ในอดีตการที่จะกำจัดเว่ยเชียนชิวสําหรับนักฆ่าเหล่านี้มันเป็นเพียงเรื่องที่เพ้อฝันมาก แต่ตอนนี้เซียวเฉวียนยินดีที่จะช่วยพวกเขาออกจากทะเลไฟแห่งความทุกข์พวกนี้ เซียวเฉวียนเป็นคนที่ทำให้พวกเขามีชีวิตอยู่รอด
ต้าจ้วงและคนอื่นๆได้ท่องไปในโลกมาหลายปีแล้ว ทำให้พวกเขามีความระมัดระวังตัวไม่ใช่น้อย และไม่ได้ประสบพบเจอกับการสูญเสียใดๆเลย
ตอนนี้พวกเขามีความสุขมาก แต่ก็ไม่ได้ลืมเรื่องสำคัญไปเซียวเฉวียนบอกว่าเขาจะยอมรับต้าจ้วงและคนอื่นๆ แต่มันก็ไม่มีหลักฐานถ้าเซียวเฉวียนต้องการให้ต้าจ้วงบอกตําแหน่งของเหมืองทองคําเซียวเฉวียนต้องแสดงความจริงใจ
ต้าจ้วงมองไปที่เซียวเฉวียนด้วยสายตาที่บอกเป็นนัยๆ เซียวเฉวียนที่ได้ยินความในใจของต้าจ้วงก็ออกมายิ้มจางๆและพูดว่า “เพื่อแสดงความจริงใจของข้า ข้าจะจัดคนไปช่วยครอบครัวของพวกเจ้าและย้ายพวกเขาไปยังที่ปลอดภัยตอนนี้”
ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงเข้าร่วมกองกําลังกับไป๋ฉี่ต่อหน้าต้าจ้วง
คราวนี้เซียวเฉวียนก็พูดออกไปโดยตรงว่า “ไป๋ฉี่หลังจากที่เจ้าและเหมิงเอ้าเจอสถานที่ที่เว่ยเชียนชิวจับตัวประกันไปแล้ว ก็ไปช่วยชีวิตตัวประกันไว้ทั้งหมด”
“ขอรับใต้เท้า!” เสียงของไป๋ฉี่ดังขึ้นในอากาศ
ต้าจ้วงและคนอื่นๆก็ได้ยินบทสนทนาระหว่างเซียวเฉวียนและไป๋ฉี่อย่างชัดเจน และตอนนี้ครอบครัวของพวกเขาจะได้รับการช่วยเหลือแล้ว!
มันเยี่ยมมาก!
ต้าจ้วงและคนอื่นๆนั้นตื่นเต้นมากจนเขาก้มหน้าให้แสดงความเคารพให้เซียวเฉวียนสามครั้ง “ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ ราชครู!”
และหลังจากนั้นต้าจ้วงมองเซียวเฉวียนด้วยสายตาที่กตัญญูมาก และด้วยสายตาของต้าจ้วงที่มองมาก็ทําให้ราชครูเข้าใจในทันที
นายท่านคนใหม่ผู้นี้ดีมาก!
ต้าจ้วงและคนอื่นๆเริ่มพอใจกับเซียวเฉวียนมากขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนว่าจะคิดถูกแล้วที่จะเลือกเซียวเฉวียนเป็นนายท่าน!
“ลุกขึ้น ที่นี่ไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไรมากมาย แค่อะไรนิดๆหน่อยๆก็อย่าคุกเข่าและทำความเคารพข้า” เซียวเฉวียนบอกพวกเขาอย่างเฉยเมย
เมื่อเขาอยู่ที่ฮวาซย่าเซียวเฉวียนได้ยินผู้สูงอายุบางคนพูดว่าคนที่น้อมรับการคุกเข่าและการแสดงความเคารพจากผู้อื่นๆจะทำให้แก่ไว
ต้าจ้วงและคนอื่นๆล้วนอายุสามสิบสี่สิบแล้ว พวกเขาแก่กว่าเซียวเฉวียนอีกแต่การที่มีคนคุกเข่าให้เซียวเฉวียนเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เซียวเฉวียนทะนุถนอมชีวิตของเขามากที่สุดเพราะเซียวเฉวียนยังต้องการมีชีวิตที่ยืนยาวและกลับไปที่ฮวาซย่าเพื่อจะได้ลิ้มรสอาหารอร่อยทั่วโลก
ทันทีที่พูดจบ ต้าจ้วงและคนอื่นๆก็ยืนตัวตรงข้างหน้าเซียวเฉวียนเพื่อรอเซียวเฉวียนออกคําสั่ง
เมื่อเห็นใบหน้าที่จริงจังของพวกเขาเซียวเฉวียนก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว สิ่งที่เว่ยเชียนชิวฝึกสอนพวกเขานั้นน่าเบื่อจริงๆ พวกเขาทั้งหมดทำหน้านิ่งๆตลอดทั้งวันใช้ชีวิตแบบนี้ไม่เหนื่อยหรือ?
เมื่อมองดูไปที่ผู้คนรอบๆเซียวเฉวียนทุกคนล้วนมีบุคลิกที่มีชีวิตชีวา
เดิมทีเหมิงเอ้าเป็นคนประมาท แต่ตั้งแต่ที่เริ่มติดตามเซียวเฉวียน เขาได้เรียนรู้บุคลิกไหวและพริบมากมายของเซียวเฉวียนหลังจากนั้นของเหมิงเอ้าก็มีชีวิตชีวามากขึ้น
แม้แต่ไป๋ฉี่ที่อายุน้อยแต่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่อยู่เสมอก็มีพลังเพิ่มขึ้นเพราะติดนิสัยจากเซียวเฉวียน และบางครั้งไป๋ฉี่ก็ทะเลาะกันกับเหมิงเอ้า
นอกจากนี้โย่วควนเดิมเป็นนักแสดงที่ตกต่ำ ปกติโย่วควนจะไม่พูดเยอะ และจะไม่กล้าพูดอะไรสักคําเมื่อถูกรังแก
แต่ตั้งแต่เซียวเฉวียนยอมรับโย่วควน และด้วยการติดนิสัยมากมายจากเซียวเฉวียนครั้งใหญ่ในจวนเซียว ใบหน้าของโย่วควนก็ค่อยๆยิ้มและมีความมั่นใจขึ้นมาเล็กน้อย และค่อยๆเริ่มคิดที่จะสู้กลับ
อย่างเช่นเมื่อกี้นี้เมื่อเซียวเฉวียนไม่พูดอะไรสักคํา โย่วควนก็ออกมาข้างหน้าเพื่อพูดแทนเซียวเฉวียนและยืนยันว่าเหมืองทองคําที่ต้าจ้วงกล่าวถึงนั้นจริงหรือเท็จ
เมื่อมองไปที่ต้าจ้วงและคนอื่นๆที่ยืนตัวตรงเหมือนเหล็กและไร้ความรู้สึก เซียวเฉวียนก็ถอนหายใจว่าเว่ยเชียนชิวฝึกฝนพวกเขามาเป็นอย่างดีจริงๆ
“โอเค ตอนนี้มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเจ้าแล้ว ต้าจ้วงเจ้าทิ้งที่อยู่ที่สามารถติดต่อกับเจ้าได้แล้วก็แยกย้ายกันได้แล้ว” ใบหน้าของเซียวเฉวียนสงบแต่ข้างในใจของเขาเต็มก็เต็มไปด้วยความสุข
เหมืองทอง!
“เจ้าไปรอข้าที่เมืองอีหลิน เมื่อข้าเสร็จงานแล้ว ข้าจะพาพวกเจ้ากลับไปที่ต้าเว่ย”
สิ่งที่เซียวเฉวียนพูดกับพวกเขา เมื่อต้าจ้วงได้ยินมันก็กลายเป็นความเห็นอกเห็นใจของเซียวเฉวียนที่มีต่อพวกเขา สำหรับเซียวเฉวียนนี่คือต้าจ้วงและคนอื่นๆผู้น่าสงสารที่ลำบากมาโดยตลอด!
ต้าจ้วงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าและร้องไห้ออกมา
ต้าจ้วงชายแกร่งเช่นนี้ก็มีช่วงเวลาที่อ่อนโยนอยู่ในใจเช่นกัน
ในอดีตพวกเขาทำงานให้เว่ยเชียนชิวด้วยเลือดเนื้อ แต่เว่ยเชียนชิวก็ไม่เคยมองว่าพวกเขาเป็นมนุษย์และยังต้องอาศัยอยู่เช่นเดียวกับสุนัขในกรง
ตอนนี้พวกเขายอมรับเซียวเฉวียนเป็นนายท่าน พวกเขายังไม่ได้ทําอะไรเพื่อเซียวเฉวียนแลยแต่เซียวเฉวียนก็ไม่เพียงแต่ช่วยช่วยครอบครัวของพวกเขาก่อนเท่านั้น แต่ยังห่วงใยพวกเขามากเช่นกันเห็นได้ชัดว่าเซียวเฉวียนปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนเป็นเพื่อนพี่น้อง!
ถ้าไม่มีการเปรียบเทียบก็จะไม่ได้เสียหายอะไร แต่ในการเปรียบเทียบครั้งนี้ความเสียหายที่เว่ยเฉียนเฉียวมอบให้นั้นมากเกินไปจริงๆ!
ต้าจ้วงแอบสาบานในใจว่าเขาจะติดตามเซียวเฉวียนจนตาย!
ดังนั้นต้าจ้วงและคนอื่นๆจึงฟังคําพูดของเซียวเฉวียนและเดินทางไปยังเมืองอีหลิน
หลังจากพักผ่อนหนึ่งคืนเซียวเฉวียนก็ตื่นขึ้นด้วยร่างกายที่สมบูรณ์
เมื่อเขาตื่นและได้ยอมรับคนที่มีพรสวรรค์อีกหนึ่งกลุ่มเข้ามา และในขณะเดียวกันก็ยังได้รับสมบัติหายากและเหมืองทองคําอีกจำนวนมาก เซียวเฉวียนอารมณ์ดีจนเกือบจะฮัมเพลงออกมา
เขาเป็นคนที่มียศบรรดาเขาไม่สามารถออกตัวต่อหน้ามู่จิ่นและคนอื่นๆมากเกินไปได้ ควรยึดมั่นในสิ่งที่ควรไม่อย่างนั้นเรื่องตลกเหล่านี้จะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อซินเจียงและเมืองอื่นๆ
ดังคํากล่าวที่ว่าเรื่องฉาวในบ้านอย่าเล่าให้คนนอกฟัง เซียวเฉวียนเป็นราชครูแห่งต้าเว่ย ต้าเว่ยประมุขแห่งชิงหยวน และนักปัญญาชน เซียวเฉวียนเป็นนักปัญญาชนที่ชอบกลิ่นทองแดง มันเป็นเรื่องดีที่คนของต้าเว่ยจะรู้เอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...