ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1065

สรุปบท บทที่ 1065 ลับๆ ล่อๆ: ซูเปอร์ลูกเขย

ตอน บทที่ 1065 ลับๆ ล่อๆ จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1065 ลับๆ ล่อๆ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

การไปสู่ราชวงศ์ต้าเว่ยสำหรับมู่จิ่น ถูกลิขิตเป็นเส้นทางที่ไม่มีหวนกลับ

เมื่อออกจากเขตแดนของภูมิภาคตะวันตก มู่จิ่นก็ไม่อาจย้อนกลับ มีแต่ต้องเดินไปข้างหน้าทางเดียว

และเส้นทางติดตามเซียวเฉวียนของมู่จิ่นสู่ราชวงศ์ต้าเว่ย ย่อมเต็มไปด้วยการนองเลือดอย่างแน่นอน

พวกเขายังอยู่ในแดนภูมิภาคตะวันตก มูจิ่นคิดกลับใจยังทันอยู่

ความหมายในคำพูดของเซียวเฉวียน มู่จิ่นจะไม่เข้าใจได้อย่างไร

สิ่งเหล่านี้มู่จิ่นคิดมาหมดแล้ว ทางไปสู่ราชวงศ์ต้าเว่ยแม้ไม่สะดวกสบาย ทางที่จะเฝ้าอยู่ในภูมิภาคตะวันตกดูเหมือนราบเรียบไร้หลุมบ่อ แต่มู่จิ่นก็อยู่อย่างหวาดกลัว เขาต้องคอยระวังนักปราชญ์อยู่เสมอ มู่จิ่นกลัวอย่างยิ่งว่านักปราชญ์จะทำนายตัวแปรอย่างเขาได้ แล้วนักปราชญ์จะสังหารเขาโดยอ้างว่าทำเพื่อประสงค์แห่งสวรรค์

ถ้าหากมู่จิ่นจะอยู่ที่ภูมิภาคตะวันตกต่อไป เขายังคงต้องใช้ชีวิตอย่างระแวดระวัง ทรมานทั้งกายและใจ

หากวันหนึ่งมู่จิ่นถูกจับได้โดยนักปราชญ์ว่าเขามาจากจีนฮวาเซี่ย ลำพังกำลังของมู่จิ่นคนเดียวคงสู้รบกับนักปราชญ์ไม่ได้แน่ มูจิ่นคงต้องรอตายอยู่ทางเดียวเท่านั้น

มู่จิ่นไม่อยากตาย

ถ้ามู่จิ่นตาย มันจะกลายเป็นเงามืดและเป็นการทำร้ายจิตใจต่อมู่เวยไม่ใช่หรือ ?

มู่จิ่นไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต แต่มู่จิ่นรู้ดีว่าความเจ็บปวดระยะยาวนั้นแย่กว่าความเจ็บปวดเฉพาะหน้า ในเมื่อมู่เวยไม่สมัครใจที่จะติดตามมูจิ่นไปยังต้าเว่ย ก็บอกลาเสียแต่ตอนนี้ อาจเป็นเรื่องดีก็ได้

เขาไม่อยากเห็นศิษย์น้องร้องไห้ ทั้งไม่คิดจะให้ศิษย์น้องต้องตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในอนาคต

เมื่อคิดถึงจุดนี้ มู่จิ่นก็กัดฟันและพูดด้วยสีหน้าอันหนักแน่น "เราไปกันเถอะ"

นอกเหนือความคาดคิดของมู่จิ่น โย่วควนเดินกลับมาและพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ "โอ้ ถ้างั้น คุณชายมู่จิ่น ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่อยู่ที่ภาคตะวันตก เจ้านายอยู่ที่ไหนข้าก็จะอยู่ที่นั่น"

”นอกจากนี้ ข้ากับแม่นางมู่เวยเป็นแค่เพื่อนกัน ท่านไม่ต้องคิดมาก” โย่วควนกล่าวเสริม

อะไรที่ควรพูด โย่วควนก็พูดหมดเรียบร้อย โย่วควนขยับขาก่อนมู่จิ่นหนึ่งก้าวไล่ตามทันเซียวเฉวียนไป

เซียวเฉวียนยิ้มจาง ๆ ให้มู่จิ่น "ไปกันเถอะ เราไปตามหาคาราวานกัน"

ในเมื่อมู่จิ่นตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะไปต้าเว่ยกับเซียวเฉวียนแล้ว เซียวเฉวียนรู้สึกว่ามีบางอย่างที่เขาควรบอกมู่จิ่น "มู่จิ่น องค์หญิงจริงๆ แล้วอยู่ที่ต้าเว่ย"

มู่จิ่นได้ยินแล้วอึ้ง องค์หญิงไปยังต้าเว่ยตั้งแต่เมื่อไหร่ ? เมื่อไม่นานมานี้ ก่อนที่เซียวเฉวียนจะมาที่เขาหมิงเซียน มู่จิ่นและมู่เวยก็ได้พบกับองค์หญิง

และก็อยู่บนเขาหมิงเซียนเช่นกัน ตอนที่มู่จิ่นละเซียวเฉวียนรู้จักกัน มู่จิ่นได้รู้มาจากปากเซียวเฉวียนว่าองค์หญิงถูกแอบนำกลับมายังภูมิภาคตะวันตก และแอบซ่อนตัวไว้โดยองค์ชายแห่งภูมิภาคตะวันตกเมื่อครึ่งปีที่แล้ว

ก่อนหน้านั้น มู่จิ่นและผู้คนในภูมิภาคตะวันตกทั้งหลายคิดว่าองค์หญิงอยู่ในต้าเว่ย เพราะพวกเขารู้เพียงว่าองค์หญิงไปที่ราชวงศ์ต้าเว่ย แต่งงานกับชายชาวต้าเว่ย และไม่เคยกลับไปยังภูมิภาคตะวันตกอีกเลย

สำหรับในฝั่งต้าเว่ย ไม่มีใครรู้ว่าองค์หญิงต้าถงถูกนำตัวกลับไปยังภูมิภาคตะวันตกโดยพี่ชายของเธอ ทุกคนคิดว่าตอนที่จวนเซียวถูกสังหารหมู่ องค์หญิงต้าถงก็ตายไปด้วยแล้ว

ดังนั้น คนในต้าเว่ยที่รู้ว่าองค์หญิงต้าถงยังมีชีวิตอยู่จึงมีไม่มาก

เมื่อเห็นใบหน้าที่สับสนของมู่จิ่น เซียวเฉวียนจึงกล่าวเสริมว่า "ตอนที่เราอยู่บนเขาหมิงเซียน องค์หญิงก็อยู่ที่นั่น หลังจากที่เธอช่วยดับเชื้อไฟของเพลิงชุ่ยเจี้ยนแล้ว เธอก็พร้อมกับสาวใช้เสวี่ยเยี่ยน และฉินซูโหรว คุณหนูใหญ่ของจวนฉินในต้าเว่ยกลับไปต้าเว่ยด้วยกันแล้ว "

พอได้ยินเช่นนี้ มู่จิ่นก็พยักหน้าด้วยความเข้าใจ แล้วถามว่า "งั้นที่อยู่ขององค์หญิงในต้าเว่ยก็ถูกเก็บเป็นความลับเช่นกันหรือ ?"

เซียวเฉวียนพยักหน้า ตราบใดที่เว่ยเชียนชิวไม่ถูกกำจัด ครอบครัวของเซียวเฉวียนก็ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ ในสายตาของชาวต้าเว่ย เซียวเฉวียนเป็นคนเดียวโดดเดี่ยว เพราะเขาเป็นคนๆ เดียวโดดเดี่ยว เว่ยเชียนชิวจึงไม่สามารถจับหาใครมาเป็นตัวประกันเพื่อข่มขู่เซียวเฉวียนได้ ดังนั้น เซียวเฉวียนจึงสามารถจัดการกับเว่ยเชียนชิวได้โดยไม่ต้องวอกแวกใจ

ในความเป็นจริง เซียวเฉวียนมีผู้อารักขาฝีมือดีสองคน ไป่ฉีและเหมิงเอ้า เซียนชิวน้อย ดาบวิญญาณดั่งเทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง ยังมีตราจูเสินศักดิ์สิทธิ์อายุพันปี ตอนนี้ยังมีกำลังเสริมของหัวใจดาบและชิงหลง เซียวเฉวียนไม่กังวลว่าเขาจะไม่สามารถปกป้องครอบครัวของเขาได้ แต่เพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัย เซียวเฉวียนไม่กล้าเอาชีวิตของคนในครอบครัวมาเสี่ยง

ตรงนี้ในวันปกติจะมีคนเข้าออกน้อยมาก นอกจากเด็กหนุ่มให้อาหารม้าแล้ว ก็มีแต่องค์หญิงต้าถงและเสวี่ยเยี่ยนเท่านั้น

เด็กชายที่ให้อาหารม้ายังเป็นใบ้ ไม่รู้หนังสือแม้แต่ตัวเดียว ดังนั้น ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด

แต่ฉินซูโหรวไม่ได้คาดว่า สุนัขสีเหลืองตัวน้อยที่เซียวเฉวียนพาไปจากที่นี่จะกลับมาเที่ยวที่นี่เมื่อมันไม่มีอะไรทำ และชักนำศัตรูมาโดยไม่ทันรู้ตัว

เป็นความจริงที่ว่าความคิดของมนุษย์นั้นสู้ฟ้าลิขิตไม่ได้

ถ้าเซียวเฉวียนรู้ว่าสุนัขสีเหลืองตัวน้อยจะก่อปัญหาใหญ่เช่นนี้ เซียวเฉวียนคงจะมีความคิดที่จะตุ๋นเนื้อสุนัขอย่างแน่นอน

อันตรายกำลังมาเยือนอย่างเงียบๆ องค์หญิงต้าถงและเสวี่ยเยี่ยนก็ไม่รู้ตัว ตอนนี้ องค์หญิงกำลังนั่งอยู่ในห้องเย็บรองเท้าให้เซียวเฉวียน การยกเข็มร้อยด้ายแต่ละจังหวะนั้นนิ่มนวล คิ้วตานั้นเต็มไปด้วยความปรารถนาแห่งความรักคิดถึงอย่างนิรันดรต่อเซียวเฉวียน

เสวี่ยเยี่ยนยืนเงียบ ๆ อยู่ข้างองค์หญิง ดวงตาของเธอไหวตามเข็มและด้ายในมือขององค์หญิง มองจนเธอรู้สึกง่วงๆ อยากหลับนอน

นานๆ ทีสุนัขสีเหลืองตัวน้อยก็เห่า สุนัขสีเหลืองตัวเล็กเห่าหนึ่งครั้ง เสวี่ยเยี่ยนจะสะดุ้งที แล้วเธอก็จ้องไปที่สุนัขสีเหลืองตัวน้อยและตำหนิสุนัขสีเหลืองตัวน้อยที่ทำเสียงรบกวน

พอเห็นสายตาอันดุร้ายของเสวี่ยเยี่ยน สุนัขสีเหลืองตัวน้อยก็คร่ำครวญและคอตกนอนลงบนพื้น

แต่ในไม่นานสุนัขสีเหลืองตัวน้อยก็เริ่มเห่าขึ้นมาอีก "โฮ้ง ๆ ๆ !"

ครั้งนี้ เจ้าสุนัขสีเหลืองตัวน้อยเห่าไม่ยอมเลิก ไม่ว่าเสวี่ยเยี่ยนจะจ้องตาดูดุร้ายแค่ไหน มันก็ยังเห่าไม่หยุด

องค์หญิงต้าถงวางงานเย็บปักในมือลงแล้วกระซิบเบา ๆ "เสวี่ยเยี่ยน ออกไปดูว่ามีใครมาหรือเปล่า"

“ค่ะ !” เสวี่ยเยี่ยนแวบเดียวเดินออกจากบ้าน เธอมองซ้ายมองขวาไม่เห็นมีอะไรแปลก เมื่อเธอกำลังจะกลับมารายงาน เสวี่ยเยี่ยนก็ได้ยินบริเวณที่รูซึ่งปกติเป็นทางเข้าออกของสุนัขสีเหลืองตัวน้อย มีคนแอบย่องเข้ามาอย่างลับๆ ล่อๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย