ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1131

ถามมาเถอะ

ถามออกมาให้ชัดเจน

เมื่อถามออกมาชัดเจนแล้ว ข้าจะได้รีบกลับไปยังต้าเว่ย

อย่างไรก็ตาม เซียวเฉวียนสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของราชินีได้อย่างชัดเจน

ในความเป็นจริง ไม่มีมารดาของประเทศใดที่ลดกำลังคนในตำหนักของตนเองมากมายถึงเพียงนี้

สิ่งเดียวที่สามารถทำความเข้าใจได้ก็คือ ในพระตำหนักแห่งนี้ของราชินีจะต้องมีความลับอะไรซ่อนอยู่เป็นแน่

การที่มีคนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มันจะทำให้ความลับถูกเปิดเผยได้โดยง่าย

แต่มันก็บังเอิญที่เซียวเฉวียนสามารถสัมผัสถึงเรื่องนี้ได้

คิดไม่ถึงว่าเซียวเฉวียนจะสามารถอ่านจังหวะการเต้นหัวใจของราชินีได้ แต่กลับไม่รู้ว่าราชินีมีความลับอะไรซ่อนอยู่ เพราะในใจของราชินีนั้นไม่มีความคิดที่ดูพิเศษแต่อย่างใด

เซียวเฉวียนอดไม่ได้ที่จะสงสัยกับตัวเอง หรือว่าเขาคิดมากเกินไป?

“ราชบุตรเขย?” เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเฉวียน ราชินีอดไม่ได้ที่จะเรียกออกมาอีกครั้ง

“เสด็จแม่ ท่านมีเรื่องอันใดก็เชิญถามออกมาได้เลย” รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเซียวเฉวียน แววตาของเขาจับจ้องไปยังร่างเล็กที่อ่อนนุ่มที่กำลังนอนอยู่บนเตียง

นั่นก็คือลูกสาวตัวน้อยของเซียวเฉวียน

เด็กที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่นาน การเติบโตของร่างกายจะมีความรวดเร็วเป็นอย่างมาก

ไม่เจอกันไม่นาน ลูกสาวตัวน้อยก็เติบโตขึ้นไม่น้อย ไม่ใช่แค่ส่วนสูงเท่านั้น แต่ร่างกายก็ขยายใหญ่ขึ้นเช่นกัน

คิ้วของนางเหมือนกับองค์หญิงเป็นอย่างมาก แต่ความมีเสน่ห์นั้นเหมือนกับเซียวเฉวียนมากกว่า

ดูเหมือนว่าลูกสาวตัวน้อยจะจำเซียวเฉวียนได้ ทันทีที่นางสบตากับเซียวเฉวียน นางก็เปิดปากน้อย ๆ ออกมาด้วยรอยยิ้ม

เซียวเฉวียนที่ได้เห็นเช่นนั้น หัวใจของเขาก็แทบละลาย

เซียวเฉวียนอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปอุ้มลูกสาวตัวน้อยเอาไว้ในอ้อมแขนและจูบนาง

การจูบครั้งนี้ทำให้รอยยิ้มของลูกสาวตัวน้อยชัดเจนยิ่งขึ้น

“ดูสิ ตัวแค่นี้แต่รู้จักเลือกปฏิบัติ ยายของเจ้าอยากให้เจ้ายิ้มยังต้องพยายามแทบตายกว่าเจ้าจะยิ้มออกมา” ราชินีแสดงท่าทีน้อยใจออกมาเพื่อหยอกล้อกับหลานสาวอย่างมีความสุข

เมื่อได้ยินคำพูดหยอกล้อของราชินี เซียวเฉวียนก็ยิ้มออกมาพร้อมกล่าวว่า “นางรู้ว่าเสด็จแม่รักและเป็นห่วงนาง นางถึงแกล้งเสด็จแม่เช่นนี้”

ที่เซียวเฉวียนพูดออกมามันก็เหมือนจะมีเหตุผล

แม้ว่ายังเด็กมาก แต่ก็รู้จักวิธีการเลือกแกล้งผู้คน

ราชินีเฝ้ามองนางด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรักตลอดทั้งวัน หากนางไม่แกล้งราชินี เช่นนั้นนางจะไปแกล้งใคร

เมื่อคิดเช่นนี้ ราชินีก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมา “เจ้าปีศาจตัวน้อย ฉลาดจริง ๆ”

หลังจากราชินีพูดออกมา ลูกสาวตัวน้อยก็เหมือนกับเข้าใจในสิ่งที่ราชินีพูด นางหัวเราะเยาะออกมาดังลั่น

เด็กเช่นนี้ทำผู้คนรู้สึกหลงรักโดยปราศจากซึ่งความลังเล

เซียวเฉวียนอุ้มลูกสาวตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน เขาจ้องมองลูกสาวตัวน้อยพร้อมกับถามออกมาว่า “ราชินีมีเรื่องอยากถามข้าไม่ใช่หรือ?”

ราชินีหันมามองเซียวเฉวียน จากนั้นก็กล่าวออกมาด้วยท่าทางเคร่งขรึม “เซียวเฉวียน เจ้าบอกแม่มาตามตรง เจ้าได้ทำอะไรที่เป็นอันตรายกับเจ๋อเอ๋อร์หรือไม่?”

เมื่ออยู่ต่อหน้าเซียวเฉวียน ราชินีเองก็ไม่อ้อมค้อม นางถามอย่างตรงไปตรงมา

เซียวเฉวียนตอบกลับไปอย่างไม่ลังเล “ราชินีรู้เรื่องของข้ากับองค์ชายมากเพียงใด?”

“แม่รู้เรื่องที่เขาส่งคนไปสังหารเจ้า รวมถึงบุกทำลายจวนเซียว” ราชินีพูดออกมาพร้อมกับแววตาที่ต่ำลง

ที่จริงหมิงเจ๋อเป็นคนที่เข้าไปสร้างปัญหาให้กับเซียวเฉวียนก่อน เรื่องนี้ราชินีไม่อาจปฏิเสธมันได้

“เช่นนั้นเสด็จแม่คิดว่า ในระหว่างการต่อสู้ที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน ข้าไม่ทันระวังจึงตัดแขนขององค์ชายไปข้างหนึ่ง นี่ถือว่าเป็นการกระทำที่มากเกินไปหรือไม่?”

“ภารกิจที่องค์ชายมอบให้กับอาจื่อ ไม่มีเรื่องใดที่อาจื่อสามารถทำได้สำเร็จ ดังนั้นองค์ชายจึงเกลียดชังอาจื่อ ทำทุกวิถีทางเพื่อให้อาจื่ออับอาย” เซียวเฉวียนยังคงกล่าวออกมาอีกว่า “อาจื่อเกลียดเข้าไปถึงกระดูกดำ และตัดสินใจลงมือสังหารองค์ชาย”

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อาจื่อเคยพูดกับข้า ตอนนั้นข้าคิดว่าอาจื่อไม่มีทางทำอะไรองค์ชายได้ เป็นไปไม่ได้ที่นางจะสังหารองค์ชายได้สำเร็จ ดังนั้นข้าจึงไม่ได้ใส่ใจ” เซียวเฉวียนหยุดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวออกมาอีกว่า “ตอนนั้นข้าดูถูกอาจื่อว่าไม่รู้จักประเมินความสามารถของตนเอง”

เซียวเฉวียนเองก็รู้สึกเกลียดชังคนอย่างอาจื่อเช่นนั้น เกลียดชังความไม่ภักดีของนาง

เมื่อได้ยินคำพูดของเซียวเฉวียน ราชินีก็กล่าวออกมา “ด้วยเหตุนี้ เจ้าจึงคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าอาจื่อผู้นี้คือคนที่ทำร้ายเจ๋อเอ๋อร์?”

เซียวเฉวียนพยักหน้า “ผู้หญิงคนนี้ทะเยอทะยานและโหดร้ายยิ่งนัก”

เซียวเฉวียนกล่าวเสริมไปอีกคำ ทำให้ราชินียิ่งเชื่อในคำพูดของเซียวเฉวียนมากขึ้น นางถึงขั้นคิดว่าการที่หมิงเจ๋อต้องมีสภาพเช่นนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะคนที่ชื่ออาจื่อ

แต่เหตุใดหมิงเจ๋อถึงบอกว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของเซียวเฉวียน?

แน่นอนว่าราชินีไม่สามารถเชื่อไปทั้งอย่างนี้ได้ นางจึงถามเซียวเฉวียนออกมาอีกครั้งว่า “เซียวเฉวียน ครั้งสุดท้ายที่เจ้าได้พบกับเจ๋อเอ๋อร์คือเมื่อใด”

เซียวเฉวียนกล่าวอย่างเฉียบขาด “ตอนที่ข้าเพิ่งมาถึงซินเจียง ข้าเป็นคนพาองค์ชายเดินทางจากเมืองหลวงของต้าเว่ยกลับมายังซินเจียง ตอนนั้นอาจื่อเองก็อยู่ข้างกายของหมิงเจ๋อ หลังจากที่ข้าส่งพวกเขาไปยังเมืองอีหลิน ข้าก็ไม่เคยพบกับองค์ชายและอาจื่ออีกเลย”

กษัตริย์และราชินีรู้แผนการเดินทางของเซียวเฉวียนหลังจากนั้น

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เซียวเฉวียนและหมิงเจ๋อได้แยกทางกันที่เมืองอีหลิน

และระหว่างทางที่เซียวเฉวียนเดินทางมาซินเจียง เขามีโอกาสที่จะสังหารหมิงเจ๋อแต่เขาก็ไม่ทำ ทำให้ราชินีมั่นใจมากยิ่งขึ้น

สิ่งที่เกิดขึ้นกับหมิงเจ๋อ ไม่ใช่ฝีมือของเซียวเฉวียน

เมื่อทำความเข้าใจกับเรื่องราวโดยรวมแล้ว โดยพื้นฐานก็น่าขจัดความสงสัยของเซียวเฉวียนไปได้

ราชินีสามารถสรุปได้ว่า เรื่องทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นคำโกหกของหมิงเจ๋อ

ราชินีไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า หมิงเจ๋อเด็กน้อยที่ภาคภูมิใจของนางจะเดินในเส้นทางที่สุดโต่งเช่นนี้ เพื่อจะสังหารเซียวเฉวียน เขายอมลงมือโดยไม่เลือกวิธีการ เขายอมทำทุกวิถีทางแม้ว่าจะเป็นวิธีการที่ไร้ยางอายก็ตาม

สิ่งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าหมิงเจ๋อนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซียวเฉวียน หากเซียวเฉวียนไม่ยับยั้งชั่งใจ เกรงว่าหมิงเจ๋อคงจะตายไปตั้งนานแล้ว 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย