ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1075

สรุปบท บทที่ 1075 หายนะที่ร้ายแรง: ซูเปอร์ลูกเขย

ตอน บทที่ 1075 หายนะที่ร้ายแรง จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1075 หายนะที่ร้ายแรง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เมื่อเฉากุยได้ยินเช่นนั้นจากเมื่อกี้ที่อารมณ์ดีอยู่ก็กลายเป็นความโกรธในใจและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “เป็นไปได้ยังไง! กล้าเข้ามาสร้างปัญญาในถิ่นของข้างั้นรึ?”

ตั้งแต่ที่เฉากุยเปิดโรงเตี๊ยมแห่งนี้ มันนานมากแล้วที่ไม่มีใครกล้าสร้างปัญหาให้เฉากุย

เมื่อตอนที่เฉากุยมาที่โรงเตี๊ยมนี้แรกๆพ่อค้าในพื้นที่จำได้แม่นเลยว่ามีกลุ่มอารักขาของผู้ที่มีอำนาจใหญ่เข้ามากินและดื่ม ด้วยความที่เฉากุยนั้นเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอ หลังจากที่กินและดื่มกันอย่างสนุกสนานพวกนั้นก็วางแผนออกไปเลยโดยที่จะไม่จ่ายเงินสักบาท

นี่ก็เท่ากับว่าพวกนั้นกินและดื่มฟรีๆงั้นหรือ?

แน่นอนว่าเฉากุยไม่เต็มใจ เธอโต้เถียงกับกลุ่มอารักขาที่นิสัยไม่ดีพวกนั้นอย่างรุนแรง พวกมันยังรังแกผู้หญิงที่อ่อนแอไม่ยอมจ่ายเงินและขู่ว่าถ้าเฉากุยยังมายุ่งอยู่แบบนี้อีก ก็อย่ามาโทษพวกมันที่หยาบคาย

แต่เพราะเฉากุยมีสำนักหมิงเซียนอยู่เบื้องหลังเธอจึงไม่กลัวคนพวกนั้น แม้ว่าจะถูกพวกอารักขานั้นข่มขู่เฉากุยก็ยังไม่ยอมแพ้

ทั้งสองฝ่ายจ้องหน้ากันและสถานการณ์ก็ตึงเครียด

พวกอารักขานั้นเดินทางไปรอบโลกหลายปีแล้ว นอกจากใช้กำลังแล้ว ยังมีอารมณ์ร้อนและมีรูปลักษณ์ที่ดุร้าย ทําให้ผู้คนต่างก็หวาดกลัว

ในเมื่อก่อน หากมีใครบังเอิญพบเจอคนกลุ่มนี้ไม่กล้าแม้จะเดินผ่าน?

เจ้าของร้านโรงเตี๊ยมแห่งนี้เป็นเพียงหญิงที่อ่อนแอแถมยังกล้ามีปากเสียง ซึ่งถือเป็นการท้าทายพวกมัน!

และเฉากุยก็สามารถปั่นป่วนความอดทนของพวกมันนี้ได้สำเร็จ ทันทีที่พวกอารักขาอารมณ์เสีย พวกมันก็ปาข้าวของ ทุบตีผู้คนในโรงเตี๊ยม และสร้างปัญหาในโรงเตี๋ยมเสียงดังโหวกเหวกโวยวาย เฉากุยเรียกให้คนไปหยุดพวกอารักขา แต่กลับถูกกดหัวลงไปที่พื้นแทน

อันที่จริงอารักขาพวกนั้นไม่ได้โหดเหี้ยมเลย จุดประสงค์ของพวกมันก็คือต้องการทำให้ผู้คนในโรงเตี๊ยมกลัวและเตือนเฉากุยไม่ให้เธอไปขัดขวางพวกมันอีก

สุดท้ายแล้วในโลกก็มีกฎเกณฑ์ มันเป็นเรื่องปกติที่จะอาละวาดแต่มันไม่ได้ง่ายเหมือนการฆ่าคนเพราะเมื่อมีคนตาย ในอนาคตก็เกรงว่าจะไม่มีผู้มีอำนาจคนไหนที่จะกล้าจ้างอารักขาแบบนี้ ดังนั้นอารักขาพวกนี้จึงไม่กล้าทำลายงานของตัวเอง

หากเป็นโรงเตี๊ยมธรรมดาเมื่ออารักขาทำแบบนี้โรงเตี๋ยมก็คงจะต้องประนีประนอมและโรงเตี๊ยมเหล่านั้นจะต้องเจอความสูญเสียอย่างโง่เขลาอย่างแน่นอน

แต่ครั้งนี้พวกเขาโชคร้ายที่ได้มาเจอกับผู้ดูแลอย่างเฉากุยที่ดื้อรั้น

โรงเตี๊ยมที่เฉากุยดูแลนั้นเป็นตัวแทนของสำนักหมิงเซียน และสำนักหมิงเซียนก็เป็นตัวแทนของเทียนเต๋า ภายใต้ท้องฟ้าใครจะมองข้ามไปได้? การเหนือธรรมชาตินี้หยั่งรากลึกอยู่ในร่างกายของสำนักหมิงเซียนทุกคน

สำนักหมิงเซียนทุกคนรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ที่ได้รับเลือกจากพระเจ้า ใครก็ตามที่ขวางทางของพวกเขาก็เท่ากับขวางทางพระเจ้า

ใครกล้าขัดแย้งกับเฉากุยก็เท่ากับการขัดแย้งกับสำนักหมิงเซียน ถ้าขัดแย้งกับสำนักหมิงเซียนก็เท่ากับขัดแย้งกับพระเจ้า การขัดแย้งกับพระเจ้าคิดว่าจะมีอายุอยู่ได้นานงั้นรึ?

ถ้าเป็นเช่นนี้สำนักหมิงเซียนก็ควรจัดการกับหายนะที่ร้ายแรงแทนพระเจ้า!

เพราะเหตุนี้อารักขาพวกนี้ทําให้เกิดหายนะร้ายแรง พวกเขาบังเอิญออกมาเดินเล่นและได้รับเชิญจากเสวียนอวี๋ แต่พวกเขาก็ตายก่อนที่จะส่งเสียงร้องด้วยซ้ำ

การได้พบกับเสวียนอวี๋ก็ถือเป็นโชคดีสําหรับอารักขา เสวียนอวี๋เป็นมีฝีมือมากอย่างน้อยพวกเขาก็จบชีวิตลงไปก่อนที่จะได้รู้สึกเจ็บปวด

เพราะนอกจากตาของพวกเขาที่เบิกกว้างแล้ว พวกเขาไม่ได้แสดงท่าทางที่ดูเจ็บปวดเลย

ปัจจุบันก็ไม่มีใครรู้เลยว่าใครเป็นคนลงมือ แต่มันทำให้ผู้คนนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

อยากถามว่าคนที่ได้พบกับปรมาจารย์ที่เก่งและจากไปอย่างไร้ร่องรอง มีใครบ้างจะไม่สติแตก?

ตั้งแต่นั้นมาไม่ว่าจะกลุ่มคาราวานใหญ่หรือเล็กที่ผ่านไปมาก็ไม่กล้ายุ่งกับโรงเตี๊ยมแห่งนี้ไปโดยปริยาย

ในกลุ่มคาราวานมีเรื่องตลกที่กำลังดังไปทั่ว “ถ้าคิดว่าตัวเองอายุยืนให้ลองไปสร้างปัญหาที่โรงเตี๊ยมฉางหมิง”

ธุรกิจโรงเตี๊ยมของเฉากุยมีชื่อว่าโรงเตี๋ยมฉางหมิง

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไม่มีใครกล้าสร้างปัญหาที่ฉางหมิงอีกเลย

แต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากผ่านไปหลายปีก็ยังจะมีคนกล้ามาสร้างปัญหาที่นี่อีก

มีข่าวลือว่าเซียวเฉวียนเป็นคนขี้ขลาด แต่เขามีชีวิตที่ดีและได้แต่งงานกับองค์หญิงต้าถง

หลังจากได้แต่งงานกับองค์หญิงต้าถง เซียวเฉวียนก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ซินเจียง คนที่มีสถานะสูงส่งอยู่อยู่ที่นี่ เฉากุยที่เป็นเพียงเจ้าของโรงเตี๊ยมฉางหมิงกล้าตะโกนใส่เซียวเฉวียนได้อย่างไร?

ดูเหมือนจะปกปิดอะไรบางอย่างอยู่!

หรือว่า... เฉากุยนั้นเป็นสายขององค์หญิงงั้นหรือ?

เป็นไปได้ไหมว่าราชบุตรเขยของซินเจียงนั้นเจ้าชู้และบังเอิญถูกเฉากุยจับได้ที่นี่?

ยิ่งผู้คนนึกถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกมีพลังมากขึ้นเท่านั้น ด้วยจินตนาที่ล้ำเริศพวกเขา พวกเขาจึงตัดสินว่าเซียวเฉวียนนั้นเที่ยวผู้หญิงและถูกจับได้คาหนังคาเขา

นี่มันเรื่องใหญ่มาก!

แขกทุกคนอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง

เมื่อเซียวเฉวียนมาที่ซินเจียงจึงทําให้ซินเจียงเกิดความฮือฮามากในตอนนี้ ดังนั้นในซินเจียงไม่มีใครไม่รู้ว่าเซียวเฉวียนอยู่ในซินเจียง

แต่ในขณะนี้องค์หญิงไม่ได้มาด้วย สันนิษฐานว่าเซียวเฉวียนมาที่ซินเจียงเพียงลําพังหลังจากนั้นเขาก็ทนความเหงาไม่ได้ และกลัวว่าจะถูกคนขององค์หญิงเจอเขาเลยเดินทางออกไปหลายพันไมล์ข้ามทะเลทรายไปยังหมู่บ้านพระจันทร์สถานที่ที่ห่างไกลงั้นหรือ?

เซียวเฉวียนไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยว่าเขาไม่สามารถหนีพ้นจากฝ่ามือขององค์หญิงได้ไม่ว่าเขาจะหนีออกไปไกลแค่ไหน เขาถูกจับได้คาหนังคาเขา คราวนี้เซียวเฉวียนไม่สามารถหลบหนีมันได้!

หึหึ!

ดูเหมือนคราวนี้เซียวเฉวียนเจอปัญหาเข้าแล้ว!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย