวียน ข้าก็ไม่เหมือนเจ้ากับจูเหิงที่ไม่ชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น ก็จะไม่คบกับเหลียงไหวโหรวเหมือนเจ้า!"
อาจื่อก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที นางพูดออกมาด้วยความดื้อรั้น : “เจ้าพูดได้ไร้สาระมาก! เจ้าไม่รู้ว่าชีวิตข้าในจวนฉินเป็นอย่างไร! เจ้าไม่รู้ว่าเซียวเฉวียนน่ารำคาญแค่ไหน! เจ้า......”
“เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังไม่สำนึกอีกหรือ?” ฉินซูโหรวทำอะไรไม่ถูก “เจ้าทำลายชื่อเสียงของข้า! เจ้ายังไม่สำนึกอีก!”
“เจ้าทำให้ตระกูลฉินของข้าไม่เป็นสุข อาศัยตัวตนของข้าและความโปรดปรานของทุกคน ทำให้ตระกูลฉินพบเจอแต่เรื่องร้าย ๆ แต่เจ้า......คิดว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดเลยงั้นหรือ?”
“ก่อนที่ท่านปู่จะตาย ได้มอบตราอาญาสิทธิ์ไว้ให้เซียวเฉวียน เจ้าสนับสนุนท่านปู่ข้าหรือยัง?”
ฉินซูโหรวตาแดงก่ำ ความคับข้องใจในหลายปีที่ผ่านมาได้กลายเป็นคำถาม : “ทำไมต้องฆ่าพระอรหันต์ที่เซียวเฉวียนพากลับมาจากเกาะจูเสิน! ทำไมถึงได้พาฉินเฟิงจูพี่ของข้าไปทำเรื่องพวกนี้ด้วย!”
"ทําไมเจ้าถึงไม่ห้ามพี่ข้าไว้? ไม่ดึงเขาไว้หน่อย?"
“ในเมื่อเจ้าเข้ามาแทนที่ข้าในฐานะพี่สาวคนโต แล้วทำไมถึงไม่ลงโทษฉินหนานฉินเป่ยหล่ะ!”
ฉินซูโหรวเกลียดที่สุด : “ในเมื่อเจ้าเข้ามาแทนที่ข้า ทำไมถึงไม่แนะนำแม่ให้เข้าร่วมกับชนชั้นสูงหล่ะ? ทำไมเจ้าถึงได้สร้างปัญหาตลอดเวลา?”
"ทําไมล่ะ ทําไม?" ฉินซูโหรวมองไปที่อาจื่อ ใครจะมารับรู้ถึงความคับข้องใจในใจของนาง?
ฉินซูโหรวถูกขังอยู่ในตำหนักเย็นมานานกว่าหลายปี ถูกคนในวังทารุณกรรมทุกคน แต่บ้านของตนเองกลับถูกอาจื่อทำลายจนย่อยยับ
“ในเมื่อเจ้าแต่งงานกับเซียวเฉวียนแล้ว ทำไมถึงไม่อยู่ด้วยกันดี ๆ ล่ะ?” ฉินซูโหรวกดไหล่ของอาจื่อไว้ กลั้นน้ำตาและพูดว่า :ทำไมถึงไม่ดูแลท่านปู่ของข้าดี ๆ ! ถ้าเจ้าเป็นเหมือนข้า ที่ช่วยดูแลเรื่องอาหารการกินของท่านปู่ ท่านปู่จะตายเพราะโดนวางยาพิษได้อย่างไรกัน!”
"ทําไม! ทําไม!" ฉินซูโหรวตะโกนใส่อาจื่อ : "เจ้ามาอยู่แทนข้าก็พอแล้ว! เจ้าอยากร่ำรวยอยากมั่งคั่งก็ได้! เจ้าอย่ามาแทนสถานะนี้ได้มั้ย! ทำไมถึงไม่ทำสิ่งที่เจ้าควรทำ!"
“แม้ว่าตอนแรกเจ้าจะเป็นมิตรกับเซียวเฉวียนก็ตาม ครอบครัวของข้าคงไม่ทำลายสิ่งต่าง ๆ เพราะความเกลียดชังที่เจ้ามีต่อเซียวเฉวียน!”
ฉินซูโหรวรู้จักครอบครัวของตนดี สิ่งที่ตนไม่ชอบ พวกเขาก็จะไม่ชอบ
สิ่งที่ตนชอบ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบ พวกเขาก็จะเคารพเซียวเฉวียน พ่อแม่ของเซียวเฉวียนเพื่อฉินซูโหรว
แต่ต่อมา ต่อมา.....
“ทำไม?” ฉินซูโหรวจับไหล่อาจื่อแน่น พูดออกมาทีละคำทีละคำ “คืนท่านปู่ของข้ามา คืนแม่ข้า....”
"คืนเหวินเจี้ยวหยู้... "
"คืนปีศาจกวีมา..."
ฉินซูโหรวตาแดงก่ำ น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด
ใช่ เหวินเจี้ยวหยู้และปีศาจกวีต่างก็เป็นอาจารย์ของฉินซูโหรว
แต่ก่อนที่จะฆ่าเจ้า ให้เวลามากพอ......เพื่อรอความตาย
ฉินซูโหรวเป็นลูกสาวคนโต มีความกล้าหาญและกล้าที่จะฆ่าคนด้วย
อยู่ในตำหนักเย็นเป็นเวลานานหลายปี ทำให้เย็นชามากขึ้น
"ไม่ต้องกังวล คําพูดสุดท้ายของเจ้า ข้าจะบอกให้เอง"
ฉินซูโหรวมองที่อาจื่อแล้วยิ้ม ไม่รู้ว่าควรยิ้มแบบไหนกันแน่ ในสายตาของอาจื่อตอนนี้ ฉินซูโหรวก็เหมือนมัจจุราชแห่งนรก
อาจื่อมองว่า ฉินซูโหรวเป็นมัจจุราชแห่งนรก แต่ฉินซูโหรวกลับมองว่า อาจื่อเป็นปีศาจร้ายที่ฆ่าคนโดยไม่คิด
แม้อาจื่อจะไม่ได้ลงมือเอง แต่ก็ฆ่าคนไปไม่น้อย
ฉินซูโหรวมองออกเลยว่า ตอนนี้อาจื่อได้แกล้งทำตัวน่าสงสารและอ่อนแอ
วันนี้ อาจื่อต้องแลกด้วยชีวิต นั่นเป็นจุดจบของอาจื่อ
“อ้อ ข้ายังรู้มาอีกว่า” ฉินซูโหรวเงยหน้าขึ้น : “เป็นเจ้า กระบี่ชีวันเล่มนั้นในมือของแม่ข้า เจ้าเป็นคนหามาให้นาง”
“เจ้ามอบกระบี่ชีวันนั้นให้แม่ของข้า เพื่อจะให้นางฆ่าเซียวเฉวียน” ฉินซูโหรวมองแล้วพูดต่อว่า : “ในเมื่อเจ้ากับหมิงเจ๋อชอบกระบี่ชีวันนั้นมาก งั้นเจ้า....ก็อยู่สู้ตลอดไปเถอะ”
อาจื่อตะลึงไปชั่วขณะ : “เจ้าจะหลอมข้าเป็นกระบี่ชีวันงั้นหรือ?”
พูโจบ อาจื่อก็ถอยหลังไปไม่หยุด : "ไม่..... "
"ไม่!"
เสียงกรีดร้องของอาจื่อดังก้องไปทั่วภูเขาหมิงเซียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...