ครั้นได้ยินว่าอวิ๋นเฮ่อยังอยู่ในเมืองหลวง เหมิงเอ้าก็พลันตื่นเต้นขึ้นมา “อะไรนะ ตาเฒ่านั่นยังอยู่ที่เมืองหลวงอย่างนั้นหรือ?”
กระทั่งคนที่มีความคิดเรียบง่ายเช่นเหมิงเอ้านี้ พอได้ยินว่าอวิ๋นเฮ่อยังอยู่ในเมืองหลวง เหมิงเอ้าก็คิดเหมือนกันว่า อวิ๋นเฮ่อคงจะรอเซียวเฉวียนอยู่สินะ
ต้องการทำให้เซียวเฉวียนเสียประโยชน์
ตาเฒ่าผู้นี้!
“ถ้าเช่นนั้นเขาหลบอยู่ที่ใด?” เหมิงเอ้ากระแอมไอพลางสอบถามต่อ
ขอเพียงมีคนที่ทำให้เซียวเฉวียนเสียประโยชน์ เหมิงเอ้าก็ไม่อาจปล่อยคนผู้นั้นไปได้
เขาจะต้องลากตัวอวิ๋นเฮ่อออกมา ต่อให้สังหารอวิ๋นเฮ่อไม่ได้ เหมิงเอ้าก็จะต้องไล่เขาออกจากเมืองหลวง
ชิงหลงหัวเราะพลางมองเหมิงเอ้าครั้งหนึ่ง เจ้าตุ๊กตาน้อยตัวนี้ช่างปกป้องนายเสียเหลือเกิน
แต่ว่า ชิงหลงไม่มีทางบอกเหมิงเอ้าหรอกว่าอวิ๋นเฮ่ออยู่ที่ใด
ไม่ใช่เพื่อสิ่งใด แต่ชิงหลงทำก็เพื่อปกป้องเหมิงเอ้า
ชิงหลงรู้สึกว่าตอนนี้เหมิงเอ้ายังไม่ใช่คู่ต่อกรของอวิ๋นเฮ่อ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เหตุใดจะต้องเอาตัวเองไปสังเวยอย่างไม่มีความหมายด้วย?
ยิ่งไปกว่านั้น ชิงหลงยังคุมตัวอวิ๋นเฮ่อเอาไว้ อีกฝ่ายก่อคลื่นลมอะไรไม่ได้หรอก ไม่เพียงพอให้ต้องกลัวด้วยซ้ำ
ดังนั้น เพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน ชิงหลงจึงเอ่ยเสียงเบาว่า “ข้าไม่แน่ใจว่าเขาซ่อนตัวอยู่ที่ใด”
ความหมายอื่นในคำพูดของชิงหลงก็คือเขาจะไม่บอกเหมิงเอ้าหรอก
แต่เหมิงเอ้าฟังความหมายในคำพูดนี้ออก
“เฮอะ!”
เหมิงเอ้าแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง ก่อนจะนั่งลงด้วยความโมโหแถมยังถลึงตาใส่ชิงหลงครั้งหนึ่ง
ผ่านมาจนป่านนี้แล้ว ชิงหลงยังปกป้องตาเฒ่าอย่างอวิ๋นเฮ่อผู้นี้อยู่อีก
แต่ว่า ท่านบรรพบุรุษอย่างชิงหลงไม่คิดอยากเอ่ยปาก เหมิงเอาเองก็ทำอะไรเขาไม่ได้ ดังนั้นเหมิงเอ้าจึงทำได้แค่อัดอั้นใจเท่านั้น
“เหมิงเอ้า บรรพบุรุษคิดอยากช่วยเจ้า นี่เจ้ารู้หรือไม่?” เซียวเฉวียนเห็นสีหน้าอัดอั้นไม่ยินดีของเหมิงเอ้าแล้ว ก็เอ่ยปากอย่างอารมณ์เสีย
เหมิงเอ้าตะลึงไป เขาคิดไม่ตกว่าชิงหลงจะช่วยเขาได้อย่างไร
เซียวเฉวียนอดส่ายหัวพลางเอ่ยต่อไม่ได้ “เจ้ารู้สึกว่าเจ้าสู้กับอวิ๋นเฮ่อได้กระนั้นหรือ?”
คำพูดประโยคนี้เอ่ยถามจนเหมิงเอ้าตะลึงชัดเจน เขาก็คงไม่อาจจะสู้อวิ๋นเฮ่อได้จริงๆ
ความคิดอ่านของเหมิงเอ้าจะอย่างไรก็เรียบง่ายอยู่แล้ว ความหมายที่เห็นได้ชัดของชิงหลงแบบนี้เขายังคิดไม่เข้าใจ
ก่อนหน้านี้เซียวเฉวียนกำชับเหมิงเอ้าตลอดว่าหากมีเวลาว่างก็ร่ำเรียนกับไป๋ฉี่ให้มันมากหน่อย การศึกษาช่วยเปิดปัญญาให้คนได้
เหมิงเอ้ากลับรั้นไม่ฟัง แถมยังพูดว่าการอ่านหนังสือนั้นทำให้ง่วงงุน เขาไม่ได้เกิดมาเพื่ออ่านหนังสือ
หากให้เหมิงเอ้าร่ำเรียน ก็คล้ายจะเอาชีวิตของเหมิงเอาก็ไม่ปาน
ด้วยความจำใจอย่างที่สุด เซียวเฉวียนจึงทำได้แค่ล้มเลิกความคิดที่จะให้เหมิงเอ้าเรียนหนังสือไปชั่วคราว
ในยามนี้ เซียวเฉวียนยิ่งรู้สึกขึ้นเรื่อยๆ ว่าจำเป็นต้องให้เหมิงเอ้าร่ำเรียนเสียแล้ว เขารู้สึกว่าไม่อาจจะให้เหมิงเอ้าเติบโตเป็นคนป่าเถื่อนโอหังไปกว่าเดิม
เซียวเฉวียนจำเป็นต้องแสดงท่าทีสักหน่อย
ดังนั้นแล้ว เซียวเฉวียนจึงเอ่ยอย่างจริงจังเข้มงวดว่า “เหมิงเอ้า นับแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ทุกวันเจ้าต้องแบ่งเวลามาหนึ่งชั่วยามเพื่อร่ำเรียนเขียนอ่าน ห้ามขี้เกียจเด็ดขาด”
พอเหมิงเอ้าได้ฟัง สีหน้าของเขาก็ซีดทันที ฮือๆๆ นายท่านรังเกียจที่เขาโง่อย่างนั้นหรือ?
ฮือๆๆ นายท่านรังเกียจเขาแล้ว...
ครั้นได้ฟังความในใจของเหมิงเอ้า เซียวเฉวียนก็รู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
หากปล่อยไว้ในจีน เหมิงเอ้าต้องเป็นเด็กดื้อชนิดที่ทำให้ผู้ปกครองปวดหัวเรื่องการเรียนแน่
แต่ว่า ครั้งนี้เซียวเฉวียนตัดสินใจมั่นแล้วว่าจะให้เหมิงเอ้าร่ำเรียนรู้หนังสือ เซียวเฉวียนจึงต้องฝืนทำใจแข็งทำตัวดุเอ่ย “เรียนให้มากหน่อย แล้วเจ้าจะทำหลายเรื่องได้ดีขึ้น”
คำพูดนี้คล้ายกำลังชมเหมิงเอ้า เหมิงเอ้าชอบฟัง
ในเมื่อเซียวเฉวียนเอ่ยปากเช่นนี้ เช่นนั้นเหมิงเอ้าก็จะเรียนแล้ว
เหมิงเอ้าพยักหน้าเอ่ย “เอาละ ข้าฟังนายท่าน”
พอเอ่ยคำพูดจบแล้ว เหมิงเอาก็ใช้สายตาโอดครวญมองเซียวเฉวียนครั้งหนึ่ง
เซียวเฉวียนตัดสินใจเมินเฉยสายตาเช่นนี้ของเหมิงเอ้า เขาพยักหน้าเอ่ยอย่างพอใจ “รู้ตัวสักหน่อยก็ดี ข้าจะตรวจการบ้านเจ้าเป็นระยะ”
ความหมายในคำพูดนี้ก็คือ เหมิงเอ้าเจ้าไม่มีโอกาสจะขี้เกียจ
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เซียวเฉวียนอยากจะให้เหมิงเอ้าร่ำเรียนเพื่อเปิดปัญญา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...