ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1137

ที่นี่มีคนไม่มาก แต่หลังจากที่เซียวเฉวียนเข้ามา คนของพวกเขาก็ถือเป็นครึ่งหนึ่งของโรงเตี๊ยม

ทำให้โรงเตี๊ยมคึกครื้นขึ้นมาก

ทั้งยี่สิบกว่าคนเข้ามาพร้อมๆกัน อีกทั้งโย่วควนยังได้สั่งอาหารตามความชอบของเซียวเฉวียนอีก เขาได้สั่งเมนูแนะนำของร้านนี้มาทั้งหมด

พูดได้เลยว่า ไม่แพงโย่วควนไม่สั่ง

และแต่ละอย่างก็สั่งมาสี่ชุด

นี่เป็นลูกค้ารายใหญ่เลยนะ

เพื่อเอาใจลูกค้ารายใหญ่นี้ เจ้าของร้านจึงได้ออกมาให้บริการด้วยตัวเอง เขาเติมชาให้กับเซียวเฉวียนและคนอื่นๆอย่างกระตือรือร้น

มู่จิ่นนั่งอยู่ข้างๆเซียวเฉวียนและเซียวเฉวียนก็ได้กระซิบกับมู่จิ่นว่า “ดูสิ ในสมัยโบราณคนมีเงินเท่านั้นที่ถือเป็นนาย”

“ไม่ใช่อย่างนั้น” มู่จิ่นพูดเสริมอีกว่า “รอให้ข้าถึงเมืองหลวงต้าเว่ยก่อน ข้าจะเปิดร้านอาหารตรงข้าม ไม่ก็ข้างๆเจ้า ข้าต้องสร้างรายได้”

"ข้าจะต้องเป็นคนใหญ่คนโตให้ได้" มู่จิ่นหัวเราะ

“ได้สิ ยังไงซะเจ้าก็ตามข้ามาแล้ว เงินที่เจ้าหามาได้ก็ต้องเป็นของข้าอยู่ดี มีคนช่วยหาเงินเพิ่มอีกทางก็ดี” เซียวเฉวียนยิ้ม

"เซียวเฉวียน ท่านยังมีศีลธรรมอยู่บ้างไหม?" มู่จิ่นประท้วงขึ้น

แน่นอน มู่จิ่นต้องรู้อยู่แล้วว่าเซียวเฉวียนแกล้งเขาเล่น

เซียวเฉวียนครอบครองความมั่งคั่งจากเว่ยเชียนซิว แค่นี้ก็สามารถทำให้เซียวเฉวียนร่ำรวยได้ แล้วเซียวเฉวียนจะมาสนใจเงินน้อยๆของมู่จิ่นนี้งั้นหรือ

"ฮ่าฮ่าๆ จริงๆก็มีอยู่ แต่ตอนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเจ้าก็ไม่มีแล้ว" เซียวเฉวียนยิ้มอย่างมีเลศนัย

"..." มู่จินพูดไม่ออก เขาได้แต่มองเซียวเฉวียน

ในเวลานี้ อาหารก็ขึ้นโต๊ะเรียบร้อยแล้ว

เมื่อมองไปที่อาหารร้อนๆบนโต๊ะนั้น ท้องของเซียวเฉวียนก็มีเสียง" ฮึดฮัด"

เซียวเฉวียนก็ไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองยังไง สุดท้ายเขาก็หยิบตะเกียบขึ้นมาเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลังจากที่เขาหยิบเนื้อเข้าปากแล้วชิ้นหนึ่ง ก็เห็นว่าทุกคนกำลังจ้องมองมาที่เขาอยู่ เซียวเฉวียนพูดขึ้น “กินสิ มองข้ากันทำไม?”

พูดจบ เซียวเฉวียนก็คีบเนื้ออีกชิ้นเข้าปาก

แม้ว่าจะสู้ที่เขาทําไม่ได้แต่มันก็ถือว่าอร่อยอยู่

ได้ยินเซียวเฉวียนพูดอย่างนั้นแล้ว ทุกคนก็เริ่มเพลิดเพลินในการกินอาหาร

ในตอนแรก คนเหล่านี้ยังสามารถอดทนอยู่ได้ ภาพลักษณ์ของพวกเขามั่นคงมาก พวกเขาก็ใจเย็นไม่ได้แล้ว

พูดตามตรง อาหารของที่นี่มันอร่อยจริงๆ

หลังจากผ่านหมู่บ้านนี้ไปก็จะไม่มีร้านอาหารแบบนี้อีก อาหารอร่อยขนาดนี้ ทุกคนก็ย่อมกินมากขึ้นเป็นปกติ

ดังนั้น ทุกคนก็เริ่มกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ไม่นาน อาหารบนโต๊ะก็เกลี้ยง แม้แต่น้ำซุปอะไรก็ไม่เหลือ

มองดูเหมือนแล้วกับผีที่หิวโหย

หลังจากที่เซียวเฉวียนกินอิ่มแล้ว ก็ออกเดินทางต่อขณะที่ฟ้ายังไม่มืด

ในเวลานี้ ท้องถนนก็มีผู้คนเพิ่มมากขึ้น

ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมามองไปที่ตระกร้าสองใบในร้าน พวกเขาต่างก็ประหลาดใจ ความประหลาดใจทั้งหมดนี้ก็ปรากฏขึ้นอยู่บนใบหน้าของเขา

พวกเขาทั้งหมดก็มองไปที่เซียวเฉวียนราวกับกำลังมองคนที่โง่เขลา

มีคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “คนมากขนาดนี้มีตระกร้าเพียงสองใบ บ้าหรือเปล่า?”

แม้ว่าคนคนนี้จะพูดจาไม่ค่อยน่าฟัง แต่มันก็เป็นความในใจของผู้คนมากมายที่ผ่านไปผ่านมา ต่างก็คิดแบบนี้กันทั้งนั้น

เมื่อออกจากบ้าน ต่างก็จะพบกับผู้คนที่พกเงินทองและสมบัติมากมายไปด้วย แต่คนที่แบกตระกร้ามาแบบนี้ พวกเขาพึ่งจะเจอเป็นครั้งแรก

แต่เมื่อได้เห็นท่าทางน่าเกรงขามของเหล่านักรบพวกนี้แล้ว ผู้คนต่างก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไร ได้แต่มองสำรวจมาที่กลุ่มของเซียวเฉวียนเท่านั้นเอง

แต่น่าเสียดายที่นักปราชญ์ประเมินความสามารถของนักฆ่ามากเกินไป ไม่สิ ต้องพูดว่าประเมินความสามารถของเซียวเฉวียนต่ำเกินไป

นักฆ่าทั้งเจ็ดที่ได้ติดตามเซียวเฉวียนมา เขาก็ได้สังเกตเห็นแล้วและรู้ว่าเป็นคนจากสำนักหมิงเซียน

เพราะที่เอวของพวกเขามีตราสัญลักษณ์ของสำนักหมิงเซียนอยู่ ซึ่งเขาเคยเห็นตอนที่อยู่บนภูเขาหมิงเซียน

เรื่องที่โดนสะกดรอยตาม มีแค่เซียวเฉวียนคนเดียวเท่านั้นที่ตรวจพบ

เพราะงั้นเมื่อตอนที่เซียวเฉวียนได้บอกมู่จิ่นว่ามีคนสะกดรอยตามมา มู่จิ่นก็ยังไม่ค่อยเชื่อ

ข้ามมาถึงซินเจียง ประสาทสัมผัสของมู่จินนั้นก็ไวมาก ปกติเขาจะรู้สึกถึงลมอยู่บ้าง แต่เรื่องนี้เขากลับไม่รู้เลย

“ดูเหมือนว่า ปัญหานักฆ่าในครั้งนี้จะแก้ยากอยู่พอควร” มู่จิ่นมีสีหน้าเคร่งเครียด

จากความเข้าใจของมู่จิ่นที่มีต่อสำนักหมิงเซียน นักฆ่าพวกนี้ต้องได้รับการสั่งสิอนจากนักปราชญ์แน่ จะดูถูกไม่ได้

อาจพูดได้ว่า นักปราชญ์ตั้งใจที่จะฆ่าเซียวเฉวียนมาก

และนอกจากนี้ นักฆ่าที่นักปราชญ์อบรมมาคงมีจำนวนไม่น้อย มู่จิ่นไม่รู้จำนวนที่แน่ชัด

แต่ยังไงก็คงไม่น้อยแน่ ๆ

เมื่อคิดได้แบบนี้ ระหว่างทางที่เซียวเฉวียนเดินทางกลับต้าเว่ย นักปราชญ์ต้องจัดคนมาอีกมากแน่ เพื่อให้เซียวเฉวียนติดกับดักตัวเอง

อาจพูดได้ว่า ระหว่างการเดินทางกลับเมืองหลวงนี้ เป็นการต่อสู้ที่ยกระดับขึ้นมา

"ไอ้พวกนักปราชญ์จองหอง" เซียวเฉวียนด่าสาปแช่ง

เซียวเฉวียนเคยพูดแล้วว่าให้นักปราชญ์อยู่อย่างสงบ แต่นักปราชญ์คิดจะกลับฆ่ามาเซียวเฉวียน

ไม่มีสัจจะในสงครามสินะ

ดูเหมือนว่า เซียวเฉวียนต้องหาวิธีกำจัดนักฆ่าพวกนี้ เพื่อยั่วยุท่านผู้เฒ่านั้นให้กระสับกระส่าย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย