สรุปตอน ตอนที่ 1072 แม่นางเสี่ยวชิง – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
ตอน ตอนที่ 1072 แม่นางเสี่ยวชิง ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เสี่ยวเอ้อฟังไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ก็รู้สึกซาบซึ้งใจมากจนน้ำตาไหล
ลูกค้าคนนี้เป็นผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตไว้ ถ้าเขาและคนทำครัวต้องชดใช้ค่าอาหารหลายอย่างนี้ เงินเดือนหลายเดือนก็ต้องเอาไปชดใช้จนหมดไม่เหลือ
ดังนั้น น้ำเสียงของลูกค้าาที่ต้องการขาแกะ ไม่ใช่เสียงจากธรรมชาติแล้วเป็นเสียงอะไร?
เป็นน้ำเสียงที่ไพเราะมากที่สุดในโลกนี้แล้ว
เสี่ยวเอ้อดีใจมากยกถือขาแกะขึ้นไปด้านบน ที่จริงแล้วคนที่ต้องการขาแกะ ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นเซียวเฉวียน
โย่วควนทำเพื่อความปลอดภัยของนายท่าน ไม่กล้ากินอาหารของที่นี่ ตามหลักแล้ว ก็ไม่ควรทำให้เสี่ยวเอ้อลำบากใจ มันไม่ใช่นิสัยของเซียวเฉวียน
เซียวเฉวียนก็เปิดโรงเตี๊ยมเหมือนกัน รู้ดีว่าถ้าโดนคืนอาหารพวกนี้กลับแล้ว คนที่จะต้องรับผิดชอบก็คือคนทำครัว
“นายท่าน!เฉากุยบอกว่าต้องการจะฆ่าท่าน ทำไมท่านยังจะกล้ากินอีก?”
โย่วควนไม่รู้จะทำอย่างไรทำอะไรไม่ถูก ไม่ห่วงชีวิตของตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว
“ไม่เป็นไร มีผนึกจูเสินปกป้องร่างกายอยู่ วางยาพิษไม่ได้หรอก”
เซียวเฉวียนโบกมือขึ้น ให้นำอาหารที่สั่งไว้ทยอยเอาขึ้นมา ถ้าไม่กินข้าว ผนึกจูเสินก็จะไม่ยอมตอบรับ
เมื่อเซียวเฉวียนพูดอย่างนี้ โย่วควนคิดว่าทุกอย่างจะผ่านราบรื่นไปได้ด้วยดี เรื่องที่ไม่มีความมั่นใจ นายท่านคงไม่ทำอย่างแน่นอน
ใครจะรู้ ผนึกจูเสินรู้สึกร้อนร้นแล้ว
“เซียวเฉวียน!เจ้าหยุดล้อเล่นได้แล้ว!ข้าไม่สามารถถอนพิษได้!”
ผนึกจูเสินห้ามไว้ แต่เซียวเฉวียนหิวโหยอย่างมากกินอาหารเขาไปแล้ว:“ถ้าข้าโดนพิษ เจ้าก็ไม่ได้ดีไปกว่าข้าได้หรอก แล้วแต่เจ้าก็แล้วกัน”
ถอนพิษไม่ได้?
เซียวเฉวียนหัวเราะ ผนึกจูเสินโกหกเขา
ตั้งแต่ที่ผนึกจูเสินเข้าไปอยู่ในร่างกายของเขา เซียวเฉวียนก็บาดเจ็บน้อยลงมาก ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บก็ฟื้นฟูกลับมาได้รวดเร็ว
ผนึกจูเสินนี้ อ้อมมือให้เซียวเฉวียน ไม่มีความจริงใจเลยจริงๆ
โย่วควนร้องไห้มองดูเซียวเฉวียนฉีกขาแกะกิน กินเนื้อเข้าไปคำใหญ่ จับที่ขอบประตู แย่แล้วแย่แล้ว จะต้องเตรียมโรงศพเอาไว้แล้ว
ขาแกะได้ถูกส่งเข้าไปในห้องของเซียวเฉวียน เฉากุยตกตะลึงเล็กน้อย เหอะ เซียวเฉวียนไม่กลัวตายจริงๆ
เฉากุยเป็นพ่อค้าคนหนึ่ง ไม่ได้ใส่ยาพิษลงไปในขาแกะแน่นอน
ถ้าคนของเซียวเฉวียนมาโวยวายที่นี่ แล้วบอกว่ากินอาหารของที่นี้แล้วตาย หลังจากนี้ธรุกิจการค้าจะยังทำต่อไปได้ยังไง?
การทำธุรกิจการค้า กลัวถูกทำลายชื่อเสียง
ดังนั้นเฉากุยไม่ได้วางยาพิษ ในเมื่อคนของสำนักหมิงเซียงกำลังจะมาถึงแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นตายในเนื้อมือของคนอื่น ก็จะไม่สามารถมาโทษเฉากุยได้ หลังจากนั้นธุรกิจการค้าก็ยังสามารถทำต่อไปได้
แม่นางเฉากุยผู้ไร้เดียงสา ยังคิดเรื่องที่จะทำธุรกิจการค้าอยู่อีก นางคิดไม่ถึงว่า การทำธุรกิจการค้า เจ้านายกำลังจะเปลี่ยนไปในเร็วๆนี้
เมื่อเวลาค่ำคืนกำลังจะมาเยือน เป็นเวลาที่ทั้งนกเหยี่ยวและนกนางแอ่นจะบินออกมา
ความพิเศษของหมู่บ้านเย่วหยา ก็คือหญิงสาวซินเจียงที่สวยงาม
นี่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมหมู่บ้านเย่วหยาถึงมีธุรกิจการค้าที่ดี
รอบๆข้างก็มีพ่อค้าจากหมู่บ้านอื่นๆเข้าออกติดต่อกันไปมา แต่ธุรกิจการค้าก็ไม่ดีเท่ากับหมู่บ้านเย่วหยา
หมู่บ้านเย่วหยามีโรงเตี๊ยมอยู่หลายแห่ง แต่ธุรกิจการค้าที่นี่ของเฉากุยดีมากที่สุด
มีสำนักหมิงเซียงเป็นที่พึ่งพา หญิงสาวที่นี่ของเฉากุยทั้งหมดได้ถูกคัดสรรมาจากซินเจียง ทุกคนรูปร่างหน้าตาสวยงามอย่างมาก ทุกคนดูอ่อนโยนเป็นธรรมชาติ
ดังนั้นเหล่าบรรดาพ่อค้าของซินเซียงมีคำพูดที่ว่า ผ่านหมู่บ้านเย่วหยาแล้วไม่เข้าไป คนๆนั้นไม่ใช่ผู้ชาย!
“คุณลูกค้า มา ดื่มเหล้ากัน!”
เมื่อตอนที่พระอาทิตย์ตกดิน หญิงสวยเหล่านั้นที่เฉากุยดูแลไว้ก็มีพลังฮึกเหิมในยามค่ำคืน วิ่งเข้าไปหาพ่อค้าแต่ละคนและผู้อารักขา ลูบผมวางท่าทางสวยงาม ส่งสายตาเย้ายวน และยังพยายามเข้าไปใกล้พวกเขาจูบลงบนส่วนต่างของร่างกาย
ผู้ชายไม่สามารถต้านทานการใช้เสน่ห์หลอกล่ออย่างนี้ได้ ดังนั้นหมู่บ้านเย่วหยาเป็นที่ที่ไม่มีขีดจำกัดน่าดึงดูดมาก
ถึงแม้ว่าพวกของเซียวเฉวียนทั้งสามคนไม่ได้รับการต้อนรับดูแลจากเฉากุย แต่เพื่อเป็นการรักษาหน้าไว้ เฉากุยยังให้เหล่าบรรดาหญิงสาวมาดูแลพวกของเซียวเฉวียนทั้งสามคน
“ไม่ต้องเกรงใจไม่ต้องเกรงใจ บ้านเกิดของข้าก็มีคนหนึ่งชื่อเสี่ยวชิง เป็นปีศาจ อ่อ ไม่ เป็นคนดี ข้าเห็นเจ้าสวยเหมือนปีศาจน้อย ช่วยเหลือเจ้า ก็สมควรแล้ว”
เห็นๆอยู่ว่าคนที่ผลักคนอื่นก็คือเซียวเฉวียน ทำเหมือนว่าตัวเองมีน้ำใจมากมาย
เสี่ยวชิงทั้งหัวเราะและร้องไห้:“ท่าน ดื่ม ดื่มชาเถอะ”
นี้เป็นประเพณีของหมู่บ้านเย่วหยา บรรดาสาวสวยจะต้องเสิร์ฟน้ำชาให้แขกดื่มสามจอก
จอกแรกชาขม
จอกที่สองชาแดง
จอกที่สามชาอู่หลง
ชาสามจอกนี้มีเอกลักษณ์เป็นหนึ่งเดียว เมื่อดื่มแล้ว รสชาติมีความซับซ้อน กลิ่นติดอยู่ในลำคอ ถือว่าเป็นความพิเศษอย่างมากของหมู่บ้านเย่วหยา
เสี่ยวชิงถูกเซียวเฉวียนผลักออกมา มือที่รินชาสั่นไปหมด
แม้ว่าเสี่ยวชิงจะไม่รู้วิชาการต่อสู้ แต่ก็รู้ว่าพลังที่ผลักนางเมื่อครู่นั้นไม่ธรรมดา
ท่าทางของเซียวเฉวียนดูเบา เสี่ยวชิงได้รับพลังการผลักอย่างไม่คาดคิดมาก่อน กระเด็นลอยยออกไป
พ่อของเสี่ยวชิงเป็นคนของสำนักหมิงเซียง นางและเฉากุยนับได้ว่าเป็นเหมือนพี่น้องที่ดีต่อกันมาก ดังนั้นเสี่ยวชิงจึงรู้ข้อมูลเป็นอย่างดี
เฉากุยให้คนของสำนักหมิงเซียงมาฆ่าเซียวเฉวียน เสี่ยวชิงจึงรับอาสามาทดลองพลังของเซียวเฉวียน
นางไม่อยากให้พ่อของนางทำผิดพลาด
ตอนนี้ดูท่าแล้ว พ่อคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซียวเฉวียน
“แม่นาง ชาของเจ้าหกออกมาแล้ว”
มือใหญ่ๆของเซียวเฉวียน จับมือที่สั่นด้วยความกลัวของเสี่ยวชิงไว้:“เจ้าสบายใจได้ ถ้าพ่อของเจ้าไม่ฆ่าข้า ข้าก็จะไม่ฆ่าเขา”
เสี่ยวชิงตกใจร้องเสียงดัง:“อ่ะ!ท่าน!ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้ากำลังคิดอะไรอยู่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...