จิ๊!
ดูจากแนวโน้มในคำพูดนี้แล้ว ฟังแล้วยโสโอหังเป็นที่ยิ่ง
เดิมทีเขาเป็นพระญาติพระวงศ์
แต่ว่า ในสายตาของเซียวเฉวียน ชีวิตทุกคนมีค่าเท่าเทียมกัน ไม่ได้แบ่งแยกสูงต่ำร่ำรวยหรือยากจน
เซียวเฉวียนไม่สนว่านางเป็นใคร แต่พวกนางจะแตะเถามันเทศของเซียวเฉวียนไม่ได้!
เซียวเฉวียนเหลือบตามองสตรีทั้งสองคนเบาๆ ครั้งหนึ่ง “ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร?”
คนโบราณพวกนี้ก็น่าหัวเราะเสียจริง ครั้นเข้ามาก็ถามเซียวเฉวียนว่ารู้หรือไม่ว่านางเป็นใคร
รู้ไปแล้วจะทำไมล่ะ?
แล้วถ้าไม่รู้แล้วจะทำไมล่ะ?
หรือจะมีรางวัลให้เขาหรือไง?
ครั้นเซียวเฉวียนถามกลับเช่นนี้ พระสนมรายนั้นก็เริ่มอารมณ์ขึ้นแล้ว “เด็กๆ เอาเจ้าคนไม่รู้มารยาทรายนี้ลากไปโบยให้ตายเสีย!”
เขากล้าเอ่ยวาจากับพระสนมขององค์กษัตริย์ต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ สงสัยจะเบื่อชีวิตแล้วกระมัง!
คนมากมายกำลังมองอยู่เช่นนี้ วันนี้หากพระสนมไม่ฆ่าเซียวเฉวียนเพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู อีกหน่อยนางจะอยู่ในวังหลวงนี้ได้อย่างไร?
พอได้ฟังคำสั่งของพระสนม องครักษ์ทั้งสองคนก็พลันเดินเข้ามา จากนั้นทั้งสองคนก็ยื่นมือเข้าไปหมายจะเตรียมจับตัวเซียวเฉวียนเพื่อลากเขาลงไป
น่าตลกนัก!
แล้วเซียวเฉวียนจะยอมให้องครักษ์ทั้งสองคนนี้ลากลงไปได้อย่างไร
มือขององครักษ์ทั้งสองคนยังไม่ทันได้แตะเซียวเฉวียน ก็ถูกเซียวเฉวียนใช้พลังภายในผลักจนกระเด็นลอยไปแบบเงียบๆ
“พลั่ก!”
“อึ่ก!”
ทั้งสองคนทรุดนั่งลงกับพื้นพร้อมกัน ต่างเจ็บจนกรีดร้องออกมา
เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้?
พวกเขายังไม่เห็นเซียวเฉวียนลงมืออะไรเลยชัดๆ เหตุใดองครักษ์ถึงกระเด็นลอยไปแบบนี้ได้กัน?
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอดงงเป็นไก่ตาแตกไม่ได้
พอเป็นเช่นนี้ พระสนมก็รักษาสีหน้าอันดีของพระองค์ไว้ไม่อยู่แล้ว นางพลันโมโหจนขาดสติขึ้นมาในทันที นางชี้หน้ามาที่เซียวเฉวียนด้วยความโมโหพลางกล่าว “เจ้า เจ้ากล้าทำร้ายองครักษ์ของข้าต่อหน้าข้าเลยอย่างนั้นหรือ?”
“ท่านอา เขาไม่เห็นท่านอยู่ในสายตาเลย!” หลานสาวของพระสนมรายนั้นยังเติมพริกเติมเกลือลงไปอีก พลางชี้มายังเซียวเฉวียนด้วยท่าทางดุดันโมโห
เซียวเฉวียนเหลือบตามองหลานสาวรายนั้นด้วยความเย็นชาครั้งหนึ่ง มุมปากของเขายกขึ้นเป็นแววเย้ยหยัน
หลานสาวรายนี้ดูไปแล้วไร้เดียงสาบริสุทธิ์ แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นยายตอแหล
คำพูดของนางคล้ายจะทำให้พระสนมโมโหยากจะระงับเฉยๆ แต่เอาเข้าจริงกลับเป็นการยั่วยุให้พระสนมหาเรื่อง ฉวยจังหวะนี้ดึงความสนใจจากองค์กษัตริย์
ท่าทางที่แสดงออกขัดกับเจตนาโดยสิ้นเชิง
เดิมทีการเข้าวังของหลานสาวเพื่อมาเยี่ยมอานั้นเป็นแค่ข้ออ้าง หลานสาวเองก็อยากเข้ามาชิงวาสนาในวังหลวงเช่นกัน ดูซิว่านางยังพอจะชิงความโปรดปรานจากฮ่องเต้จนทรงประทานนางให้องค์ชายคนไหนได้หรือไม่
และถ้าต้องแต่งให้กับองค์กษัตริย์เฒ่า นางเองก็ยินยอมเช่นกัน
เมื่อเป็นเช่นนี้ นางก็สามารถเป็นพญาหงส์ที่โบยบินสู่ปลายกิ่งไม้และกลายเป็นสตรีที่มีศักดิ์สูงส่งได้ ได้เสพสุขกับความหรูหราสูงศักดิ์ไม่สิ้นสุด และมีชีวิตที่อยู่เหนือกว่าผู้อื่น
ทว่าหลังจากเข้าวังหลวงมา หลานสาวก็พบว่าสถานการณ์ไม่ได้ง่ายอย่างที่นางคิด
ท่านอาของนางไม่ได้รับความโปรดปรานอะไรในวังหลวงนัก
นางมาวังหลวงได้ประมาณห้าวันแล้ว แต่ก็ไม่เห็นองค์กษัตริย์มายังที่พักของท่านอาเลยสักครั้ง
หรือจะพูดก็ได้ว่า จนกระทั่งบัดนี้แล้ว หลานสาวยังไม่ได้พบหน้าขององค์กษัตริย์เลยด้วยซ้ำ กษัตริย์หน้าตาเป็นเช่นไรนางก็ไม่รู้
เมื่อไม่อาจจะพึ่งท่านอาของนางได้ หลานสาวก็ได้แต่พึ่งตัวเอง
ตามวันปรกติหากไม่มีเรื่องอะไรนางก็อยากจะมาเดินเล่นในอุทยานดอกไม้นี้ อ้างว่าอยากจะชมดอกไม้ แต่แท้ที่จริงคิดอยากตามหาเป้าหมายของนางในอุทยานเสียมากกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...