สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1086 แลกด้วยชีวิต – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บท ตอนที่ 1086 แลกด้วยชีวิต ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
มู่จิ่นเป็นคนฮว๋าเซี่ย อย่างนี้ก็สามารถจะอธิบายได้แล้ว
มู่จิ่นจากฮว๋าเซี่ยมาถึงซินเจียง รู้ตัวเองดีว่านี่เป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ความคุ้นชินของสังคมยากที่จะรับได้
ถ้าคนอื่นรู้ มู่จิ่นคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้แน่นอน
ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไปก็คงไม่เป็นอะไร มันไม่ง่ายที่คนอื่นจะรู้ได้
นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ มู่จิ่นกลายเป็นคนของสำนักหมิงเซียง
คนสำนักหมิงเซียงสามารถทำนายดวงได้ หนึ่งในนั้นการทำนายดวงของนักปราชญ์มีความล้ำลึกแม่นย้ำอย่างยิ่ง ในเมื่อนักปราชญ์สามารถทำนายได้ว่าเซียวเฉวียนเป็นแตกต่างจากคนอื่น ในไม่ช้าก็จะทำนายได้ว่ามู่จิ่นก็เช่นกัน ในจุดนี้ในใจของมู่จิ่นรู้ชัดเจนเป็นอย่างดี
ในสถานการณ์อย่างนี้ ถ้ามู่จิ่นต้องการมีชีวิตอยู่ต่อไป จะทำสิ่งใดก็ต้องระมัดระวังให้มาก ห้ามแสดงพิรุธออกมาแม้แต่นิดเดียว
การใช้ชีวิตอย่างนี้ มู่จิ่นจะต้องรู้สึกเหนื่อยอย่างมาก
หลังจากที่เซียวเฉวียนและมู่จิ่นรู้จักกัน เซียวเฉวียนก็บอกมู่จิ่นทุกอย่างเกี่ยวกับการกระทำคำพูดของนักปราชญ์ เมื่อมู่จิ่นรู้ว่านักปราชญ์พยายามอย่างมากที่ต้องการจะฆ่าเซียวเฉวียนซึ่งเป็นคนฮว๋าเซี่ย และได้รู้ว่านักปราชญ์อ้างคำสั่งจากสวรรค์ หลังจากนั้นได้ทำร้ายผู้คนเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง เขาก็หมดความเคารพต่อนักปราชญ์
มู่จิ่นรู้สึกไม่มีความปลอดภัย รู้สึกไม่มีตัวตน เป็นเรื่องยากมากที่จะได้เจอเซียวเฉวียนที่เป็นคนบ้านเกิดเดียวกัน ก็เหมือนกับเรือลำเล็กๆลำหนึ่งที่ล่องอยู่ในแม่น้ำมาเป็นเวลานานในที่สุดก็ได้ขึ้นฝั่งมีที่พึ่งพาแล้ว
เมื่อเซียวเฉวียนปรากฏตัวขึ้นได้รู้จักกับมู่จิ่น สำหรับมู่จิ่นแล้วมันช่างถูกที่ถูกเวลาเหมาะเจาะมากจริงๆ
ถ้าเปลี่ยนจากโย่วควนเป็นมู่จิ่น โย่วควนก็คงไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว คงเลือกที่จะตามเซียวเฉวียนกับไปที่ต้าเว่ยด้วยกัน เซียวเฉวียนอยู่ที่ไหน เขาก็จะอยู่ที่นั้นด้วย
และอีกอย่าง ต้าเว่ยยังมีเว่ยอวี๋และเว่ยเป้ยที่มาจากฮว๋าเซี่ยเหมือนกัน
เซียวเฉวียนบอกว่า วัฒนธรรมของต้าเว่ยกับวัฒนธรรมฮว๋าเซี่ยโบราณมีหลายอย่างที่เหมือนกันมาก เป็นความรู้สึกถึงการมีตัวตนอย่างหนึ่ง
ความรู้สึกที่ได้มีตัวตนไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนได้ ถึงแม้ว่าในใจของมู่จิ่นจะรักมู่เวย ก็ไม่สามารถแทนที่ได้
ในเมื่อมู่เวยไม่ยอมไปต้าเว่ยกับมู่จิ่น มู่จิ่นก็ทำได้เพียงเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เขาคงต้องละทิ้งมู่เวย
ตราบใดที่สิ่งพื้นฐานยังคงอยู่ ในอนาคตก็จะบรรลุสิ่งที่ต้องการได้
และถ้ามู่จิ่นและมู่เวยมีโชคชะตาต่อกัน พวกเขาก็จงจะได้พบกันในวันหนึ่ง
สิ่งที่โย่วควนได้พูดอธิบายมานั้นถูกต้อง เมื่อได้ยินสิ่งที่โย่วควนคิดในใจเซียวเฉวียนก็พยักหน้าเห็นด้วย มีความสุขเกิดขึ้นเอง เหมือนลูกของเขาในที่สุดก็เติบโตขึ้นแล้ว
ในตอนนี้เมื่อโย่วควนได้มองปัญหาอย่างมีวุฒิภาวะมากขึ้นมีความนิ่งมั่นคงชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นสามารถยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวเอง
เซียวเฉวียนได้พี่น้องที่ดีเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ยอดเยี่ยมมาก!
ดูแล้วการเดินทางมาซินเจียงในครั้งนี้และพาโย่วควนมาด้วยเป็นสิ่งที่ฉลาดมาก
ทั้งสามคนพูดคุยและร่วมเดินไปด้วยกัน ไม่ทันรู้ตัว ออกจากโรงเตี๊ยมมาได้ไม่ไกล
สถานที่ใกล้ๆโรงเตี๊ยม มีพุ่มไม้หน้าทึบอยู่ ในตอนนั้นพวกเขากำลังจะผ่านเส้นทางตรงนั้น
และในตอนนั้น ทันใดนั้นก็มีเงาของคนสองคนพุ่งออกมา ฝ่ามือที่รุนแรงพุ่งโจมตีเซียวเฉวียน
เซียวเฉวียนไม่ทันรู้ตัว ด้านหลังก็โดนฝ่ามือทั้งสองเข้าเต็มๆ เลือด “เอือก!” พุ่งออกมาจากปากของเขา
“นายท่าน!”
“เซียวเฉวียน!”
โย่วควนและเซียวเฉวียนอุทานออกมาพร้อมกัน
มู่จิ่นก็ได้แต่มองดูเซียวเฉวียนถูกทำร้าย ในใจของมู่จิ่นยิ่งรู้สึกละอายใจมาก:“เซียวเฉวียน ขอโทษ......”
เป็นเพราะความมีเมตตาของมู่จิ่นที่ไม่จัดการคนร้ายทั้งสองคน ทำให้พวกเขาต้องโดนทำร้ายอย่างนี้
“ข้าไม่เป็นไร......” เซียวเฉวียนที่เจ็บปวดพยายามยิ้มออกมา เจ็บ เจ็มมาก
สองคำที่พูดออกมา คงเป็นเพราะว่าสองคนนั้นออกแรงอย่างต็มทีทั้งหมด
เซียวเฉวียนที่ไม่ทันตั้งตัวรู้สึกไม่พอใจ ประมาทเกินไปจริงๆ
ดูแล้วเหมือนเขามีแรงแต่ไม่มีพละกำลัง นี่ยิ่งทำให้มู่จิ่นรู้สึกละอายใจมากยิ่งขึ้น เป็นเพราะความเมตตาใจอ่อนตัวเขาทำให้เกิดเรื่องขึ้น
มู่จิ่นรู้ว่าในตอนนี้ แม้ว่าเขาจะรู้สึกผิดมากแค่ไหน ในสถานการณ์อย่างนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว สีหน้าของเขามีความซับซ้อนมองเซียวเฉวียน
เซียวเฉวียนปล่อยมือจากโย่วควนและมู่จิ่น ต้องการจะยืนขึ้นด้วยตนเอง
และโย่วควนกับมู่จิ่นก็เข้าใจความหมายของเซียวเฉวียน รู้สึกได้และค่อยคลายมือออกไป
แต่มือของพวเขาที่เพิ่งจะคลายออกเพียงเล็กน้อย ร่างกายของเซียวเฉวียนก็โอนเอนไปมาเล็กน้อย โย่วควนและมู่จิ่นรู้สึกกังวลเข้าไปพยุงเซียวเฉวียนไว้
แม้แต่เซียวเฉวียนก็ยังรู้สึกประหลาดใจ ก่อนหน้านี้ที่เขาทำลายผนึกจูเสิน แม้จะบาดเจ็บรุนแรงแค่ไหน ก็ไม่เป็นอย่างเช่นตอนนี้ที่ยืนไม่ได้โอนเอนไปมาอย่างนี้
ยิ่งไปกว่านั้นเซียวเฉวียนโดนโจมตีไปแค่เพียงสองหมัด แต่ก่อนวรยุทธ์ของเซียวเฉวียนแข็งแกร่งมาก ไม่น่าจะบาดเจ็บหนักได้ถึงขนาดนี้
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ในตอนนี้ คนๆหนึ่งของสำนักหมิงเซียงหัวเราะเยาะ “เซียวเฉวียน ครั้งนี้เจ้าอย่าได้คิดที่จะมีชีวิตรอดไปได้ เจ้าหลบหลู่เจ้าสำนักของข้า ทำให้คนของสำนักหมิงเซียงบาดเจ็บไปมากมาย ถึงแม้ว่าข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ยอมปล่อยเจ้าไปแน่นอน!”
“และข้าก็ไม่สามารถปล่อยเจ้าไปได้” คนนั้นหยุดไปครู่หนึ่ง และพูดต่อว่า “ครั้งนี้ แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของพวกข้าสองคนก็จะต้องฆ่าเจ้าให้ได้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...