บทที่ 1164 แสร้งมึนงงถึงที่สุด – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1164 แสร้งมึนงงถึงที่สุด จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
"ใต้เท้าเจี้ยนกั๋ว ข้าไม่เคยเห็นทรัพย์สมบัติอะไรที่ท่านว่าเลย" เซียวเฉวียนเอ่ยวาจาชัดถ้อยชัดคำ
สรุปก็คือ เงินทองนั้นเข้ากระเป๋าเซียวเฉวียนไปแล้ว คิดอยากให้เซียวเฉวียนหยิบออกมานั้นเป็นไปไม่ได้
อย่าพูดว่าครึ่งหนึ่งเลย กระทั่งเหรียญเดียวก็ไม่ได้!
เมื่อได้ยินคำพูดของเซียวเฉวียน เว่ยเชียนชิวยากจะอดทนต่อความโมโหที่ตีขึ้นมาได้อีก เขาถลึงตามองเซียวเฉวียนด้วยความโกรธพลางเอ่ย "เซียวเฉวียน ข้าดีด้วยเจ้ากลับไม่ดีตอบ! นั่นควรเป็นของข้า ควรเป็นของข้า เจ้าเก็บไปได้อย่างนั้นหรือ?"
จวนเจี้ยนกั๋วถูกเผาก็เพราะเซียวเฉวียน แถมคนของเซียวเฉวียนยังเผาเรือนหลักอีก ในยามนี้เขาหาเรื่องยังตามมาหาเรื่องคนของจวนจางอีก
นี่เซียวเฉวียนจะรังแกกันมากไปแล้ว!
เว่ยเชียนชิวไม่เชื่อว่าเซียวเฉวียนจะกระทำเรื่องรอบคอบจนไม่มีจุดอ่อนใด!
สำนักศึกษาชิงหยวน จวนเซียว หอปี้เซิ่ง บ่อนพนัน จวนอี้ จวนจ้าว แล้วยังมีจวนฉิน สถานที่พวกนี้ล้วนแต่เกี่ยวพันกับเซียวเฉวียน เว่ยเชียนชิวไม่เชื่อว่าเซียวเฉวียนจะมีสามเศียรหกกร สามารถควบคุมทุกอย่างได้!
ในเมื่อเซียวเฉวียนยังดื้อดึงไม่เลิก เช่นนั้นเขาก็จะรอดูเถอะ!
เมื่อได้ยินเสียงของเว่ยเชียนชิว เซียวเฉวียนก็แค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง เขาเอ่ยปากอย่างเย็นชา "พยายามเล่นลูกไม้ต่อไปเถอะ ข้าจะอยู่เล่นด้วยจนวาระสุดท้ายเอง!"
เดิมทีเว่ยเชียนชิวเอ่ยวาจารุนแรงเช่นนี้ เขาคิดว่าอย่างน้อยเซียวเฉวียนคงเกิดความระแวงไม่มากก็น้อย แต่จะอย่างไรก็คิดไม่ถึงเลยว่า เซียวเฉวียนจะไร้ความหวาดกลัวแถมยังเอ่ยปากอย่างโอหังได้เช่นนี้
ในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่เว่ยเชียนชิวจะเอาเงินทองทรัพย์สมบัติของตัวเองกลับมาไม่ได้ เขายังโมโหเซียวเฉวียนจนยากระงับอีกด้วย
เพราะหลังจากที่เซียววียนเอ่ยคำพูดประโยคนั้นจบ ท่ามกลางสายตาโกรธเคืองของเว่ยเชียนชิว เขาก็จากไปโดยที่ไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตาเลย
เหลือเพียงเว่ยเชียนชิวที่อยู่บนหลังคาเรือนเพียงผู้เดียว
สิ้นเปลืองเรี่ยวแรงแต่ไร้ประโยชน์ไปรอบหนึ่งก็ช่างเถอะ ที่สำคัญก็คือการอุปกรณ์ลงแรงของเว่ยเชียนชิวก็พังไปด้วย เขายิ่งคิดก็ยิ่งโมโหจนทนไม่ไหวต้องคำรามด้วยความโกรธครั้งหนึ่ง “เซียวเฉวียน!”
เสียงคำรามเสียงนี้พุ่งเป้าไปยังท้องฟ้าเหนือจวนจาง สั่นสะเทือนทุกคนในจวนจางจนหวั่นเกรงไปหมด
พวกเขาต่างฟังออกหมดแล้ว ว่านี่คือเสียงคำรามด้วยความโมโหของเว่ยเชียนชิว
กว่าที่บรรยากาศจะกลับมาเป็นปรกตินั้นยากนัก แถมยังต้องปะทะกับการระเบิดโทสะของเว่ยเชียนชิวอีก เหล่าคนรับใช้ของจวนจางล้วนแต่มีสีหน้าอมทุกข์แล้ว
เมื่อครู่ คนของจวนจางได้ยินเสียงระเบิดกันถ้วนแล้ว
แต่ว่าคนของจวนจางไม่ได้คิดอะไรมากมาย ต่างคิดว่าเป็นเสียงฟ้าผ่า
ดังนั้นแล้ว พอพ่อบ้านได้ฟังเสียงคำรามของเว่ยเชียนชิวเขาก็รีบร้อนกลับไป
พ่อบ้านเห็นว่าพื้นนั้นเปียกชื้น น้ำฝนยังคงไหลลงมาไม่หยุด
นี่ เขาเพิ่งจะซ่อมหลังคาเรือนไม่นาน ก็น้ำรั่วปานนี้แล้วหรือ?
พ่อบ้านเงยหน้าขึ้นมา ยามที่เห็นรูโหว่ขนาดยักษ์ด้านบนนั้น เขาก็อดตกตะลึงไม่ได้
นี่...โดยฟ้าผ่าหรืออย่างไร?
“ใต้เท้าเจี้ยนกั๋ว ใต้เท้าเจี้ยนกั๋ว?” พ่อบ้านไม่เห็นเว่ยเชียนชิวอยู่ในห้อง เขาก็ได้แต่ตะโกนด้วยอาการอกสั่นขวัญหาย
เมื่อได้ยินเสียงพ่อบ้านตะโกนเรียกเว่ยเชียนชิว เว่ยเชียนชิวก็ใช้พลังภายในอบจนเสื้อผ้าและเส้นผมของตัวเองแห้ง หลังจากนั้นเขาก็ม้วนตัวกระโดดลงมาจากบนฟ้า เว่ยเชียนชิวยืนแผ่บารมีเย็นเยียบต่อหน้าพ่อบ้าน เขาเอ่ยด้วยคำพูดเย็นชา “หาคนมาซ่อมหลังคาเรือนด้วย”
พ่อบ้านแหงนหน้ามองช่องโหว่ที่อยู่ด้านบนนั้นหนึ่งครั้ง เขาพยักหน้าเอ่ย “ผู้น้อยรับคำสั่ง”
กล่าวแล้ว พ่อบ้านก็ถอยหลังไปอย่างสงสัย
เมื่อครู่พ่อบ้านได้ยินเว่ยเชียนชิวเรียกชื่อเซียวเฉวียนชัดๆ หรือว่าเซียวเฉวียนมาที่นี่อย่างนั้นหรือ?
หรือว่ารูนี้เป็นสิ่งที่เซียวเฉวียนเป็นคนทำอย่างนั้นหรือ?
พ่อบ้านอยากจะถามเหลือเกิน ทว่าเขาเห็นใบหน้าเย็นยะเยียบทะมึนของเว่ยเชียนชิว เขาก็ไม่กล้าเอ่ยปากพูดแล้ว
ชีวิตน้อยๆ สำคัญนัก พวกเราอย่าได้ถามมากเกินไปจะดีกว่า
คิดๆ แล้ว พ่อบ้านก็จัดการมอบหมายเรื่องการซ่อมหลังคาต่อไป
หลังจากที่พ่อบ้านจากไปแล้ว เว่ยเชียนชิวนอนหลับตาอยู่บนเก้าอี้ราชครูด้วยท่าทีเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ
พูดว่าปิดตาพักผ่อนนั้นเป็นเพียงแค่การทำไปผ่านๆ เท่านั้น
นับตั้งแต่ที่หลังคาห้องถูกระเบิด นับตั้งแต่ที่ได้พบเซียวเฉวียนกับชิงหลงนั้น ภายในใจของเว่ยเชียนชิวก็ไม่สงบมาตลอด
ครั้งนี้ที่เซียวเฉวียนกลับมาจากซินเจียง เว่ยเชียนชิวก็รู้สึกได้ชัดเจนว่าความสามารถของเซียวเฉวียนเพิ่มพูน ทั้งร่างของเซียวเฉวียนเผยจิตสังหารที่ไม่อาจจะละเลยได้ แถมยังมากยิ่งกว่าก่อนหน้านั้นอีก
“เฮยหลัง!” พอเว่ยเชียนชิวคิดจะทำก็ทำเลย เขาตะคอกเสียงเย็น
เฮยหลังออกมาหลังได้ยินเสียง เขารีบซ่อนสายตาที่แอบมองเว่ยเชียนชิวพลางทำความเคารพเขาแล้วเอ่ย “ใต้เท้าเจี้ยนกั๋ว ผู้น้อยอยู่!”
พูดแล้วประหลาดยิ่ง ครั้งที่แล้วเฮยหลังระเบิดจวนเซียวไม่สำเร็จ ตัวเรือนหลักของเว่ยเชียนชิวดันระเบิดเสียเอง เว่ยเชียนชิวดันไม่ระเบิดอารมณ์ได้อย่างเหนือคาด
กระทั่งวาจาบริภาษสักประโยคยังไม่มีเลย
เว่ยเชียนชิวเองไม่เคยหยิบยกเรื่องพวกนี้ขึ้นมาก่อน คล้ายกับว่าเรื่องพวกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกระนั้นละ
เว่ยเชียนชิวที่ผิดปรกติเช่นนี้ ทำเอาเฮยหลังจิตใจหวั่นไหว ไม่สงบ
เฮยหลังรู้สึกว่าเว่ยเชียนชิวคงจะต้องแอบซ่อนบทลงโทษทารุณบางอย่างสำหรับพวกเขาไว้แน่
ดังนั้นแล้ว การเรียกหาของเว่ยเชียนชิวอย่างกะทันหันเช่นนี้ ทำเอาเฮยหลังหวาดผวาและรู้สึกหวาดเสียวเป็นอย่างมาก
เขาเกรงว่าเว่ยเชียนชิวจะหยิบยกเรื่องเก่าขึ้นมาพูด เขาเกรงว่าเขาจะสู้แรงกดดันของเว่ยเชียนชิวไม่ได้จนต้องเล่าต้นสายปลายเหตุอะไรทั้งหมดออกไป
หากว่าเว่ยเชียนชิวรู้ว่าเฮยหลังทำธุระเรื่องนี้ไม่เรียบร้อย ทราบเรื่องแต่ไม่รายงาน เว่ยเชียนชิวจะต้องสังหารเฮยหลังแน่
ครั้งนี้ เฮยหลังกลับคิดมากไปแล้ว เว่ยเชียนชิวไม่พูดเรื่องระเบิดจวนเซียวเลยสักคำ เขากำชับอีกฝ่ายเสียงเย็นชา “นับจากเวลานี้ไป เจ้าส่งคนไปคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวทุกอย่างของคนในจวนเซียวอย่างเข้มงวดเป็นการลับ ทุกๆ รายละเอียด ทุกอย่างอย่าให้หลุดรอด!”
เมื่อได้ยินว่าเว่ยเชียนชิวไม่ได้คิดบัญชีย้อนหลัง เฮยหลังก็แอบผ่อนลมหายใจเบาๆ ออกมาไม่ได้ เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใส “ขอรับ! ข้าน้อยรับคำสั่ง!”
เฮยหลังรับคำสั่งแล้วถอยหลังไป
...
...
จวนเซียว
ตอนที่เซียวเฉวียนกลับมาถึงจวนเซียวนั้น สวีซูผิงกับจ้าวหลานก็เร่งมาถึงในเวลาเดียวกัน
ทั้งสามคนต่างได้พบหน้ากันตรงประตูจวนเซียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...