ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1028

ความรู้สึกเป็นพวกเดียวกันเป็นอะไรที่มู่จิ่นแสวงหาอยู่ตลอดเวลา

ถึงแม้สมาชิกในสำนักหมิงเซียนจะปฏิบัติต่อมู่จิ่นเป็นอย่างดี แต่มู่จิ่นถึงยังไงก็ไม่ใช่มู่จิ่นคนเดิม

มู่จิ่นแหกข้ามมิติมาถึงภูมิภาคตะวันตกที่แปลกประหลาดแห่งนี้จากจีนฮวาเซี่ย ไม่คุ้นเคยกับผู้คนสถานที่ ความไม่คุ้นเคยกับผู้คนสถานที่ลักษณะนี้แตกต่างจากความรู้สึกไม่ชินกับผู้คนและพื้นที่นั้นตอนมู่จิ่นเดินทางไปทำงานนอกสถานที่ยามอยู่ที่จีนฮวาเซี่ย

ตอนที่อยู่จีนฮวาเซี่ย มู่จิ่นเป็นเชฟทำอาหารที่เก่งมาก ในฐานะเชฟที่ยอดเยี่ยม เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในเรื่องอาหาร มู่จิ่นเดินทางทำงานนอกสถานที่สองวันสามวันทีเป็นบ่อยๆ

ตอนนั้น เมื่อใดที่มู่จิ่นมาถึงสถานที่ที่เขาไม่คุ้นเคย มองเห็นแวดล้อมที่ไม่ชินและฝูงชนมากมายที่ไม่รู้จัก แม้ว่ามู่จิ่นจะรู้สึกแปลก ๆ แต่ก็เป็นแค่ความรู้สึกโดดเดี่ยวแต่ไม่มีความรู้สึกถึงขาดการเชื่อมต่อและขัดแย้งของวัฒนธรรม

ที่จีนฮวาเซี่ย ไม่ว่ามู่จิ่นจะไปที่ไหน ไปนานแค่ไหนก็จะต้องมีเวลากลับมาเสมอ เขารู้ว่าจะกลับบ้านเมื่อใดและกลับอย่างไร

แต่พอมาถึงที่ภูมิภาคตะวันตก ไม่คุ้นเคยไม่ว่า มู่จิ่นไม่สามารถหาทางกลับบ้านได้ มองไม่เห็นเวลาที่จะกลับบ้านได้ กล่าวได้ว่าในภูมิภาคตะวันตก มู่จิ่นเป็นเหมือนแหนที่ไม่มีราก ล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมายในห้วงมิติแปลกประหลาดนี้ ดวงวิญญาณจึงโดดเดี่ยวเดียวดายในที่สุด

ตอนนี้ดีแล้ว ในที่สุดก็ได้พบกับเซียวเฉวียนคนบ้านเดียวกันคนนี้ ! แถมเซียวเฉวียนบอก ยังมีคนบ้านเดียวกันอีกสองคนที่ต้าเว่ย ตามที่เซียวเฉวียนว่า ในมิตินี้ คนที่มาจากจีนฮวาเซี่ยมีพอที่จะรวมตัวกันเล่นไท่จี๋ครบหนึ่งโต๊ะแล้ว

ที่เรียกว่าเล่นไท่จี๋ก็คือเล่นไพ่นกกระจอก เพราะตอนสับไพ่เวลาเล่นไพ่นกกระจอก ท่าทางของผู้สับไพ่คล้ายกับกำลังเล่นไท่จี๋ (ไท้เก๊ก) ชาวจีนจำนวนมากจึงล้อเล่นว่าเล่นไพ่นกกระจอกเป็นเล่นไท้เก๊ก

มีคนบ้านเดียวกันสามคนในต้าเว่ยรวมทั้งเซียวเฉวียน จู่ๆ มู่จิ่นก็รู้สึกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเขาเอง เซียวเฉวียนพวกเขาสามคนมีความสุขมาก ต่างจากมู่จิ่น เขาอยู่ตัวคนเดียวในภูมิภาคตะวันตก โดดเดี่ยวมากจนเขาไม่มีแม้กระทั่งคนที่จะพูดคุยด้วย

ตั้งแต่เจาะทะลุมาถึงนี่ มู่จิ่นได้รับรู้ว่าคนสำนักหมิงเซียนช่ำชองวิชาทำนายดวงชะตา ได้ยินว่านักปราชญ์เป็นนักปราชญ์ผู้เก่งกล้าวิชามาก มู่จิ่นก็เชื่อและคิดว่านักปราชญ์นั้นเก่งวิชาพอๆ กับหมอดูในละครโทรทัศน์จริงๆ บีบนิ้วก็ทำนายอนาคต รู้การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก

มู่จิ่นรู้ตัวว่าเดิมทีนั้นเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมิตินี้ เขาหลงเข้ามาด้วยความบังเอิญ ฉะนั้น มู่จิ่นจึงเป็นตัวแปรตัวหนึ่ง

เขากลัวว่านักปราชญ์จะคำนวณตัวแปรตัวเขาออก ดังนั้นมู่จิ่นจึงกระทำอย่างระมัดระวัง ดำเนินชีวิตด้วยความระแวดระวังเป็นอย่างยิ่ง

หลังจากฟังสิ่งที่เซียวเฉวียนพูดในวันนี้ มู่จิ่นก็ตระหนักว่าเขาประเมินกำลังของนักปราชญ์ไว้สูงเกินไป และรู้สึกว่าความรอบคอบของเขานั้นมีเกินกว่าเหตุ สิ้นเปลืองในการแสดงออก

ดังที่เซียวเฉวียนกล่าวไว้ หากนักปราชญ์รู้เรื่องลี้ลับขนาดนั้นได้ เขาทำไมคำนวณไม่ได้ว่าสำนักหมิงเซียนจะประสบหายนะเช่นนี้ในวันนี้ พูดตรงๆ นักปราชญ์ก็คือที่จีนฮวาเซี่ยในยุคใหม่เรียกว่าพวกร่างทรง ไม่มีความสามารถจริงจังอะไร แกล้งทำให้ดูลี้ลับก็เท่านั้น !

แต่แล้ว หลังจากยอมรับเซียวเฉวียน มู่จิ่นก็รู้สึกว่าใจเขามีที่ยึดเหนี่ยว เขาจะติดตามเซียวเฉวียนคนบ้านเดียวกันคนนี้อยู่ใจเดียว เขาไม่แม้แต่จะสนใจพละกำลังของนักปราชญ์จะเป็นยังไง

ยิ่งกว่านี้ หลังจากมู่จิ่นได้ฟังเซียวเฉวียนเล่าถึงสิ่งที่นักปราชญ์ได้ทำและรู้ว่านักปราชญ์นั้นคลั่งไคล้มากที่ต้องการจะฆ่าเซียวเฉวียนคนบ้านเดียวกันนี้ให้ตาย ท่าทีของมู่จิ่นที่มีต่อนักปราชญ์ก็เปลี่ยนไปเป็น 180 องศา แต่ก่อนเคยเคารพนักปราชญ์มากแค่ไหน ตอนนี้ก็เกลียดมากแค่นั้น !

มู่จิ่นรู้ว่าในต้าเว่ย เซียวเฉวียนมีสถานการณ์เหมือนเดินอยู่บนเส้นด้าย

เมื่อมู่จิ่นรู้ว่าเซียวเฉวียนด้วยกำลังของเขาคนเดียว ได้ผันตัวจากนักเรียนหนังสือผู้ยากจน เขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายสตรี ย้อนย่ำก้าวสู้ในต้าเว่ยที่ประสบปัญหาทั้งภายในและภายนอก จนได้เปิดร้านอาหาร เปิดบ่อนการพนัน ผ่านการสอบคัดเลือกขุนนาง ได้ตำแหน่งจ้วงหยวน และกลายเป็นเจ้าของโรงเรียนชิงหยวนของต้าเว่ย ควบดูแลกองผู้อารักขา จนกลายมาเป็นมหาราชครูที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์...... ใช้เวลาเพียงหนึ่งปีนิดหน่อย เซียวเฉวียนเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในต้าเว่ย มู่จิ่นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาในตัวเซียวเฉวียน

นี่มันเจ๋งขนาดไหน !

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย