ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1170

หลังจากกลอกตาใส่ให้งามๆ ครั้งหนึ่งแล้ว เซียวจิ่วก็รู้สึกจับต้นชนปลายไม่ถูกเป็นที่สุด แต่เขาก็รู้ว่าตัวเองทำเรื่องผิดเข้าให้แล้ว เขาไม่กล้าส่งเสียงใดๆ ทำได้แต่ยอมรับอย่างเงียบๆ

ฉากนี้พอเซียวเฉวียนได้เห็นเข้า ภายในใจของเขาก็แอบหัวเราะครั้งหนึ่ง

ของสิ่งหนึ่งย่อมชนะอีกอย่างได้จริงๆ!

สีหน้าของเซียวเฉวียนกลับดูเรียบสนิท เขาเอ่ยว่า “ท่านยายพูดแรงไปแล้วขอรับ”

มันจะไปมีเรื่องลำบากหรือไม่ที่ไหน

แต่ก็ล้วนทำไปเพื่อปกป้องชีวิตตนเองทั้งนั้น

สภาพแวดล้อมในต้าเว่ยลำบากยากแค้น หากว่าเซียวเฉวียนไม่พัฒนาตนเองขึ้นมา เช่นนั้นก็ได้แต่รอความตาย แถมยังเป็นความตายแบบไม่ดีทำนองนั้นด้วย

ยากนักกว่าจะมาเกิดได้สักรอบ เซียวเฉวียนไม่อาจจะให้ตัวเองตายไปอย่างเงียบงันเช่นนี้ได้

จะอย่างไรก็ตาม มีแค้นก็ต้องชำระ มีความอัดอั้นใดก็ต้องสะสาง มีชีวิตอยู่อย่างสนุกสนานใจในโลกแห่งบุญคุณความแค้นนี้สักชาติ ถึงได้ถือว่ามาเกิดครั้งนี้คุ้มค่า

ยากนักที่คนที่พานพบเรื่องราวนับพันมาอย่างเซียวเฉวียน จะเกิดการบรรลุแจ้งและเข้าใจกระจ่างถึงเรื่องราวปานนี้ เมื่อเทียบไปแล้ว สถานการณ์ของเซียวเฉวียนเห็นได้ชัดว่าถูกบีบคั้นจนแทบไม่ไหว

เซียวจิ่วนั้นจิตใจทั้งดวงเอาแต่คิดถึงตระกูลเซียวของพวกเขาที่ชานเมืองหลวง ไม่ได้สนใจสถานการณ์บ้านเมืองตนเองสักนิด

เมื่อเห็นเซียวเฉวียนค่อยๆ ช่วยเหลืองานฮ่องเต้จนค่อยๆ พลิกฟื้นตัวมาได้ ค่อยๆ เสริมพระราชอำนาจให้แข็งแกร่งและช่วยให้ต้าเว่ยค่อยๆ เดินไปอย่างถูกทางเช่นนี้

เขาก็ไม่รู้จะเปรียบเทียบและไม่รู้จะเก่งกาจอย่างไรดี

จากตรงสถานการณ์แค่นี้ เซียวจิ่วก็นับว่าค่อนข้างด้อยกว่าเซียวเฉวียนมาก กระทั่งคุณสมบัติจะถือรองเท้าให้เซียวเฉวียนยังไม่มีเลย

หากว่าเซียวเฉวียนได้ยินคำพูดภายในใจของท่านยายนี้ เซียวเฉวียนก็คงต้องถอนหายใจสักรอบหนึ่งว่าคนผู้นี้คือย่าแท้ๆ ของเซียวจิ่วแท้จริงไม่ผิดแน่

ยามนี้เซ๊ยวเฉวียนก็คือลูกของคนบ้านอื่น และเป็นลูกดีเด่นของคนบ้านอื่นด้วย

ยิ่งเซียวเฉวียนเอ่ยปากแบบนี้ ท่านยายก็ยิ่งรู้สึกผิด นางอดถลึงตาใส่เซียวจิ่วครั้งหนึ่งไม่ได้

ครั้งนี้ ท่านยายไม่เพียงแค่ถลึงตาใส่เซียวจิ่ง นางยังแค่นเสียงเย็นอีกด้วย “เซียวจิ่ว ดูไปแล้วเจ้าคงรั้งอยู่ที่ชานเมืองหลวงนานไปแล้วละ ไม่ได้มีภัยอันตรายอะไรให้เจ้ากลัวสักนิด”

“เจ้าโจรกำแหงอย่างเว่ยเชียนชิวผู้นี้ครองอำนาจมานานปี เหตุใดพวกเจ้าไม่ได้บอกข้า” พอพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ความโกรธของท่านยายก็ทะยานขึ้นฟ้า “ถ้าหากว่าต้าเว่ยถูกพรรคพวกของเว่ยเชียนชิวก่อกวนจนประชาชนอยู่ไม่เป็นสุข ข้าดูซิว่าพวกเจ้าจะวางตัวอยู่วงนอกได้หรือไม่!”

“พอถึงเวลานั้น กระทั่งพวกเจ้าไม่มีกระทั่งที่จะร้องไห้ด้วยซ้ำ!” ท่านยายเอ่ยด้วยวาจาโมโหแท้จริง

เมื่อคิดถึงปีนั้น ชีวิตในชาตินี้ของนางติดตามฮ่องเต้ผู้บุกเบิกประเทศขึ้นหลังม้าหาเลี้ยงชีพ เมื่อพบศัตรูแข็งแกร่ง พวกเขาก็ไม่เคยจะกลัวมาก่อน

และเป็นเพราะจิตวิญญาณอันไร้ความหวาดกลัวนี้แหละ นางถึงสร้างต้าเว่ยขึ้นมาใหม่ได้

คิดไม่ถึงเลย เพียงเวลาสั้นๆ ไม่กี่สิบปี อนุชนรุ่นหลังของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นพวกขาดเขลาหวาดกลัวเช่นนี้ สายเลือดตระกูลเซียว เกรงว่าคงจะมีเซียวเฉวียนเพียงคนเดียวที่ยังมีจิตวิญญาณไม่ขลาดกลัวอยู่

คิดแล้ว ท่านยายก็เอ่ยเสียงเย็น “นับแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าต้องติดตามข้างกายเซียวเฉวียน แล้วเรียนรู้จุดนี้จากเขาซะ!”

ไอ้หยา!

พอได้ยินคำพูดนี้ของท่านยายแล้ว เซียวเฉวียนก็เกือบจะพ่นน้ำลายออกมา ท่านยายดูท่าจะผิดหวังกับเซียวจิ่วมากไปสักหน่อยแล้ว!

พูดจนกระทั่งเซียวจิ่วไม่กล้าหย่อนก้นนั่ง เขาได้แต่พยักหน้าอย่างว่าง่าย “ขอรับ เซียวจิ่วฟังคำพูดท่านยายขอรับ”

ภายในใจของเซียวจิ่วคิด หากรู้แต่แรกว่ามีวันนี้ เขาจะไม่เสียหน้าต่อหน้าเซียวเฉวียนหรอก ตอนแรกเซียวจิ่วควรจะรีบตอบรับคำขอของฮ่องเต้ที่ให้เขากลับเมืองหลวงเสีย

ฮือๆๆ....เขาถูกท่านยายสั่งสอนจนไม่เหลือหน้าแล้ว

ตั้งแต่เล็กจนโต เซียวจิ่วไม่เคยเสียหน้าปานนี้มาก่อน

นี่เขาสำนึกเสียใจเสียเหลือเกิน!

ท่านยายชื่นชมเซียวเฉวียนเสียแบบนี้ ภายในใจจะต้องพึงพอใจกับเซียวเฉวียนมากๆ เนแน่

เซียวจิ่วแอบเหลือบตามองเซียวเฉวียนครั้งหนึ่ง เขามองเซียวจิ่วหลังจากนั้นก็หันมามองท่านยายแล้วพูดว่า “ท่านยายระงับโทสะ เซียวจิ่ว...ท่านอาอายุยังเยาว์ ต้องฝึกฝนเคี่ยวกรำก่อน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย