ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1029

แม้ว่าเซียวเฉวียนจะไม่สามารถเข้าถึงเสียงในใจของมู่จิ่น แต่เซียเฉวียนสามารถเข้าถึงเสียงในใจของมู่เวยได้ เซียวเฉวียนจึงรู้ว่ามู่เวยจะล้วงความในใจของมู่จิ่น

มู่จิ่นเป็นคนช่างคิดและเฉลียวฉลาด เขาเข้าใจทันทีที่เห็นสายตาของเซียวเฉวียน เขาแอบพยักหน้าให้เซียวเฉวียนเพื่อแสดงว่าเข้าใจ

เพื่อไม่ให้มู่เวยมาขุดรากถึงโคน มู่จิ่นจึงเปลี่ยนเรื่องไปเสียก่อน มองไปที่มู่เวยด้วยแววตาที่อ่อนโยนแล้วพูดว่า "ศิษย์น้อง เจ้ามีข่าวคราวของอาจารย์บ้างหรือเปล่า ?"

มู่เวยส่ายหัวแสดงว่าไม่รู้ นี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้มู่เวยกลัดกลุ้มใจ ที่สำนักหมิงเซียนเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ผู้คนในสำนักหมิงเซียนไม่สามารถติดต่ออาจารย์ย่าเหยียน ติดต่อนักปราชญ์ก็ไม่ได้ จึงส่งข่าวถึงมู่เวยศิษย์พี่น้อง ให้พวกเขารีบกลับมาที่เขาหมิงเซียน

ไม่คิดว่า ตอนที่มู่เวยและมู่จิ่นกลับมาถึงที่เชิงเขาก็เห็นเขาหมิงเซียนลุกเป็นไฟ มู่เวยไม่เก่งวิชาการต่อสู้ เธอจึงได้แต่เฝ้าดูที่ตีนเขาซึ่งเป็นสถานที่ที่เธออยู่มาตั้งแต่เด็กถูกไฟเผา น้ำท่วม......

ถึงตอนนี้ ยังไม่มีวี่แววของย่าเหยียนและนักปราชญ์ มู่เวยจึงกลัดกลุ้มใจเป็นอย่างยิ่ง

ในเมื่อคนเหล่านี้ไม่อยู่ ก็ดี เซียวเฉวียนยิ้ม "งั้นเราไปที่ที่พวกเราอยากไปกันเถอะ"

ฮ่ะ ? ที่ไหน ?”

มู่เวยถามด้วยความประหลาดใจ แต่เซียวเฉวียนและมู่จิ่นกำลังก้าวไกลไปข้างหน้าแล้ว เธอจึงได้แต่กระโดดโลดเต้นเดินไล่ตามไป "ไม่สนใจเรื่องบนเขาแล้วหรือ ? ฮะ? เฮ้ รอข้าด้วย !"

......

......

ที่เมืองหลวงแห่งต้าเว่ย

“ครืนครั่น ๆ “

”อู้ ๆ ๆ !”

ฝนตกกระหน่ำปกคลุมทั่วท้องฟ้าและผืนดิน เสียงลมฟังเหมือนเสียงร้องไห้คร่ำครวญ

ไม่ผิด มันเป็นเสียงร้องไห้คร่ำครวญ มันเป็นเสียงร้องไห้คร่ำครวญของดวงวิญญาณของกองทัพตระกูลเซียวห้าหมื่นดวง ฟังจนผู้คนรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน

น้ำฝนตกไปถึงที่ไหน ไฟก็ค่อยๆ มอดดับลง

น้ำฝนเหนือจวนเจียนกั๋วตกรุนแรงเป็นพิเศษ แม้ว่าไฟในจวนเจียนกั๋วจะดับลงแล้ว แต่จวนเจียนกั๋วก็ถูกเผาจนเหลือแต่ซากเปลือกนอกไปแล้ว

ทันใดนั้นลมกระโชกมาอย่างแรง เสียงดัง "ปัง !" เปลือกนอกที่เหลืออยู่ของจวนเจียนกั๋วก็พังทลายลง เพลิงชุ่ยเจี้ยนที่เริ่มต้นจากจวนเจียนกั๋วในที่สุดก็เผาจวนเจียนกั๋วหมดไป จนไม่เหลือแม้กระทั่งซาก

ถึงกระนั้น นักปราชญ์ก็ยังมองหาเชื้อไฟเพลิงชุ่ยเจี้ยนของเขาอยู่ที่จุดเดิม หากเสวียนอวี๋ไม่ได้สร้างปลอกคุ้มกันอย่างทันด่วนเพื่อปกป้องนักปราชญ์ นักปราชญ์คงไม่รอดจากที่เปลือกนอกจวนพังทลายลงมา

”ทำไมหาไม่เจอน่ะ” นักปราชญ์พึมพำกับตัวเองพลางมองหาไปรอบๆ

นักปราชญ์สูดดมควันในทะเลเพลิงนี้มานาน ผมขาวและเคราสีขาวของเขาถูกเถ้าถ่านที่ปลิวว่อนย้อมจนเป็นสีดำ ใบหน้าก็ดำไปด้วย ดูเหมือนผู้เฒ่าที่เพิ่งกลิ้งมาจากกองถ่าน ยังมีลักษณะความงามแห่งอมตะเหลือซะที่ไหนล่ะ

เสวียนอวี๋มองดูนักปราชญ์อย่างหมดอาลัยตายอยาก คิดในใจว่า "อาจารย์ใช้ชีวิตมาจนอายุมากแล้ว ดูเหมือนจะเข้าใจชีวิตไม่ทะลุปรุโปร่งเท่าเสวียนอวี๋ ยังยึดติดยืนกรานที่จะมองหาเชื้อไฟเพลิงชุ่ยเจี้ยนให้ได้ "

“อาจารย์ เชื้อไฟไม่ได้อยู่ที่นี่จริงๆ” เสวียนอวี๋มองนักปราชญ์แล้วพูดอย่างสำเนียงเด็กๆ

ครั้งนี้ นักปราชญ์เลิกกระทำค้นหา เหลือบมองเสวียนอวี๋ และอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง พูดกับตัวเองว่า "ใช่ เชื้อไฟไม่น่าจะอยู่ที่นี่แล้ว"

ถ้าหากยังอยู่ นักปราชญ์และเสวียนอวี๋คงพบมันไปนานแล้ว หรือว่าในขณะที่ความวุ่นวายอุตลุดนั้น เชื้อไฟถูกคนนำเอาไปแล้ว ?

เมื่อถึงจุดนี้ นักปราชญ์จะไม่รับความจริงนี้ก็ไม่ได้ เพียงแต่ว่า นักปราชญ์แค่ยอมรับความจริงที่เชื้อไฟไม่อยู่ที่นี่ แต่ไม่ยอมรับความจริงที่ว่าหามันไม่เจอ “ไป เราไปจวนเซียวกัน”

ไฟเพิ่งลุกขึ้นตอนที่พวกของชิงหลงมาถึงที่นี่ นักปราชญ์เชื่อเก้าสิบเก้าส่วนร้อยว่า เชื้อไฟถูกพวกชิงหลงเอาไป ตอนนี้มาคิดอย่างรอบคอบอีกที นักปราชญ์ก็ตระหนักได้ในที่สุด ชิงหลงและพวกจู่ๆ มาที่จวนเจียนกั๋ว ไม่เพียงแต่จะช่วยชีวิตเซียนชิวน้อย ยังต้องการเอาเชื้อไฟไปอีกด้วย !

ให้ตายเถอะ !

นักปราชญ์ประมาทไปแล้ว !

เขาควรจะทิ้งเสวียนอวี๋ไว้คอยเฝ้าดูเชื้อไฟ ถ้าอย่างนี้ คนของเซียวเฉวียนก็จะทำอะไรไม่ได้

ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะมาพูด ที่สำคัญที่สุดคือรีบหาเชื้อไฟให้เจอ ค่อยไปจัดการกับพวกของเซียวเฉวียน !

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย