ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1101

ในความเป็นจริง กลิ่นนั้นหอมฟุ้งมากจนเซียวเฉวียนน้ำลายไหล เขาชำเลืองมองเนื้อนั้นอยู่ตลอดว่าสุกได้ที่แล้วหรือยัง

ในที่สุด โย่วควนก็ตะโกนออกมาซะที ดวงตาของเซียวเฉวียนเบิกกว้าง เขามองเนื้อย่างนั้นตาเป็นมัน

“เซียวเฉวียน เอาไป ชิ้นนี้ไม่มีพริก” มู่จิ่นพูดพลางยื่นปลาและนกมาให้เขา “ท่านได้รับบาดเจ็บมา ยังกินเผ็ดไม่ได้”

มู่จิ่นไม่ได้เป็นกังวลเรื่องใด แต่กังวลแค่เพียงกลิ่นฉุนของพริกจะทำให้เซียวเฉวียนแสบจมูกและจามออกมา นั่นเท่ากับว่าเป็นเรื่องใหญ่แล้ว

เซียวเฉวียนรอมานานพักหนึ่งแล้ว เขาหิวมาก ผนึกจูเสินก็หิวแล้วเหมือนกัน นับตั้งแต่ที่ผนึกจูเสินได้ติดตามเซียวเฉวียนมา ปริมาณอาหารที่เขากินนั้นก็เพิ่มขึ้นอย่างมากแล้วยังชอบกินเนื้อมากเป็นพิเศษด้วย

นี่ทำให้เซียวเฉวียนยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นไปอีก ผนึกจูเสินตอนที่อยู่เกาะจูเสินก็เป็นแบบนี้เหมือนกันงั้นหรือ?

ชอบกินเนื้อมากขนาดนั้นเลยเหรอ?

แล้วก็ได้มีคำถามผุดขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ผนึกจูเสินได้อยู่เฝ้าที่เกาะจูเสินตลอดเวลาทุกวินาที จะไปเอาเนื้อจากไหนมาหล่ะ?

เมื่อได้ยินว่าเซียวเฉวียนสงสัยแบบนี้ ผนึกจูเสินก็ได้กล่าวขึ้นว่า “ ในอดีต ข้าเป็นผนึกที่สูงศักดิ์และมีเกียรติมาก จะไม่กินสิ่งที่โลกสร้างขึ้น”

ตั้งแต่ที่ผนึกจูเสินได้มารู้จักกับเซียวเฉวียน ผนึกนับพันปีนั้นก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา เช่นเดียวกับคนธรรมดาที่ชอบกินเนื้อและชอบรสเผ็ด

“ข้าได้กลิ่นพริกแล้ว แต่ทำไมเจ้ากินเข้ามาแล้วถึงไม่มีรสเผ็ดเลยหล่ะ?” ผนึกจูเสินพูดด้วยความไม่พอใจ

เนื้อที่ไม่มีพริกมันช่างไร้ซึ่งจิตวิญญาณ!

ผนึกจูเสินจะกินเนื้อที่มีพริก!

เซียวเฉวียนพูดว่า “มู่จิ่นบอกว่าร่างกายของข้าได้รับบาดเจ็บ ไม่ให้ข้ากินรสเผ็ด เพื่อความยุติธรรม เนื้อทั้งหมดนี้จึงไม่ได้ใส่ผริก”

เซียวเฉวียนยังได้อธิบายเพิ่มอีกด้วยว่า “กลิ่นพริกที่เจ้าได้กลิ่นนั้นคือที่มู่จิ่นใช้รมควันนักฆ่าต่างหากหล่ะ”

ได้ยินเซียวเฉวียนอธิบายแบบนี้แล้ว ผนึกจูเสินจึงได้เงียบลง

มู่จิ่นย่างเนื้อได้อร่อยมากจริงๆ แล้วทั้งสามคนก็หิวมากเช่นกัน อิ่มเอมกับเนื้อทั้งหมดเรียบภายในพริบตา แม้กระทั่งกระดูกนั้นก็ดูดน้ำจนหมดก่อนที่จะโยนไปทางนักฆ่า

" อุ๊ย ! "

นักฆ่าได้กลับไปที่ตำแหน่งเดิม โดยไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะถูกทั้งสามโยนกระดูกใส่

แม้ว่าพวกเขาเซียวเฉวียนจะไม่ได้ออกแรงมากนัก แต่ปลายกระดูกนั้นมันแหลมคม

และโดยเฉพาะก้างปลาที่ทิ่มแทงผิวของนักฆ่า ยังหล่นลงมาด้วย

นักฆ่าแอบสบถอยู่ในใจ “เซียวเฉวียน แกมันก็แค่ขยะ!"

อยู่ใกล้เซียวเฉวียนไม่มีอะไรดีเลย

พวกนักฆ่าก็ถูกยิงด้วยเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่เพราะเซียวเฉวียนบังคับควบคุมจะเป็นอะไรได้อีกหล่ะ!

เหล่านักฆ่าต่างก็ได้แต่กัดฟันไว้ พวกเขาจะอดทนรอถึงเที่ยงคืน รอจนกว่าพวกเซียวเฉวียนจะหลับแล้วค่อยลงมือฆ่าพวกเขา!

กลิ่นของเนื้อย่างนั้นยังลอยคลุ้งอยู่ในอากาศและกระดูกนั่น แค่มีลมพัดมา เหล่านักฆ่าอดไม่ได้ที่จะสูดดม มันหอมมากจริงๆ!

พวกเขาหันหัวไปตามที่มาของกลิ่นหอมที่พวกเขาไม่อาจต้านทานมันได้ พวกเขาหยิบกระดูกขึ้นมาสูดดม มันหอมมาก!

พวกเขาก็อยากจะกินอาหารที่มีกลิ่นหอมแบบนี้เหมือนกัน

แต่คนที่ชื่อมู่จิ่น พวกเขาต้องเก็บไว้เพื่อให้มู่จิ่นทำอาหารให้พวกเขา

ตกลงตามนี้แล้วกัน!

ยังไม่ทันไร ท้องฟ้าก็มืดซะแล้ว รอบๆเงียบสงัดมีเพียงเสียงลมพัดเท่านั้น

ทั้งสามที่กินกันจนอิ่มแล้วก็ได้เอนกายลง เดิมทีมู่จิ่นและโย่วควนได้บอกกับตัวเองว่า ห้ามหลับเด็ดขาด ต้องเฝ้าพวกนักฆ่านั่นให้ดี

แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่สามารถต้านความง่วงได้ นั่งอยู่ดีๆก็หลับไปซะดื้อๆ

ก่อนที่จะเข้านอนนั้น เซียวเฉวียนได้แอบเอาผ้ามาทำเป็นฉากกั้น

อย่างแรกเลย ตอนกลางคืนมีน้ำค้างมาก อุณหภูมิก็ยังต่ำมากอีกด้วย ฉากกั้นนั้นจะสามารถต้านน้ำค้างไว้ได้และในขณะเดียวกันก็ยังสามารถให้ความอบอุ่นแก่มู่จิ่นและโย่วควน

อย่างที่สองก็เพื่อความปลอดภัยของทั้งสามคน

สภาพอากาศในซินเจียงแห้งมาก แต่ในเวลากลางคืนท้องฟ้าก็ปลอดโปร่งมากเช่นกัน

เมื่อดวงจันทร์ขึ้น เวลาที่ทุกคนต่างก็กำลังหลับใหล นั่นเป็นโอกาสในการลงมือที่ดีที่สุดสำหรับนักฆ่า.....

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่พวกนักฆ่าจะอดทนรอจนถึงดึกดื่นแบบนี้ ได้เห็นพวกเซียวเฉวียนทั้งสามคนนอนหลับ คิดว่าพวกเขาหลับสนิทและถึงเวลาลงมือแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย