แม่ทัพยังพูดเช่นนั้น ทหารคนนั้นก็ได้แต่เดินติดตามแม่ทัพไปด้วยความสงสัย
เมื่อเห็นกองทัพใหญ่เคลื่อนออกไปไกล เซียวเฉวียนและพวกก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกในที่สุด ขอให้แม่ทัพจากไป ที่นี่ก็เหลือศิษย์สำนักหมิงเซียนสองคนที่เป็นคนนอกแล้ว เซียวเฉวียนจะได้สะดวกดำเนินการ
พวกของแม่ทัพจากไป ศิษย์สำนักหมิงเซียนสองคนนั้นก็โล่งอกเช่นกัน
ประการแรก พวกเขากลัวว่าแม่ทัพจะเปลี่ยนใจและช่วยเหลือเซียวเฉวียน
แม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นราชวงศ์ของภูมิภาคตะวันตกอยู่ในสายตา แต่นั่นเป็นความรู้สึกส่วนตัว ต่อภายนอก พวกเขาไม่เคยกล้าที่จะแสดงออก เพราะสำนักหมิงเซียนต้องการสร้างความประทับใจที่ดีในหมู่ประชาชน พวกเขาต้องการจิตใจของประชาชน
ฉะนั้น หากแม่ทัพยืนกรานที่จะช่วยเซียวเฉวียน ศิษย์สำนักหมิงเซียนทั้งสองนี้ก็ไม่กล้าไปห้าม
ประการที่สอง ศิษย์สำนักหมิงเซียนทั้งสองก็กลัวว่าแม่ทัพจะสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติของพวกเขา ถึงแม้พวกเขาจะขยับเสื้อผ้ามาปกปิดแผลลูกกระสุนแล้ว แต่ก็มีหูตามากมายในกลุ่มของแม่ทัพ ไม่รับประกันว่าอาจมีคนเห็น
เมื่อเห็นแม่ทัพไปไกลแล้ว พวกเขาใจแทบจะโดดออกมาข้างนอก กลัวว่าแม่ทัพจะย้อนกลับมาตรวจดูร่างกายพวกเขาและตรวจสอบดูบาดแผลของพวกเขา
สองคนนี้เก็บซ่อนความลับที่ไม่มีคนรู้ของสำนักหมิงเซียน พวกเขาถูกปืนยิงหลายครั้งแต่ไม่ตายเป็นเพราะพวกเขาได้กินยาซึ่งไม่เพียงแต่จะกระตุ้นศักยภาพของร่างกายพวกเขาเท่านั้น แต่ยังกระตุ้นการกลายพันธุ์ของร่างกายอีกด้วย
นักปราชญ์บอกพวกเขาว่าหลังจากที่พวกเขากินยา ถ้าร่างกายของพวกเขาไม่ได้รับอันตรายจากพลังภายนอก เมื่อยาหมดฤทธิ์ พวกเขาจะตายไปอย่างมีความสุข
แต่เมื่อร่างกายของพวกเขาได้รับบาดเจ็บ ร่างกายของพวกเขาจะสร้างระบบป้องกันโดยอัตโนมัติ ทำให้พวกเขากลายเป็นอมตะและจะอยู่ยงคงกระพัน
อย่างไรก็ตาม ความอยู่ยงคงกระพันต้องแลกมาด้วยค่าตอบแทน นั่นก็คือเมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายของพวกเขาจะสูงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หน้าตาของพวกเขาจะกลายเป็นลักษณะคนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิง ดำไปทั้งตัว
ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขาไม่จำเป็นต้องกินและหลับนอนอีกต่อไป พูดตรงๆ คือไม่กินอาหารเยี่ยงมนุษย์ชาวโลก พวกเขาจะกินพวกต้นไม้ดินโคลนแทน
ที่แย่ไปกว่านั้นคือเมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาจะสูญเสียความสามารถในการคิด โดยเฉพาะในเวลากลางคืน พวกเขาได้แต่ยืนนิ่งๆ เหมือนก้อนหินก้อนหนึ่ง
พอถึงกลางวัน พวกเขาสามารถพึ่งพาแสงอาทิตย์มากระตุ้นพลังงานของร่างกาย แต่นั่นเป็นเพียงช่วยให้พวกเขาเคลื่อนที่ได้ไวดั่งกระแสลม บุกโจมตีศัตรูที่รบกวนพวกเขาเท่านั้น
คิดอยากได้มากกว่านี้ ไม่มีทางเป็นไปได้
ตอนนั้นพอสองคนได้ยิน ก็ตกใจจนเหงื่อแตก ให้ตายเถอะ มันน่ากลัวซะเหลือเกิน !
ดังนั้น ก่อนที่จะกินยานี้ เดิมทีพวกเขาคิดที่จะตายพร้อมกับเซียวเฉวียน พวกเขาไม่อยากอยู่ในลักษณะคนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิง
พวกเขาไม่ได้คิดเลยว่าเพราะความประมาทของพวกเขา ถูกมู่จิ่นนำพาไปบนเส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ......
ตอนพวกเขาถูกปืนยิง ทั้งสองคนก็กลัวมาก พวกเขากลัวเรื่องในอนาคต ในที่สุดพวกเขาก็หนีไม่พ้นต้องมีชีวิตอยู่อย่างครึ่งคนครึ่งผี
ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็เกลียดชังมู่จิ่นเป็นอย่างยิ่ง มู่จิ่นเป็นคนที่ผลักดันพวกเขากับมือให้เข้าสู่เส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ !
“เฮ้ย !” ทั้งสองออกเสียงคำรามด้วยความโกรธแค้นอย่างถึงที่สุดพร้อมกัน
เสียงฟังดูแปลกประหลาดน่าสยดสยอง
มู่จิ่นและโย่วควนตื่นเต้นมาก ต่างนั่งยองๆ และช่วยพยุงเซียวเฉวียนลุกขึ้น แต่ทั้งสองคนนี้ก็ไม่มีวิชาวิทยายุทธ์ติดตัว ทั้งได้รับบาดเจ็บ คิดจะช่วยพยุงเซียวเฉวียนลุกขึ้นก็เหนื่อยแรงพอสมควร
รวมกำลังของทั้งสอง รวมทั้งแรงที่สะสมได้จากการดูดนมวัยเด็ก ก็พยุงเซียวเฉวียนลุกขึ้นมานั่งได้อย่างทุลักทุเล
เห็นศิษย์สำนักหมิงเซียนสองคนเดินมาทางนี้ด้วยใบหน้าแยกเขี้ยว ยิ่งมายิ่งใกล้ โย่วควนและมู่จิ่นก็ร้อนใจจนมือสั่นสะท้านอย่างไม่อาจบังคับได้
“แรงอีกนิด !” มู่จิ่นส่งกำลังใจให้โย่วควน
ตะโกนส่งกำลังใจ ใครทำไม่เป็น ?
โย่วควนก็ไม่ยอมแพ้ "เจ้าก็แรงอีกนิดสิ"
พวกเขาทั้งสองทั้งทำงานหนักและร้อนใจ แค่แป๊บเดียวก็หายใจหืดหอบ มู่จิ่นถึงกับพึมพำ "แย่แล้ว เซียวเฉวียน เกรงว่าเราต้องจบกันที่ตรงนี้แล้ว"
ในตอนนี้เอง มู่จิ่นรู้สึกว่าร่างกายของเซียวเฉวียนร้อนขึ้นทั้งตัว เขาเห็นแสงสีแดงเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วไปรอบๆ ตัวเซียวเฉวียน นั่นเป็นตราจูเสิน
มู่จิ่นเคยเห็นตราจูเสินมาก่อน เขาจำมันได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...