ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1204

สรุปบท บทที่ 1204 ชิงหลงกำลังมา: ซูเปอร์ลูกเขย

บทที่ 1204 ชิงหลงกำลังมา – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย

ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1204 ชิงหลงกำลังมา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

นับว่าโชคดีที่การส่งโทรจิตของเซียวเฉวียนนั้นสามารถส่งไปได้ไกลหลายพันเมตร

ในเมื่อผนึกจูเสินมิอาจสั่งการได้เช่นนี้ มิใช่เขายังมีบรรพบุรุษเช่นชิงหลงหรือ?

เวลาไม่คอยท่าแล้ว เซียวเฉวียนจึงได้ส่งโทรจิตหาเหมิงเอ้าในทันที: "เหมิงเอ้า เจ้าขอให้บรรพบุรุษของเรามาที่ประตูเมืองหน่อย"

“ขอรับ” เหมิงเอ้าที่รับคำและกำลังจะเอ่ยปากถามต่อนั้น “นายท่าน เกิดอะไรขึ้นที่ประตูเมืองหรือขอรับ?”

อย่างไรก็ตาม ยังมิทันทีที่เหมิงเอ้าพูดจบนั้น เซียวเฉวียนพลันตัดไปเสียก่อน

สิ่งที่รั้งรอเหมิงเอ้าอยู่จึงเหลือแต่เพียงความเงียบงันที่ไม่รู้จบเท่านั้น

นายท่านกำลังทำอันใดอยู่กันแน่ เหตุใดจึงได้รีบร้อนปานนั้น แม้แต่คำสองคำก็ยังมิอยากให้เหมิงเอ้าเอ่ยออกมาเลยหรือ

เป็นไปได้หรือไม่ว่า...นายท่านรังเกียจที่ข้าเป็นคนชอบเอ่ยเสียงดังเอะอะโวยวายเช่นนี้?

บุคคลที่มีความซื่อ ๆ เช่นเหมิงเอ้านั้น เขาคิดสิ่งใดก็มักจะเอ่ยสิ่งนั้นออกมาเช่นนี้ เมื่อจินตนาการไปถึงบุคคลที่เป็นต้นแบบของตนเองมานึกรังเกียจตัวตนของเขานั้น พลันทำให้เขารู้สึกน้อยใจเล็กน้อย

ไม่ได้การละ เหมิงเอ้าเองก็จะไปที่ประตูเมืองพร้อมกับชิงหลงเช่นกัน เพื่อถามกับนายท่านตรง ๆ เลยว่า นายท่านรังเกียจเขางั้นหรือ

หากเซียวเฉวียนล่วงรู้เข้าถึงความนึกคิดของเหมิงเอ้าแล้วนั้น เขาคงจะรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเป็นแน่ การที่ตนเองมามีคนสนิทชอบติดตามตนเองเช่นนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวไม่แพ้กันเลย

นับว่าโชคดีที่ชิงหลงหาได้ปล่อยให้เหมิงอ้าวตามเขาไปที่ประตูเมืองไม่

ชิงหลงพลางกล่าวกับเหมิงเอ้าไปว่า เขาคิดมากเกินไปแล้ว เหมิงเอ้าที่มีความสามารถโดดเด่นและเป็นถึงเสาหลักของตระกูลเซียวเช่นนี้ ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เซียวเฉวียนจักมิชอบเขา

เหมิงเอ้าที่เป็นหนึ่งในสององครักษ์ที่ยิ่งใหญ่ของเซียวเฉวียนเช่นนี้ หากไม่มีชิงหลงแล้วไซร้ เหมิงเอ้าย่อมต้องรับหน้าที่ผิดชอบในการปกป้องจวนตระกูลเซียวแทน

หากปล่อยเหมิงเอ้าติดตามชิงหลงไปด้วยนั้น หากเกิดเหตุอะไรกับตระกูลเซียวขึ้นมา พวกเขาจะมีหน้าไปเอ่ยปากอธิบายกับเซียวเฉวียนได้เช่นไร

แน่นอนว่าชิงหลงเอ่ยวาจาเกลี้ยกล่อมเหมิงเอ้าเอาไว้ หากว่าตระกูลเซียวยังคงมีเขตอาคมป้องกันของชิงหลงอยู่นั้น ย่อมมิมีผู้ใดหาญกล้าพุ่งเข้ามาโจมตีตระกูลเซียวได้

เมื่อมีภาระอันใหญ่หลวงสวมทับเข้ามาบนหัวของเหมิงเอ้าแล้วนั้น เหมิงเอ้าจึงอดมิได้ที่จะรู้สึกลอย ๆ เล็กน้อย ใช่แล้ว เขายังต้องคอยปกป้องตระกูลเซียวอยู่

ด้วยเหตุนี้ เพียงชิงหลงเอ่ยปากเกลี้ยกล่อมออกมาไม่กี่คำนั้น ก็สามารถขัดขวางมิให้เหมิงเอ้าติดตามไปด้วยในทันที พร้อมกับตนเองที่รีบตรงไปยังประตูเมืองแทน

ทางด้านของฝั่งประตูเมืองนั้น จางเคอที่ขึ้นไปเหยียบไปเตะเซียวเฉวียนเสียสองสามครั้งแล้ว ก็หาได้รู้สึกว่ามันเพียงพอไม่ เขาพลันค่อย ๆ นั่งยอง ๆ ลงมา เพื่อมองหน้าเซียวเฉวียนด้วยความรู้สึกได้ใจนั้น

ดูสิดูสิ จางเคอค่อย ๆ หยิบกริชอันแหลมคมออกมาจากแขนเสื้อของตนเอง ก่อนจะใช้มันจิ้มเข้าไปที่หัวใจของเซียวเฉวียน

“เจ้าว่า หากข้าใช้แรงแทงลงไปละก็ เจ้าจักมีโอกาสรอดชีวิตไปหรือไม่เล่า?” จางเคอพลางยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูเซียวเฉวียน ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยท่าทีภาคภูมิใจ

ในระยะที่ใกล้กันถึงเพียงนั้น จางเคอย่อมมิหวาดกลัวว่าผู้ใดจะมาได้ยินเข้า ดังนั้นแล้ว เขาจึงมิคิดที่จะปลอมเสียงของตนเองอีก

แต่เดิมทีจางเคอคิดว่า หากเซียวเฉวียนได้ยินเสียงของเขาแล้วนั้น จักมีท่าทีตกอกตกใจขึ้นมาบ้าง มิคาดคิดเลยว่าเซียวเฉวียนกับเพียงปรายตามองพวกเขากลับมาด้วยท่าทีเฉยเมย อีกทั้งสายตาที่มองมานั้นหาได้มีความรู้สึกหวาดกลัวไม่ ทั้งยังรู้สึกว่าเหมือนเขามองคนโง่เง่าที่กำลังทำอันใดบางอย่างอยู่นั่นเอง

มิใช่หรือ?

คำถามที่ดูโง่ๆ เช่นนี้ จางเคอกล้าถามออกมาเสียได้

หากเซียวเฉวียนใช้แรงแทงไปที่จางเคอเช่นกัน ดูเสียว่าจางเคอเองจะมีโอกาสรอดชีวิตเหมือนกันหรือไม่เล่า

ร่างกายของเซียวเฉวียนเองก็มีเลือดเนื้อหัวใจเช่นคน หาใช่สิ่งที่ของมีคมชนิดใดก็มิอาจฆ่าเขาให้ตายลงได้ไม่ หากว่าแทงกริชลงไปแล้วยังมีชีวิตอยู่ นั่นก็คงเจอผีหลอกเข้าแล้ว

ในเมื่อมาตกอยู่ในกำมือของจางเคอและท่านนักปราชญ์เช่นนี้แล้ว อย่างไรพวกเขาย่อมมิปล่อยตัวเซียวเฉวียนไปอย่างแน่นอน

เมื่อได้มาเผชิญหน้ากับคนอย่างจางเคอที่มีความคิดจิตใจที่บิดเบี้ยวเช่นนี้ หากว่าเซียวเฉวียนยิ่งจะแสดงความโลภและอาการหวาดกลัวต่อความตายของตนเองออกมา ย่อมมีแต่จะทำให้จางเคอได้ใจแทน

ก่อนที่จะทำการสังหารเซียวเฉวียนนั้น จางเคอเพียงอยากจะเห็นท่าทีของเซียวเฉวียนที่นึกหวาดกลัวต่อความตายสักครั้ง ทว่า เซียวเฉวียนจักทำให้จางเคอได้สมตามที่ใจตนเองต้องการหรือ!

ยิ่งไปกว่านั้น เซียวเฉวียนเป็นคนดวงแข็ง พวกเขามิอาจทำสิ่งใดต่อเซียวเฉวียนได้แน่!

เซียวเฉวียนมิเคยหวาดกลัวต่อสิ่งใด!

เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว มุมปากของเซียวเฉวียนพลันกระตุกยิ้มขึ้นมาในทันที

ในสายตาของจางเคอแล้ว เพียงแค่มุมปากที่กระตุกยิ้มขึ้นมานั้น กลับเฉียดแทงลึกเข้าไปในใจของเขาในทันที ทำเอาจางเคอโมโหเสียจนร้องโวยวายออกมา "มาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้ายังมีหน้ามาหัวเราะยิ้มเยาะอีกหรือ!"

ช่างรนหาที่ตายเสียจริง!

ทว่า จางเคอ ย่อมมิปล่อยให้เซียวเฉวียนตายไปอย่างมีความสุขเช่นนี้

เซียวเฉวียนที่แย่งองค์หญิงต้าถงไป ทั้งยังแย่งตำแหน่งรู้ใจข้างกายองค์จักรพรรดิไปอีก

ถึงว่าเล่า ที่เซียวเฉวียนยังมีท่าทีแน่นิ่งมิรู้สึกสิ่งใดได้ ที่แท้เพราะตนเองรู้ว่าชิงหลงจักต้องมาช่วยเหลือนี่เอง

บิดามันเถิด!

หากเขาว่าทุกอย่างจะเป็นเช่นนี้ จางเคอคงจะส่งเซียวเฉวียนไปลงปรโลกแล้ว หากจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นเมื่อใด เขาก็จักเป็นอิสระในทันที

ทว่าในยามนี้ เขากลับต้องใช้ชีวิตของเซียวเฉวียนมาเป็นข้อแลกเปลี่ยนเพื่อให้ตนเองมีหทางรอด ทั้งยังมิอาจสังหารเซียวเฉวียนไปได้ด้วย จางเคอรู้สึกเสียใจยิ่งนัก เมื่อครู่เข้าไม่น่าเล่นหยอกล้อไปเกินกว่าเหตุเลยจริง ๆ

ในยามนี้ สายเกินแก้ไปเสียแล้ว!

เมื่อได้ยินเสียงร้องจะโกนของจางเคอนั้น ท่านนักปราชญ์จึงหันศีรษะมองกลับไปโดยไม่รู้ตัว พร้อมกับภาพที่อยู่ตรงหน้า ทำเอาท่านนักปราชญ์ต้องอกสั่นขวัญผวาไปด้วยความกลัวในทันที

ชิงหลงมาที่นี่ได้อย่างไร!

มารดามันเถิด!

ทั้งหมดล้วนแต่เป็นความผิดของจางเคอ หากเจ้านั่นไม่มัวเอาแต่นึกสนุกอยู่ละก็ เขาคงสังหารเซียวเฉวียนและกลับไปที่ซินเจียงนานแล้ว

ในยามนี้ สังหารเซียวเฉวียนก็ยังมิได้ทำ ทั้งยังมีชิงหลงมาร่วมด้วยอีก

เมื่อมีชิงหลงอยู่เช่นนี้ มิต้องเอ่ยถึงการจะสังหารเซียวเฉวียนเลย เขาจะปกป้องชีวิของตนเองไปได้หรือไม่ยังนับว่าเป็นเรื่องยาก

จางเคอเจ้าคนมือไม่พายแต่เอาเท้าราน้ำ!

ท่านนักปราชญ์จ้องมองที่จางเคอด้วยความไม่พอใจในทันที "รีบสังหารเซียวเฉวียนเสีย"

เมื่อเรื่องเดินมาถึงจุดนี้แล้ว ท่านนักปราชญ์จึงมิมีทางเลือกอื่นนอกจากจำเป็นจักต้องสังหารเซียวเฉวียนให้จงได้ แล้วตนเองค่อยหาทางหลบหนีไป

ด้วยความสามารถของท่านนักปราชญ์แล้ว เขาย่อมสามารถหลบหนีไปได้สำเร็จ

ทว่า จางเคอหาได้มองโลกในแง่ดีเท่ากับท่านนักปราชญ์ไม่ จางเคอที่ทำการใดคิดอย่างละเอียดรอบคอบนั้น เขารู้ดีว่าการที่เขาจะสามารถต่อกรกับชิงหลงและท่านนักปราชญ์ได้นั้น คงเทียบเท่ากับการพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินเลยทีเดียว

หากมีเซียวเฉวียนอยู่ในกำมือของเขาเช่นนี้ ชิงหลงย่อมรู้สึกหวาดระแวงขึ้นมาบ้าง ทั้งยังคงมิกล้าลงมือทำอันใดกับเขามากนัก เช่นนี้จางเคอย่อมมีโอกาสรอดมากกว่า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย