ฤดูหนาวนี้ยังไม่ได้ผ่านไป หนาว พวกเขายังรู้สึกว่าปกติ
แต่มันร้อนขนาดนี้ ทั้งร้อนทั้งหนาวสลับกันไปนี้ คนทั้งจวนจางจึงรู้สึกว่าเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก
แต่พอพวกเขามองออกไปข้างนอกก็ไม่เห็นมีอะไรแปลกประหลาด
ท้องฟ้ายังคงเหมือนเดิม ยังคงมืดมน และยังฝนตกอยู่อย่างงั้น
พวกเขาไม่รู้เลยว่าเซียวเฉวียนและชิงหลงกำลังรบกันครั้งใหญ่อยู่เหนือหัวของพวกเขา พูดให้ถูกคือตราจูเสินกับชิงหลงทำศึกอยู่
บางคนถึงกับลุยฝนเดินออกไปมองดูที่กลางลานบ้าน แต่ก็ยังไม่พบมีคนกำลังก่อความวุ่นวายในบริเวณของจวนจางอยู่
ความร้อนนี้ยิ่งมายิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
อากาศร้อนจะค่อยๆยืดยาวนานขึ้นกว่าลมเย็น
ในฤดูหนาวผู้คนจะสวมเสื้อผ้าหนาอยู่แล้ว
ตอนนี้มาถูกความร้อนมาอบเข้า ผู้คนในจวนจางต่างก็ร้อนจนเหงื่อออก แม้แต่ฝ่ามือก็เปียกโชก
นี่มันผิดปกติเอามากเลยนะเนี่ย
ผ่านไปไม่นาน คนในตระกูลจางยังต้องถอดเสื้อผ้าออก
นี่จะเข้าสู่ฤดูร้อนในพริบตาแล้วหรือ ?
พวกเขาเคยได้ยินเรื่องหิมะตกในเดือนหก ทั้งสี่ฤดูกาลเป็นเหมือนฤดูใบไม้ผลิก็เคยได้ยิน แต่พวกเขาไม่เคยได้ยินว่าฤดูหนาวที่ร้อนอย่างในฤดูร้อน
ผู้สูงอายุบางคนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "ไม่เคยได้เจอเลย"
ในทั้งชีวิตที่ยืนยาวของพวกเขา นี่เป็นครั้งแรกที่เผชิญกับสภาพอากาศที่แปลกประหลาดที่สุดเช่นนี้
เรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นทุกปี แต่ปีนี้มากผิดปกติที่สุด และทำให้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดน่ากลัวด้วย
คนโบราณนับถือเกรงกลัวเทพเจ้า
ในความเข้าใจของพวกเขา สิ่งแปลกๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในโลกมักเป็นเพราะผู้คนได้ทำสิ่งที่ทำให้เทพเจ้าขุ่นเคือง
ดังนั้นนี่คือเทพเจ้าที่กำลังกล่าวโทษชาวโลก และลงโทษชาวโลก
เดิมทีเรื่องที่ว่าวิญญาณกองทัพตระกูลเซียวห้าหมื่นดวงกลับมาที่เมืองหลวงก็ทำให้ทุกคนในเมืองหลวงตื่นตระหนกพออยู่แล้ว พวกกลุ่มคนร้ายก็ระวังตัวแทบตาย
ตอนนี้ยังมีเหตุการณ์ฤดูหนาวร้อนอย่างกะฤดูร้อนโผล่มาอีก
ไอ้ยา เทพเจ้าโกรธมากแล้วเที่ยวนี้
ตอนนี้ พ่อบ้านที่ออกไปทำธุระกลับเข้ามาพอดี ขณะถอดเสื้อกันฝนที่ยังมีน้ำหยดอยู่ก็พึมพำว่า “โอ้ เมื่อกี้ข้างนอกหนาวนะ ทำไมกลับมาถึงจวนแล้วร้อนขนาดนี้ ?”
“พวกเจ้ารู้สึกร้อนไหม ?” คำนี้ยังไม่ทันจะพูดออกไป พ่อบ้านก็ได้คำตอบจากบนใบหน้าของพวกเขาแล้ว
คนพวกนั้น มีใครบ้างที่เหงื่อไม่หยดติ๋งๆ ?
ทีแรกพ่อบ้านยังสงสัยว่าตัวเองจะมีไข้หรือว่าเดินทางรีบร้อนเกินไปจึงรู้สึกร้อน
เมื่อมองดูตอนนี้ พ่อบ้านก็อดประหลาดใจไม่ได้ เห็นคนเหล่านี้แต่ละคนถอดเสื้อผ้าออกไปบ้างแล้ว และยังดูมีเหงื่อออกเต็มหน้าด้วย
มันร้อนขนาดนั้นเลยหรือ ?
“พวกเจ้าอยู่แต่ในจวนทำไมก็ร้อนขนาดนี้หรือ ?“ พ่อบ้านถามด้วยความสงสัย
หือ ฟังพ่อบ้านพูด หมายความว่าข้างนอกไม่ร้อนหรือ ?
เพื่อให้แน่ใจ หนึ่งในนั้นถามว่า "พ่อบ้าน ข้างนอกมันไม่เหมือนกันหรือ ?"
พ่อบ้านส่ายหัว
เพิ่งจะกลับมา พ่อบ้านก็ร้อนจนต้องถอดเสื้อผ้าออกเหมือนกัน
ขณะที่เขาถอดเสื้อผ้าออก พลางพูดว่า "อากาศมืดครึ้มและยังฝนตก จะร้อนอย่างนี้ได้อย่างไร "
พอได้ยินพ่อบ้านพูดอย่างนี้ คนกลุ่มนี้ทุกคนก็อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้
พวกเขาอธิบายเหตุการณ์ตอนเริ่มต้นให้พ่อบ้านฟัง พ่อบ้านฟังจนตกตะลึงงงงัน จนพ่อบ้านใช้เวลานานกว่าสติกลับมา
ถ้าอย่างงั้น เฉพาะแค่จวนจางที่อากาศเปลี่ยนสภาพไปอย่างแปลกประหลาดงั้นหรือ ?
เรื่องนี้ไม่ว่าจะมองดูยังไงก็ดูพิลึกกึกกือ !
แต่ตอนนี้ จางจิ่นไม่อยู่ในจวน พ่อบ้านจะรายงานสถานการณ์ก็ไม่รู้จะไปรายงานที่ไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...