สรุปเนื้อหา บทที่ 1186 ไม่ยอมให้คุกคาม – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บท บทที่ 1186 ไม่ยอมให้คุกคาม ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ว่า องค์หญิงต้าถงตายแล้ว
แต่ในความเป็นจริง นั่นเป็นภาพลวงตาที่เซียวเฉวียนสร้างขึ้น องค์หญิงต้าถงยังไม่ได้ตาย เซียวเฉวียนแอบซ่อนเธอไว้
เรื่องนี้หากให้ผู้คนรับรู้เข้า ผู้คนจะมองเซียวเฉวียนอย่างไร ?
เซียวเฉวียนปิดบังทุกคนและหยอกเล่นกับผู้คนในเมืองหลวง ต่อไปนี้จะมีใครเชื่อถือเซียวเฉวียนอีกหรือ ?
ความปรารถนาดีที่เซียวเฉวียนอุตส่าห์สร้างขึ้นในใจของทุกคน ในที่สุดจะถูกทำลายลงในพริบตา และภาพลักษณ์ของเซียวเฉวียนในใจของทุกคนก็จะดิ่งเหว
เมื่อคิดเช่นนี้ จางเคอก็อดไม่ได้ที่จะมองเซียวเฉวียนด้วยความภาคภูมิใจ ครั้งนี้ ไม่ว่าเซียวเฉวียนคิดจะปล่อยตัวจางเคอไปหรือไม่ เขาก็ต้องปล่อย
เพราะไม่มีใครที่ไม่รักศักดิ์ศรีของตัวเอง
โดยเฉพาะสำหรับคนอย่างเซียวเฉวียนที่มาจากครอบครัวยากจน มันไม่ง่ายที่จะเดินมาถึงวันนี้และได้รับการยกย่องจากทุกคน เขาจึงยิ่งต้องหวงศักดิ์ศรีของเขาให้ดียิ่งขึ้น
แต่ว่า จางเคอเหมือนจะลืมไปแล้วว่า เซียวเฉวียนนั้นแตกต่างอย่างมากจากคนแบบพวกเขา
จางเคอและพวกให้ความสำคัญกับใบหน้าและชื่อเสียงมากที่สุด แต่เซียวเฉวียนมองสิ่งพวกนั้นดั่งอาจมและดิน
เซียวเฉวียนใส่ใจแต่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตัวเอง ส่วนคนอื่นจะว่ายังไง เซียวเฉวียนไม่ติดใจทั้งนั้น
คนสมควรตายอย่างจางเคอจะเอาองค์หญิงต้าถงมาข่มขู่เซียวเฉวียนหรือ ?
เซียวเฉวียนเหลือบมองจางเคอด้วยสายตาเฉียบคม "พูดไปสิ อยากพูดอะไรก็พูดออกมาดังๆ เลย"
“ไม่มีหลักฐานเอาแต่แหกปาก อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะมีคนเชื่อเจ้าไหม” เซียวเฉวียนพูดอย่างเย็นชา
เดิมที เซียวเฉวียนยังคิดว่าจะรักษาชีวิตจางเคอสุนัขตัวนี้ไว้ก่อน แต่ไม่คิดว่าเขาดิ้นรนหาความตาย งั้นเซียวเฉวียนจะไม่ปล่อยไว้แล้ว
“เจ้า !” จางเคอกระวนกระวายใจอย่างมาก
ที่เซียวเฉวียนพูดมานั้น จางเคอก็เคยคิดมาแล้ว เขาก็ไม่คิดจะเอาเรื่ององค์หญิงต้าถงยังมีชีวิตอยู่มาแฉจริงหรอก เขาแค่จะขู่เซียวเฉวียนให้กลัวเพื่อช่วยชีวิตตัวเองเท่านั้นแหละ
แต่จางเคอไม่คิดว่า เซียวเฉวียนไม่สะทกสะท้าน ไม่ยอมให้คุกคาม
มันยุ่งยากจริงๆ
จางเคอจะต้องตกอยู่ในมือของเซียวเฉวียนแล้วหรือ ?
ไม่น่า !
จางเคอต้องดิ้นรนช่วยตัวเอง !
คิดไปคิดมา จางเคอต้องเสี่ยงครั้งสุดท้าย ตอนนี้เขาได้แต่ลองดู
เขาตะโกนขึ้นเสียงดัง "ทุกคน เงียบๆ หน่อย !"
ในที่เกิดเหตุนั้นก็เงียบลงเสียด้วย ทุกคนก็มองดูจางเคอด้วยความโกรธ เพื่อดูว่าจะมีคำพูดใดออกมาจากปากสุนัขของจางเคอ
“เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด” จางเคอรวบรัดเวลาอธิบาย “ข้ายอมรับ ข้านำขี้เถ้านี้มาจริง แต่ข้าสาบาน นี่เป็นขี้เถ้าธรรมดาแน่นอน”
“ข้ามักจะมีเลือดกำเดาไหล และการเป่าขี้เถ้าใบหญ้าเข้ารูจมูกสามารถห้ามเลือดได้ ข้าจึงพกมันติดตัวด้วย” จางเคอพูดอย่างเป็นตุเป็นตะ “เมื่อกี้ไม่ทันระวัง จึงทำขี้เถ้าหกบนแท่นเจริญเทพโดยไม่ได้ตั้งใจ”
"ข้าก็รู้ว่าที่ทำไปนั้นได้ลบหลู่วิญญาณของกองทัพตระกูลเซียว ข้าขอโทษ" พูดปั๊บ จางเคอก็โค้งคำนับอย่างเคร่งขรึมต่อหน้าแท่นเจริญเทพ "ขอร้องท่านวีรชนทั้งหลาย จงให้อภัยกับความผิดพลาดของผู้น้อยด้วยเถิด "
เซียวเฉวียนที่อยู่ด้านข้างเฝ้าดูจางเคอเล่นละครทั้งกำกับทั้งแสดงเองด้วยสายตาที่เย็นชา
ฝูงชนข้างล่างมองดูจางเคออย่างเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง ทันใดนั้นเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยก็ดังขึ้น "มีอะไรมาพิสูจน์เพื่อให้พวกเราเชื่อเจ้าได้ ?"
จางเคอรู้ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่หลอกล่อได้ง่ายๆ หน้าของเขากระตุกๆ สักพักหนึ่งจึงกล่าวว่า "ถ้าหากข้าพูดไม่จริง แถวนี้จะไม่เกิดอะไรขึ้นเลยได้ยังไงล่ะ”
เจ้ามีแผนที่แยบยล ข้าก็มีแผนการตั้งรับ
จางเคอไม่เชื่อว่าเขาจะหกคะเมนต่อหน้าของเซียวเฉวียนง่ายๆ ขนาดนี้
เอาแผนซ้อนแผนไม้นี้ จางเคอคิดเอาเองว่าใช้ได้ดีมาก มีหวังว่าจะเอาตัวรอดได้
“มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าพูดหรอก ที่นี่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะว่า อย่างแรก ข้าเก็บกวาดขี้เถ้าได้ทัน อย่างที่สอง ท่านยายเซียวและเซียวจิ่วมีพลังยอดเยี่ยมต่างหาก”
หากจะตำหนิ ต้องตำหนิจางเคอเอง ที่ผลักดันตัวเองไปหาปากกระบอกปืน
อุบัติเหตุครั้งนี้จบลงด้วยเสียงร้องถูกปรักปรำของจางเคอ
นักปราชญ์ที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดและเฝ้าดูทั้งหมดนี้อดไม่ได้ที่จะหันศีรษะ บ่งบอกว่าเขาไม่อยากดูต่อไป
ผ่านเวลาไปแค่ดื่มชาแก้วเดียว นักปราชญ์ก็เสียมือช่วยเสวียนอวี๋และจางเคอไปสองคน
กำลังต่อสู้ของเซียวเฉวียนแกร่งขนาดนี้ ทำให้การรับรู้ของนักปราชญ์ต่อเซียวเฉวียนนั้นต้องทบทวนใหม่หมด
ได้เห็นเขาในวันนี้ นักปราชญ์ถึงตระหนักว่าเซียวเฉวียนไม่ได้อ่อนหัดอย่างที่เขาลือกัน แต่เขากลับมีกำลังแข็งแกร่งเป็นที่น่าเกรงขามอีกด้วย
ต้องการสังหารเซียวเฉวียน นักปราชญ์ต้องวางแผนระยะยาว
เวลานี้ นักปราชญ์นึกถึงเว่ยเชียนชิวขึ้นมาได้
ทั่วทั้งต้าเว่ย หากพูดถึงใครที่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับเซียวเฉวียนได้ นั่นก็คือเว่ยเชียนชิว
แต่น่าเสียดายที่เว่ยเชียนชิวมีนิสัยแปลกประหลาด และยังไล่นักปราชญ์ออกจากจวนจางด้วย
ดูๆ แล้ว นักปราชญ์จะต้องหาจังหวะใหม่ ร่วมมือกับเว่ยเชียนชิวเพื่อจัดการกับเซียวเฉวียนถึงจะได้
คิดได้เช่นนี้ นักปราชญ์ก็หันตัวกลับเตรียมที่จะไปจากที่เกิดเหตุ
”เอ่อ !” ทันใดนั้น เสียงบอกถึงความเจ็บปวดก็ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า ขณะเดียวกันได้ยั้งก้าวเดินของนักปราชญ์ไว้ นักปราชญ์หันศีรษะไปมองต้นทางของเสียงอย่างแปลกใจ
หลังจากที่เซียวจิ่วคร่ำครวญอย่างเจ็บปวด ร่างกายของเขาก็กระตุกอย่างรุนแรงหลายครั้ง สีหน้าของเขาก็ขาวซีดจนน่ากลัวในพริบตา
สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ทำให้ทุกคนในที่เกิดเหตุตึงเครียด พวกเขามองเซียวจิ่วตาไม่ขยับ ด้วยสีหน้าที่ทั้งกลัวทั้งเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
หลังจากนั้นไม่นาน ร่างกายของเซียวจิ่วก็เลิกกระตุกในที่สุด เขามองไปที่เซียวเฉวียนด้วยสีหน้าหมองคล้ำและพูดว่า "นายน้อย ข้าคืออาเจิ้ง เป็นคนสุดท้ายที่ตายในกองทัพตระกูลเซียว"
ขณะที่พูด เสียงของอาเจิ้งก็ดังขึ้นเรื่อยๆ "นายน้อย จงล้างแค้นให้กับพวกเรา เว่ยเชียนชิวคือคนที่ฆ่าพวกเรา และเขาเป็นคนที่ชักแก่นเลือดระหว่างคิ้วของพวกเรา ทำให้พวกเราไปสู่สุคติไม่ได้ "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...