ได้ยินคำพูดของหูเฟยแล้ว เซียวเฉวียนก็ยิ้มเบา ๆ "ใต้เท้าหู นี่พูดความจริงหรือเปล่า ?"
รอยยิ้มของเซียวเฉวียน ดูจนหูเฟยขนลุกสู้ ไม่รู้เพราะอะไร พอเซียวเฉวียนพูดเช่นนี้ หูเฟยรู้สึกเกรงกลัวเซียวเฉวียนขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ดูเหมือนว่าต่อหน้าเซียวเฉวียน หูเฟยกลายเป็นมนุษย์โปร่งใส เซียวเฉวียนสามารถมองทะลุหูเฟยได้
แต่ถึงยังไงนี่มันบ้านตระกูลหู และอาณาเขตของหูเฟย
เขาว่ามังกรถึงจะเก่งกาจแค่ไหนก็สู่งูประจำถิ่นไม่ได้
แป๊บเดียว หูเฟยก็รวบรวมความกล้าแล้วถามว่า "คุณชายเซียว เจ้าหมายความว่าอะไร "
พูดจากำกวม ใครพูดไม่เป็น ?
ถึงยังไงหูเฟยก็เป็นคนที่คลุกคลีในสถานที่ราชการมา แค่นี้รับมือไม่ได้ จะไม่ดูไร้น้ำยาไปหน่อยหรือ
“ข้ารู้ว่าใต้เท้าหูที่นี่มีเถามันเทศ ไม่อย่างนั้น ข้าเซียวก็คงไม่มาเยี่ยมถึงที่หรอก” เซียวเฉวียนพูดเฉื่อยๆ อย่าง ตรงประเด็น
ตรงประเด็นมาก !
แต่ว่า เซียวเฉวียนรู้ไปก็เรื่องหนึ่ง หูเฟยไม่ยอมรับซะอย่าง เซียวเฉวียนจะทำอะไรหูเฟยได้ ?
“ไม่ทราบว่าคุณชายเซียวไปฟังข่าวลือของใครมา” หูเฟยพูดโดยหน้าไม่เปลี่ยนสี “มันเป็นเรื่องไร้สาระจริงๆ ถ้าข้าหลวงรู้เรื่องนี้ ย่อมบอกกล่าวตามจริงอย่างแน่นอน”
ข้าหลวง ?
จะเอาตำแหน่งราชการมาขู่เซียวเฉวียนหรือ ?
เป็นแค่หัวหน้าหมู่บ้าน ข้าราชการขี้ประติ๋วเท่านั้นเอง
ถ้าเซียวเฉวียนเป็นหูเฟย คงไม่กล้าเสนอหน้ามาพูด
”ดูท่าทางใต้เท้าหูคงไม่คิดจะพูดความจริงแล้ว” เซียวเฉวียนยกมุมปากขึ้นยิ้มเยาะ “ใต้เท้าหูมีเงื่อนไขอะไรหรือ ?”
แต่ก็แปลก เซียวเฉวียนจะล้วงฟังเสียงในใจของหูเฟย เพื่อสืบรู้ที่มาของเถามันเทศ แต่เซียวเฉวียนพบว่าเขาไม่สามารถสัมผัสรับรู้เสียงในใจของหูเฟยได้เลย
หากรับรู้ได้ เซียวเฉวียนคงไม่ต้องมาพูดเรื่องไร้สาระมากมายกับหูเฟยตรงนี้แล้ว
ดูแล้ว หูเฟยคนนี้แปลกๆ
อันที่จริง ไม่ใช่หูเฟยมีอะไรแปลก แต่เพราะว่าตราจูเสินกับเซียวเฉวียนรวมตัวเป็นหนึ่งยังมีเวลาสั้นอยู่ ร่างกายของเซียวเฉวียนยังปรับตัวได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นความสามารถในการฟังเสียงในใจจึงยังไม่คืนสภาพอย่างสมบูรณ์ใช้ได้บ้าไม่ได้บ้าง
ขณะนี้ก็คืออยู่ในสภาพที่ใช้ไม่ได้
พอได้ยินว่าเซียวเฉวียนมาพูดเข้าประเด็นจนได้ ใบหน้าของหูเฟยจึงปรากฏรอยยิ้มอันพึงพอใจ เซียวเฉวียนก็รู้จักคิดซะที
หูเฟยมีเรื่องหนึ่งจำเป็นต้องให้เซียวเฉวียนไปทำให้จริงๆ
“คุณชายเซียวเกรงใจแล้ว ? ข้าไม่รู้สิ่งนี้อยู่ที่ไหนจริงๆ “ หูเฟยกล่าวโดยแสร้งทำสีหน้าจริงใจ ในไม่ช้า แต่แค่พริบตาเดียว หูเฟยก็กลอกตาและเปลี่ยนเรื่องทันที “แต่ว่า ข้ามีเรื่องหนึ่งจะรบกวนคุณชาย หากคุณชายเซียวสามารถจัดการได้ ข้าก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยคุณชายเซียวสืบหาสิ่งที่ต้องการ”
ความหมายในคำพูดของหูเฟยก็คือ ถ้าเซียวเฉวียนช่วยเขาทำกิจอย่างหนึ่งให้สำเร็จ เขาจะมอบเถามันเทศให้เซียวเฉวียน
ดูสิ มันหน้าจอมปลอมขนาดไหน
มีอะไรไม่พูดกันดีๆ ต้องอ้อมค้อมไปเสียขนาดนี้
เซียวเฉวียนค้อนตาหูเฟยในใจ "ใต้เท้าหู เชิญพูดได้เลย"
ไม่จำเป็นต้องคิด สิ่งที่คนอันธพาลจะให้เซียวเฉวียนทำนั้นไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
”เท่าที่ทราบ นอกจากพวกพ่อค้า ผู้คนจากต้าเว่ยและภูมิภาคตะวันตกถูกห้ามไม่ให้ข้ามแดนกัน” หูเฟยหยุดพักและพูดต่อ “ข้าคิดว่าคุณชายเซียวไม่ใช่พ่อค้า แต่ข้ามมาภาคตะวันตกได้ สถานะคงไม่ใช่ธรรมดา”
“ให้คุณชายเซียวช่วยหาใครสักคนในต้าเว่ย คงไม่น่าเป็นปัญหาใหญ่” หูเฟยกล่าว ดวงตาอันแคบเรียวของเขาไม่อาจซ่อนเร้นแววตาเจ้าเล่ห์ได้
นอกจากนี้ยังมีสีหน้าที่คาดหวังเป็นอย่างยิ่ง
แต่องค์หญิงก็เป็นธิดาเบื้องสวรรค์ หูเฟยก็รู้ตัวว่าเขามีสถานะต่ำต้อยและไม่คู่ควรกับองค์หญิง ดังนั้น นอกเหนือจากความชื่นชมอันมากหลายที่มีต่อองค์หญิงแล้ว หูเฟยยังไม่มีความคิดอะไรเลยเถิด
แต่ว่า ตั้งแต่หูเฟยรู้ว่าองค์หญิงแต่งงานกับชายต้าเว่ย หูเฟยก็เกิดมีความคิดที่เลวร้าย
หูเฟยคิดอยากเอาองค์หญิงมาเป็นของตัวเอง!
เพราะหูเฟยได้ฟังมาจากข่าวลือว่าชายต้าเว่ยที่องค์หญิงแต่งงานด้วยนั้นเป็นผู้รู้หนังสือยากจนอ่อนแอ แถมยังเป็นเขยที่ถูกเขาบอกหย่าเลิกกันมาแล้ว
ด้วยเหตุนี้ หูเฟยจึงรู้สึกว่าชายต้าเว่ยคนนั้นไม่คู่ควรกับองค์หญิงสักนิด แทนที่องค์หญิงจะอยู่กับเขามาอยู่กับหูเฟยดีกว่า
ในเมื่อชายต้าเว่ยคนนั้นโหลยโท่ยถึงขนาดนี้ จึงไม่มีปัญญาปกป้ององค์หญิงได้แน่
ดังนั้น หูเฟยจึงบังอาจมีความคิดขึ้นมาว่า จะหาใครสักคนไปนำองค์หญิงกลับมาจากต้าเว่ย พาเธอมาหาเขา ทำให้องค์หญิงกลายมาเป็นผู้หญิงของหูเฟยซะเอง
ดังนั้น หูเฟยจึงมองหาบุคคลที่สามารถช่วยเขาทำสิ่งนี้ให้สำเร็จได้มาตลอด
ตอนนี้เซียวเฉวียนมาหาถึงที่ มาสนองความปรารถนาของหูเฟยพอดี
เซียวเฉวียนอยากได้เถามันเทศ และหูเฟยอยากได้องค์หญิง ทั้งสองร่วมมือกันเพื่อให้ได้สิ่งที่ต่างต้องการ
แต่ว่าหูเฟยแค่ได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นกับองค์หญิง และไม่รู้ว่าบุคคลที่องค์หญิงแต่งงานด้วยนั้นชื่อเซียวเฉวียน และเขาไม่รู้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าหูเฟยตอนนี้ก็เซียวเฉวียนนั่นแหละ
หูเฟย ซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก็กำลังจะแสดงท่างทางล้วงคองูเห่าต่อหน้างูเห่า !
หูเฟยปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่มแล้วเที่ยวนี้ !
แต่ว่า เซียวเฉวียนไม่คิดจะเปิดเผยสถานะของตัวเองในตอนนี้ แต่วางแผนที่จะค่อยๆ คลุกคลีกับหูเฟยไปก่อน
”ไม่ ไม่ ใต้เท้าหู ท่านเข้าใจผิดแล้ว เซียวเฉวียนไม่ได้มีความคิดอื่นเกี่ยวกับองค์หญิง” เมื่อพูดถึงจุดนี้ เซียวเฉวียนก็รู้ดีอยู่แล้วว่าหูเฟยกำลังคิดอะไรในใจ แต่ว่าเซียวเฉวียนแกล้งถามทั้งที่รู้ “แล้วใต้เท้าหูจะให้เซียวเฉวียนทำอะไรให้หรือ ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...