ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1216

สรุปบท บทที่ 1216 ชามกระเบื้องล้ำค่า: ซูเปอร์ลูกเขย

สรุปเนื้อหา บทที่ 1216 ชามกระเบื้องล้ำค่า – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บท บทที่ 1216 ชามกระเบื้องล้ำค่า ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เรื่องนี้นอกจากนักปราชญ์แล้ว ก็ไม่มีใครรู้

ที่จริงแล้ว นักปราชญ์ไม่อยากเสียเงินนี้ไป ต้องการทำให้แม่ทัพใหญ่ของซินเจียงและมู่จิ่นเป็นคนรับผิดแทน

แต่คาดไม่ถึงว่า จนถึงตอนนี้ทั้งสองคนนี้ไม่สามารถคาดหวังอะไรได้

นักปราชญ์ทำได้เพียงอดทนยอมเสียทรัพย์สินเพื่อรักษาชีวิตไว้

เขาบอกชิงหลง ว่าเขาซ่อนเงินไว้ที่ไหน บนยอดภูเขาที่อยู่ข้างๆภูเขาหมิงเซียน ข้างๆมีก้อนหินอยู่ก้อนหนึ่ง

พูดจบ นักปราชญ์ก็ยังวาดแผนที่อย่างง่ายๆให้ชิงหลง เพื่อให้ชิงหลงสะดวกในการหา

หลังจากแน่ใจว่านักปราชญ์ไม่ได้หลอกลวงชิงหลง หลังจากนั้นชิงหลงก็สร้างม่านกั้นกักขังนักปราชญ์ไว้ และหายไปอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปที่ภูเขาหมิงเซียนในซินเจียง

เพียงแค่พริบตาเดียว ชิงหลงก็มาอยู่ที่ยอดเขาของภูเขาหมิงเซียน

เมื่อมองออกไป ด้านล่างเป็นพื้นดินที่แห้งแล้ง นอกจากนี้ยังมีร่องรอยการกระทบของน้ำจากทิศทางต่างๆ ภูเขาหมิงเซียนได้รับความเสียหายอย่างมาก

มีเพียงพื้นที่ตรงที่ชิงหลงอยู่ตรงนี้ที่ยังดีอยู่ เพราะว่ามีม่านกั้นป้องกันเอาไว้ ไฟไม่สามารถลุกไหม้เข้ามาได้ ฝนก็ไม่สามารถตกลงมาโดนได้

ม่านกั้นนี้ คิดว่าในตอนนั้นนักปราชญ์ทำไว้เพื่อป้องกันคนบุกรุกเข้ามา แล้วจะพบคลังสมบัติของเขา ถึงได้สร้างม่านกั้นเอาไว้

เป็นเพียงม่านกั้นที่คนธรรมดาสร้างขึ้น สำหรับเซียวเฉวียนแล้วไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด ดั้งนั้น ชิงหลงมาที่นี่ เป็นดินแดนที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ ไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ

แต่ว่า ที่แห่งนี้ ปกติแล้วก็ไม่มีคนปีนขึ้นมา

สิ่งสำคัญก็คือ ต้องการปีนขึ้นมาถึงที่นี่ จะต้องปีนหน้าผาที่สูงชัน ดินบนหน้าผาค่อนข้างอ่อนนุ่มไม่แข็งแรง สำหรับคนธรรมดา ดูแล้วอันตรายอย่างมาก ถ้าไม่มีอะไรใครจะขึ้นมาถึงที่นี่

ในสถานที่นี้ นักปราชญ์ยังสร้างม่านกั้นขึ้น เรียกได้ว่านักปราชญ์ทำอะไรค่อนข้างระมัดระวังเป็นอย่างมาก

ชิงหลงทำตามที่นักปราชญ์บอก มองหาที่เปิดปิดประตูถ้ำที่อยู่ข้างๆก้อนหิน

การหาจุดสำคัญที่เปิดปิดประตูถ้ำคือต้นสนต้นหนึ่ง

ต้นสนเรียกอีกอย่างว่าหญ้าคืนชีพเก้าชีวิต รากของมันสามารถแยกออกจากดินได้ ขดตัวเป็นก้อน พัดปลิวไปตามลม เมื่อโดนน้ำก็เจริญงอกขึ้นมาได้อีก

หลังจากที่รากของมันแยกออกจากกันแล้ว ก็สามารถปักลงดินใหม่ได้เพื่อหาน้ำ

เนื่องจากมีความทนทานต่อความเย็นอย่างมาก หลังจากแห้งแล้งมาเป็นเวลานาน เพียงแค่เอารากไปแช่น้ำ ก็สามารถงอกออกมาได้ เพราะเหตุนี้ถึงได้ชื่อว่าหญ้าคืนชีพเก้าชีวิต

หญ้าประเภทนี้จะขึ้นอยู่บนเนินและโขดหินที่ๆมีแสงแดดส่องถึง หรือตามซอกหินที่มีความแห้ง

นักปราชญ์ทำเพื่อให้ง่ายต่อการปกปิดช่องทางการเปิดคลังสมบัติ เขาตั้งใจที่หาต้นสนมา ปลูกไว้บนชามกระเบื้อง

นักปราชญ์พูดว่า เพียงแค่เอาต้นสนทั้งหมดออก และมองหาชามกระเบื้อง หลังจากนั้นก็ยกชามกระเบื้องออก ในนั้นก็คือที่เปิดปิด

พูดได้ว่า ชามกระเบื้องนี้ของนักปราชญ์ ปากชามคว่ำลง สร้างกลไกการเปิดปิดไว้ด้านใน

พระเจ้าช่วย

ในสถานที่ที่ลึกลับอย่างนี้ เอาสมบัติมาซ่อนไว้ และยังระมัดระวังมากอย่างนี้ นักปราชญ์คนนี้มีความคิดที่ร้ายกาจมาก

กลัวว่าคนอื่นจะมาพบคลังสมบัติของเขา

ในสถานที่ที่สูงชันมากเช่นนี้ แม้เงินของเขาจะอยู่ในที่โล่ง ก็ไม่มีใครจะมาเจอได้

พูดตามจริง คนที่กินอิ่มอยู่สบาย ก็คงไม่มีใครขึ้นมาถึงที่นี่

“ให้ตายเถอะ เจ้าเก็บอาการหน่อยเถอะ” ดวงตาของเซียวเฉวียนเป็นประกายมองชิงหลง

เมื่อได้ยินว่าชิงหลงจะมาขุดทอง เซียวเฉวียนที่อยู่ในพระราชวังต้าเว่ย ก็รีบหาข้ออ้างรีบออกมาทันที ตามชิงหลงมาคนหนึ่งอยู่ข้างหน้าอีกคนตามอยู่ข้างหลังขึ้นมาที่ยอดเขาแห่งนี้

ในเมื่อปรึกษาหารือกับฮ่องเต้ คุยกันไปคุยกันมา ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปอะไร เซียวเฉวียนจึงตามชิงหลงออกมาเปิดหูเปิดตาดูโลกภายนอก

มาดูคลังสมบัติของนักปราชญ์ ได้เห็นเป็นบุญตา

ได้รับรู้ว่านักปราชญ์สัญญาว่าจะให้ทองคำห้าล้านตำลึง เซียวเฉวียนรู้สึกตกตะลึงมาก

คิดไม่ถึงว่า ผู้เฒ่าคนนี้จะเก็บสะสมเงินไว้มากขนาดนี้

เป็นเจ้าสำนักของสำนักหมิงเซียนร่ำรวยมากขนาดนี้เชียวเหรอ?

แต่ตอนที่เซียวเฉวียนอยู่ที่ทะเลทราย สิ่งที่รับรู้มาจากมู่เวย ย่าเหยียนเป็นเจ้าสำนักที่ลำบากยากจนอย่างมาก

มู่เวยพูดว่า ย่าเหยียนเป็นถึงเจ้าสำนัก แต่ฐานะการเงินย่ำแย่กว่ามู่เวยอีก

ถ้ามีโอกาสได้กลับไปที่ฮวาเซี่ย เอาชามนี้กลับไปด้วย ใช้ชามนี้กินข้าว แน่นอนว่าจะต้องดูสูงส่งมั่งคั่งอย่างมาก

ฮ่าฮ่าฮ่า!

รู้สึกได้ว่าเซียวเฉวียนจะมีความสุขอย่างมาก ชิงหลงอดที่จะสงสัยไม่ได้ ก็แค่ได้ชามที่ดีกว่าชามธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ทำไมเซียวเฉวียนจะต้องดีใจถึงขนาดนี้ด้วย?

ชิงหลงรู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อย

พูดไปก็น่าแปลก ชิงหลงรู้สึกเพียงแค่ว่าอารมณ์ของเซียวเฉวียนเปลี่ยนไป ไม่รู้ว่าในใจของเซียวเฉวียนกำลังคิดะไร

แต่ความรู้สึกที่เซียวเฉวียนมีต่อชิงหลง กลับมากกว่าที่ชิงหลงรู้สึกต่อเขามาก

อย่างเช่น ตอนที่นักปราชญ์ใช้เงินหลอกล่อชิงหลง เซียวเฉวียนที่อยู่ห่างไกลถึงในพระราชวังก็สามารถรับรู้ได้ และก็ยังรู้อีกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

แต่ว่า บางครั้งก็รู้สึกได้ บางครั้งก็ไม่รู้สึก

เซียวเฉวียนคิด นี้อาจจะเป็นเพราะสาเหตุที่ผนึกจูเสินแข็งแกร่งกว่าหัวใจดาบหรือไม่?

คิดถึงผนึกจูเสินขึ้นมา ตอนที่เซียวเฉวียนอยู่ที่ประตูเมืองโดนเข็มทองฝังลงที่ร่างกาย เซียวเฉวียนขอร้องให้ผนึกจูเสินช่วย ผนึกจูเสินหายตัวไปเลย

เซียวเฉวียนเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

ใช้โอกาสตอนนี้ที่นึกขึ้นได้ เซียวเฉวียนต้องถามผนึกจูเสินให้รู้เรื่อง:“เหล่าจู วันนั้นข้าขอร้องเจ้าให้ช่วย เจ้าทำไมถึงไม่ตอบรับข้า?”

ในตอนนี้ ผนึกจูเสินตอบกลับด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า:“นักปราชญ์อยู่ตรงนั้น ข้าไม่ส่งเสียงใดๆออกไปจะเป็นการดีที่สุด”

นักปราชญ์ไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นผู้สืบทอดของสำนักหมิงเซียน

สำนักหมิงเซียนมีความชำนาญเรื่องการแพทย์แล้ว และยังชำนาญในการทำนายโชคชะตาด้วย มีความคิดละเอียดรอบครอบ มีประสาทสัมผัสที่อ่อนไหว

ถึงแม้ว่านักปราชญ์จะไม่ได้เก่งกล้าในการต่อสู้ แต่เขาก็มีพื้นฐานในด้านนี้อยู่บ้าง

ถ้าผนึกจูเสินปรากฏตัวออกไป ถูกนักปราชญ์จับได้ถึงความผิดปกติ ตั้งแต่ตอนนั้นถ้านักปราชญ์รู้ว่าผนึกจูเสินอยู่ในร่างกายของเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนก็จะยิ่งลำบากมากขึ้น

เพื่อความปลอดภัยของเซียวเฉวียน ผนึกจูเสินไม่สามารถทำอะไรต่อหน้านักปราชญ์ได้

มีชิงหลงอยู่ เซียวเฉวียนไม่มีวันตาย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย