นับว่าโชคดีที่การส่งโทรจิตของเซียวเฉวียนนั้นสามารถส่งไปได้ไกลหลายพันเมตร
ในเมื่อผนึกจูเสินมิอาจสั่งการได้เช่นนี้ มิใช่เขายังมีบรรพบุรุษเช่นชิงหลงหรือ?
เวลาไม่คอยท่าแล้ว เซียวเฉวียนจึงได้ส่งโทรจิตหาเหมิงเอ้าในทันที: "เหมิงเอ้า เจ้าขอให้บรรพบุรุษของเรามาที่ประตูเมืองหน่อย"
“ขอรับ” เหมิงเอ้าที่รับคำและกำลังจะเอ่ยปากถามต่อนั้น “นายท่าน เกิดอะไรขึ้นที่ประตูเมืองหรือขอรับ?”
อย่างไรก็ตาม ยังมิทันทีที่เหมิงเอ้าพูดจบนั้น เซียวเฉวียนพลันตัดไปเสียก่อน
สิ่งที่รั้งรอเหมิงเอ้าอยู่จึงเหลือแต่เพียงความเงียบงันที่ไม่รู้จบเท่านั้น
นายท่านกำลังทำอันใดอยู่กันแน่ เหตุใดจึงได้รีบร้อนปานนั้น แม้แต่คำสองคำก็ยังมิอยากให้เหมิงเอ้าเอ่ยออกมาเลยหรือ
เป็นไปได้หรือไม่ว่า...นายท่านรังเกียจที่ข้าเป็นคนชอบเอ่ยเสียงดังเอะอะโวยวายเช่นนี้?
บุคคลที่มีความซื่อ ๆ เช่นเหมิงเอ้านั้น เขาคิดสิ่งใดก็มักจะเอ่ยสิ่งนั้นออกมาเช่นนี้ เมื่อจินตนาการไปถึงบุคคลที่เป็นต้นแบบของตนเองมานึกรังเกียจตัวตนของเขานั้น พลันทำให้เขารู้สึกน้อยใจเล็กน้อย
ไม่ได้การละ เหมิงเอ้าเองก็จะไปที่ประตูเมืองพร้อมกับชิงหลงเช่นกัน เพื่อถามกับนายท่านตรง ๆ เลยว่า นายท่านรังเกียจเขางั้นหรือ
หากเซียวเฉวียนล่วงรู้เข้าถึงความนึกคิดของเหมิงเอ้าแล้วนั้น เขาคงจะรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเป็นแน่ การที่ตนเองมามีคนสนิทชอบติดตามตนเองเช่นนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวไม่แพ้กันเลย
นับว่าโชคดีที่ชิงหลงหาได้ปล่อยให้เหมิงอ้าวตามเขาไปที่ประตูเมืองไม่
ชิงหลงพลางกล่าวกับเหมิงเอ้าไปว่า เขาคิดมากเกินไปแล้ว เหมิงเอ้าที่มีความสามารถโดดเด่นและเป็นถึงเสาหลักของตระกูลเซียวเช่นนี้ ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เซียวเฉวียนจักมิชอบเขา
เหมิงเอ้าที่เป็นหนึ่งในสององครักษ์ที่ยิ่งใหญ่ของเซียวเฉวียนเช่นนี้ หากไม่มีชิงหลงแล้วไซร้ เหมิงเอ้าย่อมต้องรับหน้าที่ผิดชอบในการปกป้องจวนตระกูลเซียวแทน
หากปล่อยเหมิงเอ้าติดตามชิงหลงไปด้วยนั้น หากเกิดเหตุอะไรกับตระกูลเซียวขึ้นมา พวกเขาจะมีหน้าไปเอ่ยปากอธิบายกับเซียวเฉวียนได้เช่นไร
แน่นอนว่าชิงหลงเอ่ยวาจาเกลี้ยกล่อมเหมิงเอ้าเอาไว้ หากว่าตระกูลเซียวยังคงมีเขตอาคมป้องกันของชิงหลงอยู่นั้น ย่อมมิมีผู้ใดหาญกล้าพุ่งเข้ามาโจมตีตระกูลเซียวได้
เมื่อมีภาระอันใหญ่หลวงสวมทับเข้ามาบนหัวของเหมิงเอ้าแล้วนั้น เหมิงเอ้าจึงอดมิได้ที่จะรู้สึกลอย ๆ เล็กน้อย ใช่แล้ว เขายังต้องคอยปกป้องตระกูลเซียวอยู่
ด้วยเหตุนี้ เพียงชิงหลงเอ่ยปากเกลี้ยกล่อมออกมาไม่กี่คำนั้น ก็สามารถขัดขวางมิให้เหมิงเอ้าติดตามไปด้วยในทันที พร้อมกับตนเองที่รีบตรงไปยังประตูเมืองแทน
ทางด้านของฝั่งประตูเมืองนั้น จางเคอที่ขึ้นไปเหยียบไปเตะเซียวเฉวียนเสียสองสามครั้งแล้ว ก็หาได้รู้สึกว่ามันเพียงพอไม่ เขาพลันค่อย ๆ นั่งยอง ๆ ลงมา เพื่อมองหน้าเซียวเฉวียนด้วยความรู้สึกได้ใจนั้น
ดูสิดูสิ จางเคอค่อย ๆ หยิบกริชอันแหลมคมออกมาจากแขนเสื้อของตนเอง ก่อนจะใช้มันจิ้มเข้าไปที่หัวใจของเซียวเฉวียน
“เจ้าว่า หากข้าใช้แรงแทงลงไปละก็ เจ้าจักมีโอกาสรอดชีวิตไปหรือไม่เล่า?” จางเคอพลางยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูเซียวเฉวียน ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยท่าทีภาคภูมิใจ
ในระยะที่ใกล้กันถึงเพียงนั้น จางเคอย่อมมิหวาดกลัวว่าผู้ใดจะมาได้ยินเข้า ดังนั้นแล้ว เขาจึงมิคิดที่จะปลอมเสียงของตนเองอีก
แต่เดิมทีจางเคอคิดว่า หากเซียวเฉวียนได้ยินเสียงของเขาแล้วนั้น จักมีท่าทีตกอกตกใจขึ้นมาบ้าง มิคาดคิดเลยว่าเซียวเฉวียนกับเพียงปรายตามองพวกเขากลับมาด้วยท่าทีเฉยเมย อีกทั้งสายตาที่มองมานั้นหาได้มีความรู้สึกหวาดกลัวไม่ ทั้งยังรู้สึกว่าเหมือนเขามองคนโง่เง่าที่กำลังทำอันใดบางอย่างอยู่นั่นเอง
มิใช่หรือ?
คำถามที่ดูโง่ๆ เช่นนี้ จางเคอกล้าถามออกมาเสียได้
หากเซียวเฉวียนใช้แรงแทงไปที่จางเคอเช่นกัน ดูเสียว่าจางเคอเองจะมีโอกาสรอดชีวิตเหมือนกันหรือไม่เล่า
ร่างกายของเซียวเฉวียนเองก็มีเลือดเนื้อหัวใจเช่นคน หาใช่สิ่งที่ของมีคมชนิดใดก็มิอาจฆ่าเขาให้ตายลงได้ไม่ หากว่าแทงกริชลงไปแล้วยังมีชีวิตอยู่ นั่นก็คงเจอผีหลอกเข้าแล้ว
ในเมื่อมาตกอยู่ในกำมือของจางเคอและท่านนักปราชญ์เช่นนี้แล้ว อย่างไรพวกเขาย่อมมิปล่อยตัวเซียวเฉวียนไปอย่างแน่นอน
เมื่อได้มาเผชิญหน้ากับคนอย่างจางเคอที่มีความคิดจิตใจที่บิดเบี้ยวเช่นนี้ หากว่าเซียวเฉวียนยิ่งจะแสดงความโลภและอาการหวาดกลัวต่อความตายของตนเองออกมา ย่อมมีแต่จะทำให้จางเคอได้ใจแทน
ก่อนที่จะทำการสังหารเซียวเฉวียนนั้น จางเคอเพียงอยากจะเห็นท่าทีของเซียวเฉวียนที่นึกหวาดกลัวต่อความตายสักครั้ง ทว่า เซียวเฉวียนจักทำให้จางเคอได้สมตามที่ใจตนเองต้องการหรือ!
ยิ่งไปกว่านั้น เซียวเฉวียนเป็นคนดวงแข็ง พวกเขามิอาจทำสิ่งใดต่อเซียวเฉวียนได้แน่!
เซียวเฉวียนมิเคยหวาดกลัวต่อสิ่งใด!
เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว มุมปากของเซียวเฉวียนพลันกระตุกยิ้มขึ้นมาในทันที
ในสายตาของจางเคอแล้ว เพียงแค่มุมปากที่กระตุกยิ้มขึ้นมานั้น กลับเฉียดแทงลึกเข้าไปในใจของเขาในทันที ทำเอาจางเคอโมโหเสียจนร้องโวยวายออกมา "มาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้ายังมีหน้ามาหัวเราะยิ้มเยาะอีกหรือ!"
ช่างรนหาที่ตายเสียจริง!
ทว่า จางเคอ ย่อมมิปล่อยให้เซียวเฉวียนตายไปอย่างมีความสุขเช่นนี้
เซียวเฉวียนที่แย่งองค์หญิงต้าถงไป ทั้งยังแย่งตำแหน่งรู้ใจข้างกายองค์จักรพรรดิไปอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...