ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 103

"อื่ม ขอโทษที หัวหน้าหยาง"

พ่อบ้านยืนนิ่ง มือข้างหนึ่งไพล่หลัง ส่วนอีกข้างชี้ไปอย่างแรง เลียนแบบท่าทางของเว่ยเจียนกั๋ว “หยางเล่อ ฟ้าดินสรรค์สร้างสรรพสิ่งที่คิดไม่ถึง! ทำให้มีคนโง่เขลาอย่างเจ้าเกิดมา! เจ้าจะฆ่าเซียวเฉวียนได้ไม่เป็นไร? แต่ไปยุ่งเกี่ยวกับเซียนกวีเขาทำไม? ”

หยางเล่อคุกเข่าลงบนพื้น "เซียวเฉวียนเจ้าเล่ห์ เซียนกวีมีตำแหน่งสูง ยืมมือเซียนกวี ประการแรก โอกาสที่จะสำเร็จมีสูง ประการที่สอง มันสามารถปลุกปั่นความสัมพันธ์ระหว่างเซียนกวีกับคนนั้น"

โดยส่วนตัวแล้วคนกลุ่มนี้เรียกจักรพรรดิว่า "คนนั้น" อย่างไม่เกรงกลัว

พ่อบ้านของตระกูลเว่ยวางมือลง ส่ายหัวและกระซิบบางอย่างที่หูของหยางเล่อ ใบหน้าของหยางเล่อเปลี่ยนเป็นขาวซีด

"หัวหน้าหยาง หากไม่มีคำสั่งของเว่ยเจี้ยนกั๋ว อย่าทำอะไรโดยพลการในครั้งต่อไป คนจะได้ไม่หัวเราะเยาะเอา"

"ครับ ครับ ครับ! โปรดรายงานกลับไปที่เว่ยเจียนกั๋ว พวกเราจะระวังในคำพูดและการกระทำแน่นอน!"

"เว่ยเจียนกั๋วกล่าวว่า แทนที่ไปเสียแรงกับเซียวเฉวียนพวกไร้ชื่อเสียงเรียงนาม หัวหน้าหยางน่าจะไปใส่ใจชักนำตัวองค์หญิง หลังจากการสอบในวังแล้ว องค์หญิงต้าถงจะคัดเลือกบุตรเขย ถ้าคนของฝ่ายเราสามารถสมรสกับองค์หญิงได้ เราจะสามารถก้าวไปอีกขั้น ผนึกกำลังร่วมมือกับภูมิภาคตะวันตกได้"

"ครับ ขอบคุณเว่ยเจียนกั๋วสำหรับคำแนะนำครับ!"

“หัวหน้าหยาง อย่ากังวลไป เซียวเฉวียนจะไม่มีชีวิตอยู่รอดถึงวันสอบในวัง ถึงเวลานั้นตำแหน่งจ้วงหยวนจะเป็นคนของเราแน่นอน เซียนกระบี่และเซียนกวีสองคนรบกัน ความหายนะจะตกที่ตัวเซียวเฉวียนเท่านั้น”

"ครับ"

"เจียนกั๋วยังมีคำพูดจากปากที่กำชับให้ต้องบอก ไม่ต้องสำแดงฝีไม้ลายมือกระจอกๆ อีก บทกวีที่พวกเจ้าปล่อยออกไปนั้น ข้าพเจ้าเจียนกั๋วก็ได้อ่านแล้วเช่นกัน มันไปไม่ถึงระดับอย่างของเซียวเฉวียน แม้ว่าเซียนกวีจะไม่ใช่พวกของเรา เขาก็จะไม่เชื่อว่านี่คือบทกวีที่เขียนโดยเซียวเฉวียน”

ฝีไม้ลายมือกระจอกๆ......

ไม่ถึงระดับอย่างของเซียวเฉวียน......

หยางเล่อหน้าแดง บทกวีนี้เขียนโดยตัวเขาเอง! เป็นบทกวีที่ดีที่สุดซึ่งงัดออกมาจากส่วนลึกของสมองเขา!

ไม่คิดว่า ถูกเว่ยเจียนกั๋วกล่าวหาว่ามันยังไปไม่ถึงระดับอย่างฮุ่ยหยวน?

เขาไม่ยอมรับแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เขาพูดอย่างโกรธเคืองว่า "ต้องโทษคนของฉันเรียนไม่เก่ง เขียนบทกวีห่วยแตกนี้เปรอะเปื้อนสายตาของท่านเจียนกั๋ว! ฉันจะสั่งสอนผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดี ให้พวกเขาเรียนรู้มากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะได้รับความโปรดปรานจากองค์หญิงต้าถง!"

"ดี ฉันจะถ่ายทอดคำพูดของหัวหน้าหยางให้แน่นอน ขอลาก่อน"

หยางเล่อรีบให้รางวัลแก่พ่อบ้านเป็นเงินกว่าร้อยตำลึง พ่อบ้านแอบกะน้ำหนักลับๆ ทำความเคารพอย่างดีใจ จากนั้นสะบัดแขนเสื้อแล้วจากไปอย่างร่าเริง

หยางเล่อเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็นเต็มตัว เว่ยเจียนกั๋วรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับแผนของเขา ให้คนมาที่นี่เพื่อห้ามเขาโดยเฉพาะ

เขาไม่คาดคิดด้วยซ้ำว่า สามเซียนได้กลายเป็นพันธมิตรของเว่ยเจียนกั๋วมานานแล้ว!

น่ากลัว!

เว่ยเจียนกั๋วถึงกับยอมรับสามเซียนไว้ด้วย!

หยางเล่อรู้สึกละอายใจและหวาดกลัว เขาทำตัวขายหน้าต่อหน้าเว่ยเจียนกั๋วในวันนี้ เขาต้องชดเชยให้ได้ องค์หญิงต้าถงจะคัดเลือกบุตรเขย นี่เป็นโอกาสอย่างดีแท้ๆ !

แน่นอนว่าการสอบของจักรพรรดิมีความสำคัญมาก เรื่องของเซียวเฉวียนเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย จะสำคัญเท่ากับเรื่องขององค์หญิงต้าถงได้อย่างไร?

ในเมื่อเว่ยเจียนกั๋วกล่าวว่าไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเซียวเฉวียน หยางเล่อจึงทิ้งเซียวเฉวียนไว้เบื้องหลังและเริ่มต้อนรับขับสู้กับเรื่องเกี่ยวกับองค์หญิงต้าถง

จ้วงหยวนจะได้รับความโปรดปรานจากองค์หญิงมากที่สุด องค์หญิงจับคู่กับชายผู้มีปัญญา เป็นกิ่งทองใบหยกแท้ๆ ที่มีมาแต่อดีตกาล

หลังจากการสอบระดับพระราชวังแล้ว ข่าวการเลือกบุตรเขยขององค์หญิงต้าถงจะถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวาง จักรพรรดิให้ความสำคัญกับเธอมากและจะจัดกระบวนงานครั้งใหญ่ที่สุดเพื่อจัดการกับเรื่องนี้

ตอนนี้ทุกคนก็แอบเตรียมตัวกัน แค่เกรงว่าจะถูกคนอื่นชิงโอกาสไปก่อน

องค์หญิงต้าถงมาจากภูมิภาคตะวันตกและมีสถานะสูงส่ง ตอนนี้เธอต้องการเลือกบุตรเขยในแผ่นดินต้าเว่ย หมายความว่า ต้าเว่ยจะสมรสกับภูมิภาคตะวันตก นี่เป็นครั้งแรกที่มีขึ้นในแผ่นดินต้าเว่ย

องค์หญิงต้าถงใช้ชีวิตอย่างสันโดษ นอกจากบุคคลสำคัญระดับสูงแล้ว มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าองค์หญิงก็คือถงจือซูแห่งหออี้จือ

องค์หญิงต้าถงหน้าตาสวยงามและมีความสามารถ จักรพรรดิได้เลือกเธอให้เป็นอาจารย์ของเหล่าองค์ชายองค์หญิง รู้ความรู้มารยาท เธอคือผู้ท้าชิงลูกสะใภ้ที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

ข่าวการเลือกเขยขององค์หญิงรั่วไหลออกไปอย่างลับๆ และบรรดาผู้ที่ตื่นเต้นคือบุตรชายผู้สูงศักดิ์และลูกหลานของตระกูลขุนนางที่มีชื่อเสียง

สำหรับเซียวเฉวียน พวกเขาไม่สนใจเลย อันที่จริงสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาในตอนนี้คือการชนะใจองค์หญิงและชิงเป็นบุตรเขยคนแรกของต้าเว่ยในภูมิภาคตะวันตก

สำหรับคนที่กำลังจะตาย กับอนาคตที่เจริญรุ่งเรือง แน่นอนมันไม่สำคัญเลย

ยกเว้นชาวบ้านธรรมดาที่ยังคงพูดคุยทุกวันเกี่ยวกับเซียวเฉวียนซึ่งป็นเทพดาวเหวินชางจุติมายังโลก จุดสนใจของลูกหลานตระกูลขุนนางล้วนถูกดึงดูดโดยเรื่องของงานสมรสร่วมภูมิภาค

ลูกหลานที่ยังไม่แต่งงานของตระกูลชนชั้นสูงล้วนคิดว่าพวกเขามีภูมิหลังของครอบครัว มีอำนาจ และรูปร่างหน้าตาดี ตำแหน่งราชบุตรเขยจะต้องเป็นของพวกเขาอย่างแน่นอน

ลูกหลานที่แต่งงานแล้วของตระกูลชนชั้นสูงต่างทุบตีหน้าอกและกระทืบเท้า เสียใจที่แต่งงานเร็วเกินไป สตรีผู้สูงศักดิ์ที่สุดในราชวงศ์ต้าเว่ยนอกจากพระราชธิดาแล้วก็เป็นองค์หญิงแห่งภูมิภาคตะวันตก การได้สมรสกับองค์หญิงนั้นมีหน้ามีตากว่าการสมรสกับลูกสาวของตระกูลขุนนางหรือแม่ทัพนายพลเสียอีก

สิ่งสำคัญคือเมื่อได้เป็นราชบุตรเขย ก็ถือเป็นทั้งญาติของจักรพรรดิและญาติของจักรพรรดิในแคว้นภูมิภาคตะวันตก สถานะและตำแหน่งนี้จะให้ไปเปรียบเทียบกับการสมรสกับลูกสาวตระกูลขุนนางได้อย่างไร?

ตระกูลฉินก็ไม่มีข้อยกเว้น พวกเขาตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินว่าองค์หญิงต้าถงกำลังจะคัดเลือกบุตรเขย

แม้ว่าที่ผ่านมาจักรพรรดิจะไม่ยอมให้ตระกูลแม่ทัพนายพลสมรสกับแคว้นภูมิภาคตะวันตก แต่ครั้งนี้การเลือกบุตรเขยขององค์หญิงต้าถง ผู้สมัครจะรวมเอาลูกหลานของตระกูลต้าเว่ยโดยรวม ไม่คำนึงถึงระดับภูมิหลังของตระกูลหรือตำแหน่ง ขอเพียงเพื่อคัดเลือกบุตรเขยซึ่งเป็นที่โปรดปรานขององค์หญิงเท่านั้น

ฉินเฟิงมีอายุเกิน 20 ปี เนื่องจากเขามุ่งอยู่กับการสอบตำแหน่งจิ้นซื่อ และรับราชการในราชสำนัก การสมรสของเขาจึงถูกผลักล่าช้าออกไป

ในยุคโบราณ วัยอย่างเขาถือว่าเป็นหนุ่มแก่แล้ว

ตระกูลฉินใส่ใจมากกับเรื่องการเลือกบุตรเขยขององค์หญิง ได้เริ่มไหว้วานสรรหาเชื่อมความสัมพันธ์ด้วยทุกวิถีทางแล้วตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อสืบให้รู้ว่าองค์หญิงแห่งภูมิภาคตะวันตกชอบอะไรบ้าง

หารู้ไม่องค์หญิงต้าถงปกปิดได้อย่างมิดชิด ตระกูลฉินได้ใช้สายสืบในวังหวังจะล้วงข้อมูลได้บ้าง แต่ปรากฏว่าไม่ได้อะไรเลยแม้แต่นิด

ในกรณีนี้ มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว นั่นคือจักรพรรดิจงใจทำเช่นนั้น หรือองค์หญิงต้าถงจงใจเก็บเนื้อเก็บตัว

ภายใต้การเร่งเร้าของท่านยายฉิน ฉิงเฟิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปเยือนหอจืออี้

ผู้คนที่เกี่ยวข้องเหมือนกับฉินเฟิงได้ไปป้วนเปี้ยนแถวหอจืออี้อย่างเงียบๆ เป็นเวลานานแล้ว เพียงเผื่อที่จะได้พบกับองค์หญิงต้าถงโดยบังเอิญ

ลูกหลานตระกูลฉินที่สง่าผ่าเผย จะประพฤติเยี่ยงลูกหลานผู้ดีเสเพลพวกนี้ได้อย่างไร? องค์หญิงต้าถงมีการศึกษาดีและมีมารยาท เธอต้องเกลียดคนประเภทนั่งคอยส้มหล่น ฉินเฟิงคิดอยู่มานานแล้ว ถ้าเขาจะเอาชนะใจองค์หญิง เขาอาจต้องหาช่องทางอื่น

ฉินเฟิงไม่คำนึงถึงคำชักชวนของคนในบ้าน สะบัดแขนเสื้อแล้วจากไป

ตั้งแต่ที่เซียวเฉวียนอาละวาดในงานเลี้ยงฉลองสอบเที่ยวที่แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลฉินกับเซียวเฉวียนก็ร่วงลงจนถึงจุดเยือกแข็ง ฉินเฟิงแปลกใจมาก แต่ก่อนคุณย่าและน้องสาวจะกล่าวหาว่าร้ายเซียวเฉวียนเป็นครั้งคราว แต่หลังๆ นี้พวกเขาเงียบมาก ชื่อของเซียวเฉวียนดูเหมือนจะหายไปจากจวนฉิน

ท่านยายฉินไม่ยอมให้ใครปริปาก ดังนั้นเรื่องของเซียวเฉวียนฉีกหน้าฉินซูโหรวนั้น ฉินเฟิงในฐานะพี่ชายไม่รู้เรื่องอะไรเลย

”คุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น”

ระหว่างทางกลับบ้าน ฉินเฟิงครุ่นคิดถึงองค์หญิงพลางครุ่นคิดถึงเซียวเฉวียน ไม่ใช่ว่าเขาสนใจเซียวเฉวียน แต่ เพราะเซียวเฉวียนได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเร็วๆ นี้ จู่ๆ ข่าวคราวเงียบหายไปจึงชวนให้คนคลางแคลงใจ

ตามคำสั่งของท่านยายฉิน คนรับใช้เหลียวซ้ายแลขวา “คุณชายใหญ่ ลุงเขยไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่ง ท่านย่าสั่งว่า เราอย่าไปติดต่อกับลุงเขยอีก ปล่อยให้ลุงเขยเขาไปตามยถากรรมของเขา”

ไปตามยถากรรม ท่านยายฉินคิดว่าเขาจะต้องเอาตัวไม่รอด

"ไปทำให้ใครเดือดร้อน?" ฉินเฟิงไม่เข้าใจ ตระกูลฉินต้องกลัวใครหรือ?

"เซียนกวี"

คนรับใช้ตอบด้วยเสียงกระซิบ ฉินเฟิงตัวสะดุ้ง เขา?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย