ตั้งแต่สมัยโบราณการอัญเชิญเทพมานั้นง่ายกว่าการอัญเชิญเทพกลับวิมาน
หลานสาวยังไม่ทันได้พูดอะไร สนมก็ตะโกนด้วยความโกรธว่า “อวดดี! เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้มาพูดจาโอ้อวดเช่นนี้หน้าพระราชวัง?”
เมื่อสนมพูดเช่นนี้ เซียวเฉวียนก็ปล่อยนางไป
เซียวเฉวียนไม่ได้มองว่าที่นี่คืออาณาเขตของใคร เขาที่เป็นคนต้าเว่ยกล้าพูดเช่นนี้ต่อหน้าราชวงศ์ซินเจียง ไม่รู้ว่าอยากอยู่หรือตาย!
และยังเรียกหลานสาวของนางต่อหน้าสนม
แม้ว่าสนมจะไม่รู้ว่าคำว่า ชาเขียว หมายถึงอะไร แต่นางก็รู้สึกว่าคำที่เซียวเฉวียนพูดออกมานั้นต้องมีความหมายที่ไม่ดีอย่างแน่นอน
สนมมองไปที่เซียวเฉวียนด้วยความโกรธราวกับว่านางอยากจะฉีกเซียวเฉวียนเป็นชิ้นๆ
ดูจากสถานการณ์แล้ว ตอนนี้ไม่มีใครสามารถเกลี้ยกล่อมสนมได้เลย
แต่หลานสาวของนางรู้สึกผิด นางกลัวว่าถ้านางไม่เกลี้ยกล่อมเซียวเฉวียนจะเปิดเผยนาง
ดังนั้นต่อให้นางจะเกลี้ยกล่อมไม่ได้ก็ต้องเกลี้ยกล่อม
“เสด็จป้า ช่างมันเถอะเพคะ” หลานสาวกระซิบบอกกับสนมว่า “มีหลายคนกำลังจ้องมาที่พวกเรา พวกเรากําลังทําให้คนในต้าเว่ยอับอาย ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไปไม่ดีแน่”
หลานสาวแค่ต้องการจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด นางจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่กังวลเล็กน้อยและทําอะไรไม่ถูก
ที่ทำอะไรไม่ถูกเพราะหลานสาวรู้สึกเสียใจที่ไปยั่วยุเซียวเฉวียนผู้ทรงพลัง
เพราะเซียวเฉวียนอ่านความคิดในใจของหลานสาวได้
หลานสาวใช้ประโยชน์จากเซียวเฉวียนไม่สำเร็จ และยังถูกเซียวเฉวียนข่มขู่ หากนางล้มเหลวก็เหมือนกับคว้าอากาศ
แต่ในสายตาสนม สนมรู้สึกว่าหลานสาวนั้นอ่อนแอ
ก่อนที่หมิงหมิงจะมาหลานสาว นางเอาแต่คิดที่จะลงโทษเซียวเฉวียนเพื่อสอนบทเรียนให้กับเขา
แต่ไม่คิดว่าหญิงสาวก็เริ่มถอยกลับ เพียงแค่เซียวเฉวียนขู่ไม่กี่คำ
ขี้ขลาด!
“ช่างมันอะไร? เขาหยิ่งยโสเช่นนี้ ถ้าไม่สอนบทเรียนให้เขา เขาก็จะไม่สนใจกฎหมาย!” สนมผลักนางข้าหลวงที่ช่วยเซียวเฉวียนปกป้องเถามันเทศด้วยความโกรธ “ออกไป! รักเถาวัลย์สองกระถางนี้มากใช่มั้ย ข้าจะทําลายมันก่อนแล้วค่อยไปจัดการกับเจ้า!”
สนมจ้องไปที่นางข้าหลวงอย่างดุร้าย
นางโกรธมากเมื่อเห็นนางข้าหลวง ในสายตาของนางข้าหลวงคนนี้ยังเห็นนางเป็นนายท่านอยู่หรือไม่? สำหรับเซียวเฉวียนที่เป็นคนนอกแล้วสนมจึงดื้อรั้นมาก
“ท่านหญิง......” นางข้าหลวงต้องการบอกนางสนมเกี่ยวกับตัวตนของเซียวเฉวียน แต่นางก็ถูกสนมขัดจังหวะด้วยความโกรธ “เจ้าก็ยังรู้นี่ว่าข้าคือท่านหญิง! ออกไปให้พ้น!”
ด้วยเหตุนี้สนมก็ผลักนางข้าหลวงอย่างแรงจนนางข้าหลวงล้มลงไปกับพื้น
“หึ!”
สนมตะคอกอย่างเย็นชา บิดเอวแล้วก้าวไปข้างหน้าสองก้าว มือข้างหนึ่งคว้าเถามันเทศ และนางก็กำลังจะตัดมันด้วยกรรไกรที่อยู่ในมืออีกข้างหนึ่ง
“หยุดเดี๋ยวนี้!” เซียวเฉวียนออกมาข้างหน้าและตะโกน
เซียวเฉวียนมองไปที่สนมอย่างเย็นชา เมื่อสนมบังเอิญสบตากับเซียวเฉวียนนางก็อดไม่ได้ที่จะตกใจกับสายตาที่เย็นชาของเซียวเฉวียน
แต่สนมก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว นางพูดกับเซียวเฉวียนด้วยความกล้าว่า “เจ้าเป็นใคร ทำไมข้าต้องหยุด?”
สนมไม่ยอมหยุด!
หลังจากพูดอย่างนั้นสนมก็ใช้กรรไกรตัด ฉึบ แล้วเถามันเทศถูกตัดออก
หลังจากที่ตัดไปแล้วและวางกรรไกรลง นางสนมก็ถูกลงโทษทันที
เซียวเฉวียนที่ไม่เคยทำร้ายผู้หญิงมาก่อน แต่ครั้งนี้ยกเว้นเพราะเถามันเทศ
เซียวเฉวียนใช้ภายในของเขา ผลักไปที่สนมที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรอย่างเงียบๆ
“กรี๊ด!”
“กรี๊ด!”
“กรี๊ด!”
“ตุบ!”
สนมส่งเสียงร้องออกมาสามครั้ง และในที่สุดก็เป็นลมและล้มกระแทกลงไปที่พื้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...