สรุปเนื้อหา บทที่ 1236 ร้องขอการสนับสนุน – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บท บทที่ 1236 ร้องขอการสนับสนุน ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ภายใต้เซียวเฉวียนและพวกมองส่งด้วยสายตา และเซียวจิ่วประคองท่านยายอาวุโสพิงไม้ค้ำขึ้นไปบนรถม้าที่จวนเซียวเตรียมไว้ให้
เพื่อความปลอดภัยของท่านยายอาวุโส เซียวเฉวียนขอให้ไป่ฉีไปส่งท่านยายอาวุโสกลับชานเมืองหลวงด้วยตัวเอง
เดิมทีท่านยายอาวุโสบอกว่าไม่ต้อง ท่านสามารถกลับไปเองได้
แต่ด้วยคำยืนกรานของเซียวเฉวียน ท่านยายอาวุโสไม่อาจปฏิเสธได้ จึงทำตามที่เซียวเฉวียนเตรียมไว้ ให้ไป่ฉีไปส่งท่านยายอาวุโสกลับยังชานเมืองหลวง
คืนก่อนจะเดินทาง ท่านยายอาวุโสกับเซียวเฉวียนและเซียวจิ่วได้จัดการประชุมเล็กๆ
ในประชุมครั้งนี้ โดยหลักคือให้ท่านยายอาวุโสพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องในอดีต
ในนั้นมีเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเซียวในเขตชานเมืองหลวงกับสายของเซียวเฉวียนนี้
ท่านยายอาวุโสกล่าวว่า เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว ตระกูลเซียวในเขตชานเมืองหลวงได้ทำผิดสิ่งหนึ่งต่อตระกูลเซียวในเมืองหลวง
ในปีนั้น ราชวงศ์ต้าเว่ยเพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่ๆ พื้นที่ชายแดนมีความปั่นป่วนและเกิดศึกสงครามบ่อยครั้ง
ราชสำนักจึงเตรียมส่งคนไปเฝ้ารักษาชายแดน
เนื่องจากในเวลานั้น ท่านยายอาวุโสมีความโดดเด่นในการนำทัพ ทั้งท่านเป็นสตรี ท่านสามารถล่อหลอกให้ทหารฝ่ายศัตรูชะล่าใจ ให้เกิดความประมาทได้ง่าย ดังนั้นจักรพรรดิจึงทรงมีพระประสงค์ส่งท่านยายอาวุโสไป
ตอนนั้น ท่านยายอาวุโสก็รับราชโองการแล้วด้วย
สองวันก่อนที่ท่านจะเดินทาง จู่ๆ ท่านก็ล้มป่วยและยังป่วยไม่เบาด้วย
ส่งผลให้กำลังเสริมของราชสำนักไม่สามารถไปถึงชายแดนได้ทันเวลา บวกกับอาการป่วยของท่านยายอาวุโสซึ่งแพทย์หลวงก็ไม่รู้ว่าท่านจะหายป่วยได้เมื่อไร
ไม่มีกำหนดเวลา ดังนั้นจึงไม่สามารถรอได้
จักรพรรดิจึงส่งคุณปู่ของเซียวเฉวียนไปแทน
แม้ว่าคุณปู่ของเซียวเฉวียนจะกลับมาอย่างปลอดภัย แต่ท่านได้รับบาดเจ็บในศึกสงครามและเป็นโรคแทรกซ้อนตามมา ไม่อาจลงสนามรบได้อีกต่อไป
หลังจากนั้นท่านยายอาวุโสรู้สึกว่าท่านป่วยอย่างผิดสังเกต จึงแอบสืบหาต้นเหตุ
พอสืบแล้วจึงได้พบว่าสามีของท่านยายอาวุโสไม่อยากให้ท่านต้องไปเสี่ยงอีก จึงให้ยาแก่ท่านยายอาวุโสเพื่อให้ท่านมีอาการดูเหมือนป่วยหนัก
ด้วยวิธีนี้ เรื่องการทำศึกสงครามก็จะไม่ตกมาอยู่กับท่านยายอาวุโสอีกต่อไป
พอรับรู้ความจริงแล้ว ท่านยายอาวุโสก็โกรธแค้นอย่างกระหืดกระหอบ ดุด่าสาปแช่งสมาชิกในครอบครัวเป็นการใหญ่
คนในครอบครัวถูกด่าว่าจนละอายแทบเอาหน้าแทรกแผ่นดินและเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
ถ้าไม่ใช่พวกเขาทำเรื่องก่อกวน และเป็นท่านยายอาวุโสไปสนามรบเอง คุณปู่ของเซียวเฉวียนคงจะไม่เป็นอะไร
ท่านยายอาวุโสอยากให้เรื่องเกิดขึ้นกับตัวเองมากกว่าเกิดกับคนอื่น
ตั้งแต่นั้นมา ท่านยายอาวุโสก็รู้สึกผิดต่อตระกูลเซียวในเมืองหลวง และไม่สามารถลืมเลือนได้เป็นเวลานาน
พอเซียวเฉวียนได้ยิน ก็รู้สึกเคารพนับถือต่อท่านยายอาวุโสคนนี้ ในฐานะหญิงสมัยโบราณ คิดไม่ถึงจะมีความรู้ผิดชอบชั่วดี รู้ลึกซึ้งในความชอบธรรม น่าทึ่งมาก
อย่างไรก็ตาม เซียวเฉวียนก็ปลอบใจท่านยายอาวุโสด้วย ในเมื่อสิ่งเหล่านี้ผ่านพ้นไปแล้ว ก็ปล่อยให้มันผ่านไป ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใหญ่ทางเซียวเฉวียนก็ไม่เคยเอ่ยถึงสิ่งเหล่านี้หรือต่อว่าอะไร เห็นได้ว่า ตอนนั้นคุณปู่ของเซียวเฉวียนก็ไม่ได้ติดใจเกี่ยวกับอาการตกค้างของโรคเลย
เรื่องนี้ ในเมื่อมีการพูดคุยให้กระจ่างแล้ว ก็ถือว่าจบแล้ว
พอเซียวเฉวียนพูดอย่างนี้ ท่านยายอาวุโสถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความตื่นตันทันที
นึกถึงเรื่องนี้ เซียวเฉวียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบา ๆ เหตุการณ์นี้พัวพันตระกูลเซียวในเขตชานเมืองหลวงมานานปีแล้ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเสียใจและรู้สึกผิดมาตลอด
เห็นได้ว่า การกล้ารับผิดชอบและมีความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับบุคคลหรือครอบครัวหนึ่ง
อย่างน้อย อนาคตของท่านก็จะเปิดกว้างสดใส ซื่อสัตย์เปิดเผย ไม่เสียใจและรู้สึกผิด
ท่านยายอาวุโสกลับไปที่ชานเมืองหลวง จู่ๆ ใจของเซียวจิ่วรู้สึกโล่งออกมาเกือบครึ่ง
เซียวจิ่วโตมาถึงขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่เขาห่างจากครอบครัว ไปอาศัยอยู่ตามลำพังที่อื่น
อาจจะเห็นความว้าเหว่ในใจของเซียวจิ่ว เซียวเฉวียนก็ยิ้มเบา ๆ และพูด "จำไว้ ที่นี่ก็เป็นตระกูลเซียวเช่นกัน"
เซียวจิ่วเงยหน้าขึ้นมองเซียวเฉวียน ด้วยดวงดาวอยู่ในดวงตา พยักหน้าและพูดว่า "ตกลง"
ในช่วงเวลาที่อาศัยอยู่ในจวนเซียว เซียวจิ่วได้ค้นพบว่าเซียวเฉวียนมีข้อดีมากมายที่คู่ควรให้เขาเรียนรู้
ท่านยายอาวุโสทิ้งเซียวจิ่วไว้ที่จวนเซียว ก็เพื่ออนาคตของตระกูลเซียวในเขตชานเมืองหลวง
เรื่องใหญ่ซะแล้ว
แม่เล้าบิดเอวด้วยความโศกเศร้า โบกผ้าเช็ดหน้าแล้ววิ่งตามไป
เที่ยวนี้ มีละครดีๆ มาให้ชมซะแล้ว
ชาวบ้านมองเข้ามาโดยไม่กะพริบตา เพราะกำลังจะมีละครดีๆ ให้ชม ทุกคนตื่นเต้นมากจนไม่ส่งเสียง
ข้างใน เซียนชิวน้อยนั่งบนเก้าอี้ วางขาข้างหนึ่งบนเก้าอี้อย่างนักเลง พูดอย่างเย็นชา "เรียกจางเคอออกมา"
ได้ยินว่าจะมาหาจางเคอ ลูกตาแม่เล้ากระตุกและกรีดร้องแย่แล้วในใจ ทำไมเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ นี้มาหาจางเคอถึงนี่ ?
นายท่านสองคนนี้ร้ายกาจยังไงแม่เล้าก็เห็นมาแล้ว ไม่กล้าที่จะล่วงเกิน
แต่จางเคอเป็นเจ้านายของนาง แม่เล้ายิ่งไม่อาจจะล่วงเกิน
ยิ่งไปกว่านั้น สองคนนี้มาถึงก็ทำร้ายผู้คน เห็นปุ๊บก็รู้ว่าเป็นศัตรูของจางเคอ
มาเจอะเจอศัตรูสองคนนี้เข้า แม่เล้ารู้สึกทุกข์ทรมานเหลือเกิน
“ท่านนายน้อย ขอถามว่าท่านมาหาใต้เท้าจาง จางเคอหรือ ?” แม่เล้าแสร้งถามทั้งรู้ ใครจะรู้ ตอนที่นางพูดมานี้ นางตื่นเต้นจนขยำผ้าเช็ดหน้าในมือกลายเป็นลูกบอล “ถ้านายน้อยหาเขา เกรงว่าจะมาหาผิดที่แล้ว”
ความหมายก็คือจางเคอไม่ได้อยู่ในหออี๋หงย่วน
พูดจบ แม่เล้าก็มองดูเซียนชิวน้อยอย่างใจเสาะ
ดูตาของป้าตัวน้อยนี้ดำเหมือนหมึก ดูฉลาดราวกับผีน้อย ไม่ใช่หลอกเอาง่ายๆ
"จริงหรือ ?" เซียนชิวน้อยตะคอกเย็นชา ลืมตาสูงขึ้น มองดูแม่เล้าคนนี้อย่างเยือกเย็น
แม่เจ้า สายตานี้เหมือนจะมองแม่เล้าให้ทะลุปรุโปร่งให้ได้ ทำให้แม่เล้าจิตใจว้าวุ่นยิ่งนัก
แม่เล้าพยายามรักษารอยยิ้มบนใบหน้าและพูดว่า "แน่นอน ผู้น้อยได้ยินมาว่าใต้เท้าจางทำผิดอะไรและตอนนี้ถูกจองจำอยู่ในคุก"
”จริงหรือ ? แต่ข่าวที่ข้าได้ยินมาคือเขาแอบซ่อนตัวอยู่ในหออี๋หงย่วน” เซียนชิวน้อยมองไปรอบ ๆ อย่างเย็นชา ในที่สุดก็เล็งไปที่ห้องตรงหัวมุมที่สุดที่ชั้นบน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...