ที่นี่มีคนไม่มาก แต่หลังจากที่เซียวเฉวียนเข้ามา คนของพวกเขาก็ถือเป็นครึ่งหนึ่งของโรงเตี๊ยม
ทำให้โรงเตี๊ยมคึกครื้นขึ้นมาก
ทั้งยี่สิบกว่าคนเข้ามาพร้อมๆกัน อีกทั้งโย่วควนยังได้สั่งอาหารตามความชอบของเซียวเฉวียนอีก เขาได้สั่งเมนูแนะนำของร้านนี้มาทั้งหมด
พูดได้เลยว่า ไม่แพงโย่วควนไม่สั่ง
และแต่ละอย่างก็สั่งมาสี่ชุด
นี่เป็นลูกค้ารายใหญ่เลยนะ
เพื่อเอาใจลูกค้ารายใหญ่นี้ เจ้าของร้านจึงได้ออกมาให้บริการด้วยตัวเอง เขาเติมชาให้กับเซียวเฉวียนและคนอื่นๆอย่างกระตือรือร้น
มู่จิ่นนั่งอยู่ข้างๆเซียวเฉวียนและเซียวเฉวียนก็ได้กระซิบกับมู่จิ่นว่า “ดูสิ ในสมัยโบราณคนมีเงินเท่านั้นที่ถือเป็นนาย”
“ไม่ใช่อย่างนั้น” มู่จิ่นพูดเสริมอีกว่า “รอให้ข้าถึงเมืองหลวงต้าเว่ยก่อน ข้าจะเปิดร้านอาหารตรงข้าม ไม่ก็ข้างๆเจ้า ข้าต้องสร้างรายได้”
"ข้าจะต้องเป็นคนใหญ่คนโตให้ได้" มู่จิ่นหัวเราะ
“ได้สิ ยังไงซะเจ้าก็ตามข้ามาแล้ว เงินที่เจ้าหามาได้ก็ต้องเป็นของข้าอยู่ดี มีคนช่วยหาเงินเพิ่มอีกทางก็ดี” เซียวเฉวียนยิ้ม
"เซียวเฉวียน ท่านยังมีศีลธรรมอยู่บ้างไหม?" มู่จิ่นประท้วงขึ้น
แน่นอน มู่จิ่นต้องรู้อยู่แล้วว่าเซียวเฉวียนแกล้งเขาเล่น
เซียวเฉวียนครอบครองความมั่งคั่งจากเว่ยเชียนซิว แค่นี้ก็สามารถทำให้เซียวเฉวียนร่ำรวยได้ แล้วเซียวเฉวียนจะมาสนใจเงินน้อยๆของมู่จิ่นนี้งั้นหรือ
"ฮ่าฮ่าๆ จริงๆก็มีอยู่ แต่ตอนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเจ้าก็ไม่มีแล้ว" เซียวเฉวียนยิ้มอย่างมีเลศนัย
"..." มู่จินพูดไม่ออก เขาได้แต่มองเซียวเฉวียน
ในเวลานี้ อาหารก็ขึ้นโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
เมื่อมองไปที่อาหารร้อนๆบนโต๊ะนั้น ท้องของเซียวเฉวียนก็มีเสียง" ฮึดฮัด"
เซียวเฉวียนก็ไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองยังไง สุดท้ายเขาก็หยิบตะเกียบขึ้นมาเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากที่เขาหยิบเนื้อเข้าปากแล้วชิ้นหนึ่ง ก็เห็นว่าทุกคนกำลังจ้องมองมาที่เขาอยู่ เซียวเฉวียนพูดขึ้น “กินสิ มองข้ากันทำไม?”
พูดจบ เซียวเฉวียนก็คีบเนื้ออีกชิ้นเข้าปาก
แม้ว่าจะสู้ที่เขาทําไม่ได้แต่มันก็ถือว่าอร่อยอยู่
ได้ยินเซียวเฉวียนพูดอย่างนั้นแล้ว ทุกคนก็เริ่มเพลิดเพลินในการกินอาหาร
ในตอนแรก คนเหล่านี้ยังสามารถอดทนอยู่ได้ ภาพลักษณ์ของพวกเขามั่นคงมาก พวกเขาก็ใจเย็นไม่ได้แล้ว
พูดตามตรง อาหารของที่นี่มันอร่อยจริงๆ
หลังจากผ่านหมู่บ้านนี้ไปก็จะไม่มีร้านอาหารแบบนี้อีก อาหารอร่อยขนาดนี้ ทุกคนก็ย่อมกินมากขึ้นเป็นปกติ
ดังนั้น ทุกคนก็เริ่มกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ไม่นาน อาหารบนโต๊ะก็เกลี้ยง แม้แต่น้ำซุปอะไรก็ไม่เหลือ
มองดูเหมือนแล้วกับผีที่หิวโหย
หลังจากที่เซียวเฉวียนกินอิ่มแล้ว ก็ออกเดินทางต่อขณะที่ฟ้ายังไม่มืด
ในเวลานี้ ท้องถนนก็มีผู้คนเพิ่มมากขึ้น
ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมามองไปที่ตระกร้าสองใบในร้าน พวกเขาต่างก็ประหลาดใจ ความประหลาดใจทั้งหมดนี้ก็ปรากฏขึ้นอยู่บนใบหน้าของเขา
พวกเขาทั้งหมดก็มองไปที่เซียวเฉวียนราวกับกำลังมองคนที่โง่เขลา
มีคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “คนมากขนาดนี้มีตระกร้าเพียงสองใบ บ้าหรือเปล่า?”
แม้ว่าคนคนนี้จะพูดจาไม่ค่อยน่าฟัง แต่มันก็เป็นความในใจของผู้คนมากมายที่ผ่านไปผ่านมา ต่างก็คิดแบบนี้กันทั้งนั้น
เมื่อออกจากบ้าน ต่างก็จะพบกับผู้คนที่พกเงินทองและสมบัติมากมายไปด้วย แต่คนที่แบกตระกร้ามาแบบนี้ พวกเขาพึ่งจะเจอเป็นครั้งแรก
แต่เมื่อได้เห็นท่าทางน่าเกรงขามของเหล่านักรบพวกนี้แล้ว ผู้คนต่างก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไร ได้แต่มองสำรวจมาที่กลุ่มของเซียวเฉวียนเท่านั้นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...