ต้องการฆ่าเซียวเฉวียนแบบไม่เสียดายชีวิตเลยหรือ?
มู่จิ่นอดจะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ คำพูดนี้จะฟังอย่างไรก็ประหลาด?
มู่จิ่นทราบความสามารถที่แท้จริงของศิษย์น้อง และเขาก็เคยเห็นความสามารถที่แท้จริงของเซียวเฉวียนด้วยเช่นกัน มู่จิ่นรู้สึกว่าอาศัยความสามารถที่แท้จริงของสองศิษย์น้องเขาแล้ว ต่อให้มีศิษย์น้องอีกสิบรายก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซียวเฉวียน
ตอนนี้กลับมีคนผู้หนึ่งใช้ฝ่ามือหนึ่งทำร้ายเซียวเฉวียนจนบาดเจ็บปานนี้
สังหรณ์บอกกับมู่จิ่นว่า เรื่องนี้ต้องมีอะไรประหลาดบ้างแน่นอน!
“เซียวเฉวียน ระวังตัวหน่อย ข้าสงสัยว่าพวกเขากลืนยาประเภทหนึ่งที่สามารถปลดปล่อยพลังทั้งหมดของพวกเขาออกมาได้” มู่จิ่นเอ่ยเสียงเบาข้างหูของเซียวเฉวียน
มู่จิ่นพลันคิดขึ้นมาได้ว่า ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นบันทึกแพทย์ที่จดตัวยาที่ไว้ในสำนักหมิงเซียน
บนหนังสือลเมนั้น หลังจากที่คนกลืนยาประเภทนี้ลงไปแล้ว บาดแผลบนร่างกายของเขาก็พลันหายดี วรยุทธ์และกำลังภายในเองก็ทะยานขึ้นพรวดพราด ส่วนเวลาเคลื่อนไหวนั้นก็เหมือนผีก็ไม่ปาน ไร้เสียงไร้ร่องรอย
ทว่ายาประเภทนี้เองก็มีจุดอ่อนถึงตายอยู่เช่นกัน ก็คือครั้นตัวยาออกผลเมื่อไหร่ ผู้ที่กลืนมันเข้าไปนั้นก็จะได้รับผลกระทบชนิดไม่อาจรักษาชีวิตไว้ได้ ต่อให้เป็นเทพเซียนมาเองก็ช่วยไม่ได้ประมาณนั้น
เมื่อได้ยินมู่จิ่นเอ่ยแบบนี้ เซียวเฉวียนก็เข้าใจแล้ว มิน่าละ คนทั้งสองจึงแอบอยู่ข้างทางรอเซียวเฉวียน ส่วนตัวเซียวเฉวียนเองไม่ได้สังเกตเห็นสักนิด
เมื่อพูดเช่นนี้ขึ้นมาแล้ว เพื่อจะสังหารเซียวเฉวียน คนของสำนักหมิงเซียนใช้ทุกวิธีไม่เลือกด้วยซ้ำ
นี่ไม่ได้หมายถึงพร้อมจะตายไปร่วมกันกับเซียวเฉวียนหรือไร?
จิ๊ๆ!
เซียวเฉวียนกับพวกเขานั้นไม่ได้มีความแค้นล้ำลึกอะไรต่อกัน เพื่อนักปราชญ์ที่เกือบจะลงโรงและไม่สมควรถูกนับถือรายนั้น พวกเขากลับยอมทิ้งชีวิตวัยเยาว์ของตน การกระทำเช่นนี้คุ้มค่าแล้วหรือ?
ประเทศจีนมีประโยคหนึ่งพูดไว้เสียดี คนเราล้วนต้องตายกันทั้งนั้น จะหนักเท่าเขาไท่ซานหรือเบาดุจปีกนก
พวกเขาจะตายก็ควรจะตายอย่างมีความหมายสักหน่อย
ตามที่เซียวเฉวียนเห็นนั้น คนทั้งสองหากว่าตายไปเช่นนี้ก็เบากว่าปีกนกเสียจริง!
“หากว่าพวกเขาตาย ส่วนข้ากลับยังไม่ตาย เจ้าว่าพวกเขาจะศพกระตุกหรือไม่?” เซียวเฉวียนขบคิดอย่างจริงจัง
มู่จิ่นหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ขณะที่กลอกตามองเซียวเฉวียน จนเวลานี้แล้ว เซียวเฉวียนยังไม่ลืมเอ่ยหยอกเย้าสักสองประโยค
ประจวบเหมาะกับที่ทั้งสองคนได้ฟังคำพูดนี้เข้าพอดี ทั้งสองรายรู้สึกเหมือนถูกหมิ่นหยามอย่างรุนแรง พวกเขามองตากัน พลางกำหมัดแน่นพุ่งตัวไปหมายจะต่อยเข้าเซียวเฉวียนจากด้านหลังไปอีกสักสองหมัด
“อึก!” เซียวเฉวียนกระอักพลางอดทนต่อความเจ็บปวด
ท่านยายแกสิ พละกำลังของสองคนนี้มากล้นเหลือเกิน สองคนนี้ทุบจนอวัยวะภายในของเซียวเฉวียนแทบแหลกแล้ว เขาเจ็บจนกัดฟัน
และในเวลาเดียวกันนี้เอง เซียวเฉวียนก็รู้สึกถึงขุมความร้อนที่แผดเผาขึ้นมาภายในร่าง นั่นคือผนึกจูเสินที่ไม่ยอมหยุดราวี มันกำลังเป็นห่วงเซียวเฉวียน
“ไม่เป็นปัญหา” เซียวเฉวียนใช้กระแสจิตปลอบประโลมผนึกจูเสิน ตอนนี้คนมากเกินไป มันจะออกมาไม่ได้
ผลก็คือ ขุมพลังแผดเผาภายในร่างของเซียวเฉวียนนั้นหายไปโดยไร้ร่องรอย ผนึกจูเสินเองก็สงบนิ่งลงมา
“เซียวเฉวียน หลังจากสองหมัดนี้ผ่านไป เจ้ายังรู้สึกว่าพวกเราไม่มีพลังพอจะสังหารเจ้าอยู่อีกหรือไม่?” หนึ่งคนในบรรดานั้นมองเซียวเฉวียนด้วยท่าทางหาเรื่อง พูดไปแล้วเขาก็หันไปต่อยมู่จิ่นและโย่วควนอีกคนละหนึ่งหมัด ต่อยเสียจนคนทั้งสองส่งเสียงอึกด้วยความเจ็บปวดพร้อมกัน
หลังเสียการสนับสนุนจากโย่วควนและมู่จิ่นไปแล้ว เซียวเฉวียนก็ยืนไม่ติดที่อีก เขาล้มลงดังพรวดลงพื้น
ในเวลาเดียวกันที่ดวงอาทิตย์กำลังแขวนตัวกลางฟ้า ลำแสงอันรุนแรงส่องผ่านใบหน้าของเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนยื่นมือเข้าไปขวางแสงอาทิตย์ที่แยงสายตา
เซียวเฉวียนรู้สึกว่าหัวหมุนตาลาย
หลังจากรับฝ่ามือไปแล้วสองฝ่ามือ ว่ากันตามตรง เซียวเฉวียนเจ็บเสียจนขยับตัวไม่ได้แม้สักนิด
ทั้งสองคนมองเซียวเฉวียนจากด้านบน จากนั้นก็ใช้ขาข้างหนึ่งเหยียบลงบนหน้าเซียวเฉวียน พลางเอ่ยอย่างโอหังยิ่ง “ลุกขึ้นมา! หากมีปัญหาก็มาต่อยพวกเรานี่!”
พูดจบ เท้าข้างนั้นยังคงลูบไปบนใบหน้าของเซียวเฉวียนสองครั้ง เซียวเฉวียนเพียงแค่อยากเบนหัวหลบตามสัญชาติญาณ แต่พบว่าเขาไม่มีแรงเลย
“นายท่าน!” โย่วควนมองเซียวเฉวียนอย่างปวดใจยิ่ง เขาร้อนใจจนน้ำตาจะไหลออกมา
“ร้อนใจอะไร วางใจเถอะ เจ้ากับนายท่านของเจ้าสนิทกันมากใช่ไหม พวกเราจะทำให้เจ้าสมปรารถนาเอง สิ่งที่นายท่านของเจ้าเคยได้ลองมาก่อน ข้าจะให้เจ้าได้ลองเช่นกัน” หนึ่งในคนบวกนั้นหันมาบ้วนน้ำลายใส่โย่วควนหนึ่งครั้ง “ฮ่าๆๆ!”
มันช่างชั่วร้ายเกินไปแล้วจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...