“เสด็จพ่อเหตุใดจู่ๆ ถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมา?” เซียวเฉวียนแสร้งถามอย่างไม่รู้เรื่องประโยคหนึ่ง
“ไม่มีอะไร พ่อก็แค่อยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วองค์หญิงได้สอนภูมิประเทศทั่วไปของซินเจียงให้เข้าหรือไม่”
องค์กษัตริย์ทรงแย้มยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มของพระองค์เผยแววอาทรในความลำบาก
“องค์หญิงทรงคุณธรรมจิตใจงดงาม นับตั้งแต่แต่งให้ข้า นางก็ทุ่มเทจิตใจไปที่บ้านของพวกเรา น้อยครั้งนักที่จะเอ่ยถึงซินเจียง” เซียวเฉวียนว่ากันตามตรง “แต่ว่า นางพูดถึงเสด็จพ่อและเสด็จแม่ แล้วยังมีพี่ชายแต่ละท่าพ่ะย่ะค่ะ”
“อ้อ? ถ้าอย่างนั้นองค์หญิงเคยเอ่ยหรือไม่ว่านางมีสายสัมพันธ์กับพี่ชายคนใดดีที่สุดอย่างนั้นหรือ?” เมื่อได้ฟังมาถึงเรื่องนี้ องค์กษัตริย์ก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้
นับตั้งแต่โบราณเชื้อพระวงศ์นั้นไม่มีบุตรธิดา องค์กษัตริย์นั้นทรงยุ่งอยู่กับราชกิจ น้อยครั้งนักที่จะเข้ามาปฏิสัมพันธ์กับลูกๆ ทั้งหลาย
เรื่องราวระหว่างลูกๆ ของพระองค์ เรื่องที่ทรงทราบมากสุดนั้นมาจากฮองเฮานั่นเอง
ทว่าเพื่อที่ฮองเฮาจะไม่เติมปัญหาให้องค์กษัตริย์เพิ่ม แต่ไหนแต่ไรมานางจะรายงานแต่ข่าวดีไม่ใช่ข่าวกังวล
ดังนั้นแล้ว ด้านที่ไม่น่าชมของบรรดาลูกๆ องค์กษัตริย์ก็จะไม่รับรู้
“ดูจากคำอธิบายขององค์หญิงแล้ว ข้ารู้สึกว่าความสัมพันธ์ขององค์หญิงนั้นไม่ว่าจะกับพี่ชายคนใดก็ล้วนดียิ่ง แต่หากจะพูดถึงคนที่ดีที่สุดนั้น ก็คือรัชทายาทหมิงเจ๋อ” เซียวเฉวียนเอ่ยเสียงเบา “องค์หญิงกล่าวว่า หมิงเจ๋อเองก็รักถนอมนางอย่างมากและปกป้องนางเป็นพิเศษพ่ะย่ะค่ะ”
“แต่ว่า องค์หญิงพูดว่า ไม่ว่าจะด้านใดๆ รัชทายาทหมิงเจ๋อนั้นโดดเด่นเป็นอย่างมาก มีสิ่งที่ไม่ดีจุดเดียวคือทรงไม่ฟังใคร” เซียวเฉวียนเอ่ยเสริม
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าเกลียดเขาไหม?” องค์กษัตริย์ทรงถามอย่างปวดร้าวใจ
เรื่องที่หมิงเจ๋อกระทำต่อเซียวเฉวียนในต้าเว่ยนั้น องค์กษัตริย์ทรงพอทราบมาบ้าง
จริงๆ แล้วองค์กษัตริย์เองก็รู้ว่าตนเองถามทั้งๆ ที่รู้เรื่องนี้แก่ใจ หมิงเจ๋อไล่สังหารเซียวเฉวียนโดยไม่เลือกวิธีการ แถมยังฆ่าคนในครอบครัวของเขา เซียวเฉวียนจะไม่โกรธเขาได้อย่างไร
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นละก็ ต้องชิงชังเป็นที่สุแน่
แต่ว่าคำตอบของเซียวเฉวียนนั้นกลับอยู่เหนือความคาดหมายขององค์กษัตริย์ เซียวเฉวียนเอ่ยด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “เสด็จพ่อ ขอเอ่ยอย่างไม่ปิดบัง กระหม่อมเคยต่อสู้กับหมิงเจ๋อมาแล้ว ครั้งนั้นสู้กันถึงขั้นจะเป็นจะตาย กระหม่อมถึงกับตัดแขนข้างหนึ่งของเขาไปโดยไม่ทันระวัง”
“ข้าเองก็รู้ว่าสำหรับเขาแล้ว การที่เสียแขนหนึ่งข้างไป ก็คือการอยู่ไม่สู้ตาย” เซียวเฉวียนยังคงเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบนิ่งต่อ “ดังนั้น เห็นการหน้าขององค์หญิง บุญคุณความแค้นของข้ากับเขาก็นับว่ายุติกัน”
คำพูดนี้ เป็นสิ่งที่เซียวเฉวียนเอ่ยให้องค์กษัตริย์ฟังเพียงผู้เดียวเท่านั้น
หมิงเจ๋อกระทำความผิดยิ่งใหญ่ท่วมสวรรค์ปานี้ เซียวเฉวียนจะยอมให้เขาคิดบัญชีเพียงดอกเดียวได้เช่นไรกัน!
หมิงเจ๋อต้องตายไปสักสิบรอบแปดรอบสิถึงจะสาสมกับความเกลียดชังในใจของเซียวเฉวียน!
เมื่อเห็นเซียวเฉวียนรู้ความปานนี้ ภายในใจขององค์กษัตริย์ก็ชื่นชม
ในส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น องค์กษัตริย์ทรงทราบดีว่าเซียวเฉวียนเป็นคนตัดแขนข้างหนึ่งของหมิงเจ๋อ ทว่าเซียวเฉวียนกลับไม่ได้เอ่ยถึงลูกนัยน์ตาและขา เช่นนั้นลูกนัยน์ตาและขาของเขาคงไม่ได้บาดเจ็บเพราะเซียวเฉวียน
ขาละลูกนัยน์ตาของหมิงเจ๋อนั้นไม่ใช่ฝีมือเซียวเฉวียนจริงๆ แต่ว่าเซียวเฉวียนรู้ว่าใครทำ
เซียวเฉวียนที่ได้ยินเสียงภายในใจขององค์กษัตริย์นั้นก็แอบทอดถอนใจเบๆ หมิงเจ๋อคนผู้นี้งมงายดื้อรั้น อนาคตภายภาคหน้าผู้ที่เจ็บปวดที่สุดย่อมเป็นบุคคลที่รักหมิงเจ๋อที่สุด
ไม่ได้พบกันในเวลาสั้นๆ เท่านั้น องค์กษัตริย์กลับดูชราลงไปมาก เห็นก็รู้ว่าคงเป็นกังวลเพราะเรื่องหมิงเจ๋ออย่างแน่นอน
เซียวเฉวียนไม่อาจจะพูดเรื่องที่องค์หญิงควักลูกนัยน์ตาของหมิงเจ๋อออกมาได้
และเซียวเฉวียนยังต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้ด้วย
ทว่าเซียวเฉวียนสามารถพูดเรื่องที่อาจื่อเป็นคนทำร้ายขาของหมิงเจ๋อสักหน่อยได้
เซียวเฉวียนเหลือบตามององค์กษัตริย์เล็กน้อย เขาเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบ “เสด็จพ่อ ท่านรู้จักคนข้างกายหมิงเจ๋อที่ชื่ออาจื่อหรือไม่?”
องค์กษัตริย์แสดงท่าทีว่าไม่รู้
อาจื่อนั้นเป็นคนที่หมิงเจ๋อเก็บเอาไว้ตอนซ่อนตัวที่ภูเขาจงหนาน หมิงเจ๋อเองไม่เคยพาอาจื่อเข้าวังมาก่อน องค์กษัตริย์จึงทรงไม่ทันได้สังเกต
เมื่อเห็นองค์กษัตริย์ไม่ทราบเรื่อง เซียวเฉวียนจึงเล่ารายละเอียดที่มาของอาจื่อให้พระองค์ฟังจนสิ้น แถมยังเติมพริกเติมเกลือลงไปด้วยว่า อาจื่อทำภารกิจล้มเหลวหลายครั้งหลายหน และไม่อาจทนคำด่าทอของหมิงเจ๋อได้ ดังนั้นนางเลยมีใจคิดก่อกบฏ
“ดังนั้น เสด็จพ่อต้องระวังมิให้อาจื่อทำร้ายรัชทายาท” เซียวเฉวียนเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นกังวล
ส่วนเรื่องที่อาจื่อถูกฉินซูโหรวเอาไปหลอมเป็นกระบี่ชีวันแล้ว เซียวเฉวียนก็ไม่อาจจะเล่าให้ฟังได้เช่นกัน
ยามนี้เป้าหมายของเซียวเฉวียนก็คือ กวนน้ำให้ขุ่นเสีย ยิ่งขุ่นเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ให้ความสนใจขององค์กษัตริย์นั้นไปอยู่บนตัวอาจื่อ
และในเวลานี้เอง ด้านนอกก็มีเสียงความเคลื่อนไหววุ่นวายตามมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...