บทที่ 1094 หน้าเนื้อใจเสือ – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1094 หน้าเนื้อใจเสือ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เฉากุยไม่ได้อยู่ที่โรงเตี๊ยมพอดี เหล่าลูกจ้างก็ไม่อาจรั้งแขกที่เข้าพักเหล่านั้นไว้ได้ ดังนั้นแขกที่เข้าพักจึงเปิดแนบไป โดยที่ยังไม่ได้ชำระเงินให้แก่โรงเตี๊ยม
นับเป็นความเสียหายอันใหญ่หลวงสำหรับโรงเตี๊ยม
ดังนั้น เมื่อเฉากุยกลับมาถึงโรงเตี๊ยมหลังจากไปเที่ยวเล่นด้านนอก และพบว่าโรงเตี๊ยมเหลือเพียงอาคารที่ว่างเปล่า เฉากุยอดไม่ได้ที่จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ พร้อมพูดออกมาสองคำว่า “เซียวเฉวียน!”
เซียวเฉวียนก็คือตัวเฮงซวย!
หากไม่ใช่เพราะเซียวเฉวียน ลูกค้าเหล่านั้นจะหนีไปได้อย่างไร?
แง แง แง
เฉากุยพยายามต้อนรับบ่อเงินบ่อทองเหล่านี้อย่างดีที่สุด เพื่อให้พวกเขากินนอนเที่ยวอย่างสนุกสนาน เดิมทีที่คิดจะช้อนเงินก้อนโต จบเห่ละครานี้ ผู้คนหนีไปหมดแล้ว!
ความพยายามของเฉากุยล้วนเปล่าประโยชน์!
การทำธุรกิจครั้งนี้ เฉากุยขาดทุนยับเยิน!
เซียวเฉวียนที่ยังกลับไม่ถึงโรงเตี๊ยมจามขึ้นเสียงดัง เซียวเฉวียนบ่นพึมพำอยู่ในใจ “ใครกำลังบ่นคิดถึงข้ากันนะ? ต้องเป็นองค์หญิงที่คิดถึงข้าแน่นอนเลยสินะ?”
เมื่อคิดถึงองค์หญิงต้าถง ใจของเซียวเฉวียนก็อบอุ่นขึ้นมา
ตามการรายงานของไป๋ฉี่ องค์หญิงถูกย้ายยังที่ที่ปลอดภัยแล้ว คนรับใช้ของจางเคอก็ถูกฉินซูโหรวฆ่าปาดคอแล้ว แต่จางเคอกลับหนีไปได้
จางเคอเป็นผู้มีวิชาการต่อสู้ ทว่าจางเคอสามารถหนีไปได้ ไม่ใช่เพราะไป๋ฉี่พ่ายแพ้แก่จางเคอ แต่เป็นเพราะว่าเสวียนอวี๋ช่วยจางเคอไว้ได้
เพราะว่าไม่อาจสังหารจางเคอได้ ไป๋ฉี่ยังคงรู้สึกผิดมาก
“ขอเพียงองค์หญิงปลอดภัยก็พอ เรื่องอื่นรอข้ากลับไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เซียวเฉวียนปลอบใจไป๋ฉี่
เซียวเฉวียนไม่แปลกใจกับเรื่องนี้มากนัก อย่างไรก็ตามนักปราชญ์ไม่มีทางยอมแพ้จนกว่าจะฆ่าเซียวเฉวียนได้ เขาจะใช้ประโยชน์จากทุกคนที่เกลียดชังเซียวเฉวียน และยืมมือของพวกเขาในการกำจัดเซียวเฉวียน
ดังนั้นนักปราชญ์จึงส่งเสวียนอวี๋ไปติดตามทุกความเคลื่อนไหวของเว่ยเชียนชิวอย่างใกล้ชิด
ตามความเข้าใจที่เซียวเฉวียนมีต่อนักปราชญ์ นักปราชญ์จะต้องพบตัวจางเคอในระหว่างการเฝ้าติดตามเว่ยเชียนชิว และคิดว่าจางเคอเป็นคนที่มีประโยชน์ จึงให้เสวียนอวี๋ช่วยชีวิตจางเคอไว้
ท้ายที่สุด หากศัตรูของเซียวเฉวียนอีกหนึ่งคนร่วมมือกับนักปราชญ์ นักปราชญ์ก็จะมีโอกาสมากขึ้นที่จะเอาชนะเซียวเฉวียนได้
นักปราชญ์!
ความแค้นที่เซียวเฉวียนมีต่อนักปราชญ์นั้นรุนแรงอย่างมาก
เพราะความเกลียดชังเช่นนี้ ทำให้อาการเจ็บปวดของเซียวเฉวียนคลายลงไม่น้อย ฝีเท้าในการเดินก็เบาขึ้นมาอีกด้วย
เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงโรงเตี๊ยมแล้ว เซียวเฉวียนพูดขึ้นเบา ๆ “มู่จิ่น พวกเจ้าปล่อยให้ข้าเดินเองเถอะ”
ด้านหน้าก็เป็นโรงเตี๊ยมแล้ว จึงไม่ควรให้ผู้ใดเห็นว่าเซียวเฉวียนเจ็บหนักเช่นนี้
มู่จิ่นและโย่วควนได้ยินเช่นนั้น แม้จะเป็นห่วงอยู่บ้าง แต่ก็ปล่อยมือตามที่เซียวเฉวียนบอก
แต่พวกเขาทั้งสองยังมองเซียวเฉวียนอย่างเป็นกังวล เผื่อว่าเซียวเฉวียนล้มลงไปในตอนที่พวกเขาไม่ทันระวังตัว
เซียวเฉวียนอดยิ้มออกมาไม่ได้ “ไม่ต้องกังวลขนาดนั้น ข้าไม่เป็นไร”
พูดจบ เซียวเฉวียนโย่วควนจึงส่งสัญญาณผ่านสายตาให้มู่จิ่น เพื่อให้ทั้งสองคนมองไปด้านหน้า
ด้านหน้า ประตูใหญ่ของโรงเตี๊ยม เฉากุยกำลังนั่งอยู่บนม้านั่งตัวเล็กด้วยสีหน้าที่อึมครึม
นางกำลังเคืองเซียวเฉวียน เพราะเซียวเฉวียนทำให้นางสูญเสียเงินทองมหาศาล!
เซียวเฉวียน ไอ้ผีอายุสั้น!
โชคดีที่เซียวเฉวียนตายไว มิเช่นนั้นเฉากุยจักต้องให้เซียวเฉวียนชดเชยค่าเสียหายร้อยเท่าให้แก่ความสูญเสียของโรงเตี๊ยมฉางหมิง!
ทางฝั่งทะเลทรายไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวใดลอยมา คิดว่าเซียวเฉวียนคงตายสนิทแล้วกระมัง?
เฉากุยจึงก้มหน้าและครุ่นคิดอยู่ในใจ และเหม่อลอยไปชั่วขณะ ไม่ทันเห็นว่าพวกเซียวเฉวียนยืนห่างจากนางเพียงห้าก้าว กำลังจ้องมองนางอย่างตั้งใจ
เฮ้อ นานขนาดนี้แล้วทำไมคนของสำนักหมิงเซียนยังไม่มาอีกนะ?
ตอนนี้เฉากุยนึกถึงคำพูดที่เสี่ยวชิงเคยว่าไว้ และในตอนนี้เอง เฉากุยจึงเชื่อว่าสิ่งที่เสี่ยวชิงพูดล้วนเป็นเรื่องจริงทั้งหมด
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ชะ เช่นนั้นชาวสำนักหมิงเซียนสามสิบคนก็... หรือว่าท่าไม่ดีเสียแล้ว?
“ถูกต้อง ตายหมดแล้ว” เซียวเฉวียนพูดขึ้นเบา ๆ “ข้าขอถามเจ้าหน่อย เจ้ายังคิดเป็นศัตรูกับข้าต่อไปหรือไม่?”
เมื่อเซียวเฉวียนพูดเช่นนี้ จู่ ๆ ก็มีรังสีแห่งความเกรี้ยวกราดแผ่ออกมา น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นถึงขีดสุด เพียงแค่ท่าทางของเขาก็ทำให้คนหวาดกลัวจนตัวสั่นเทิ้มได้
ฟังน้ำเสียงของเซียวเฉวียน เหมือนว่าเขากำลังเลี่ยงคำพูดของเฉากุย
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ใครไม่อยากมีชีวิตยืนยาว เอาตัวไปชนปากกระบอกปืนสิ
เฉากุยกลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นเต้น พลางพูดขึ้นเสียงสั่น “มะ ไม่ ข้าไม่กล้าอีกแล้ว”
“ดี” เซียวเฉวียนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ต่อไปหากมีคนมาถามเรื่องนี้ เจ้าก็บอกว่าข้าแอบหนีไปแล้ว ส่วนทางด้านของสำนักหมิงเซียน เจ้าก็แค่บอกว่าชาวสำนักหมิงเซียนไม่ได้มาที่โรงเตี๊ยม”
หากทำตามที่ว่าไว้ เฉากุยจึงจะเป็นผู้บริสุทธิ์และรักษาชีวิตของตัวเองไว้ได้
ส่วนชาวสำนักหมิงเซียนสามสิบคนก็ตายไปแล้ว ตรงกับที่พวกเขากล่าวไว้ คนตายไม่สามารถพูดได้
ตราบใดที่เฉากุยบอกว่าไม่เคยพบเจอพวกเขา ทางด้านของนักปราชญ์ก็จะถูกหลอกให้ผ่านด่านมาได้
เพื่อรับประกันว่าไม่ให้เกิดความผิดพลาด เซียวเฉวียนยังให้มู่จิ่นสอนวิชาปิดกั้นการอ่านใจอย่างง่ายให้แก่เฉากุย เพื่อจะสามารถปิดกั้นความคิดที่ไม่ต้องการให้ผู้อื่นรับรู้
อีกทั้งเซียวเฉวียนยังเล่าเรื่องทั้งหมดที่นักปราชญ์กระทำต่อเขาให้เฉากุยได้ฟัง เพื่อให้เฉากุยรู้ว่านักปราชญ์เป็นคนหน้าเนื้อใจเสือ และอย่าได้เป็นเหมือนที่ชาวสำนักหมิงเซียนทั้งสิบสามคนที่ขายชีวิตของตนเองให้แก่นักปราชญ์อย่างโง่เขลา
เฉากุยตั้งใจฟังเซียวเฉวียนอย่างนิ่งสงบเป็นครั้งแรก เมื่อฟังคำพูดของเซียวเฉวียนและ จึงมองไปยังศิษย์น้องที่ฐานะสูงส่งอย่างมู่จิ่น ก็เลือกที่จะเดินออกมาจากสำนักหมิงเซียน เฉากุยพยักหน้าอย่างครุ่นคิด “ท่านวางใจได้ ข้าไม่มีทางเปิดเผยที่อยู่ของท่านให้ใครเห็น”
นี่เป็นการร่วมมือกันครั้งแรกของเฉากุยและเซียวเฉวียน และเซียวเฉวียนก็ได้ฟังความคิดของเฉากุยที่ต้องการช่วยเหลือเซียวเฉวียนอย่างจริงใจ เซียวเฉวียนเองก็สบายใจ
เพื่อไม่เป็นการสร้างปัญหาให้เฉากุยเพิ่มเติม เซียวเฉวียนยังนำเงินที่ติดตัวมาทั้งหมดมอบให้กับเฉากุย เพื่อใช้ชดเชยค่าเสียหายในโรงเตี๊ยม
เซียวเฉวียนทำเช่นนี้ โย่วควนและมู่จิ่นไม่พอใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะโย่วควน เขาจึงพูดขึ้นคัดค้านตรง ๆ “นายท่านเอาเงินทั้งหมดให้นาง แล้วพวกเราใช้อะไรขอรับ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...