หลังจากที่หัวใจดาบจากไป ชิงหลงหมดสติในทันที ตกสู่สภาวะหลับใหล
เซียวเฉวียนรีบเข้าไปรับร่างของเขา เขาจึงไม่เจ็บปวดจากการล้มหมดสติ
เซียวเฉวียนประคองตัวเขา พาเขาไปนอนพิงข้างโขดหิน
ชิงหลงในเวลานี้มองไปรอบ ๆ ด้านด้วยสีหน้าหวาดระแวง พลางพึมพำในใจ “ทำไมเขาถึงต้องมาเกาะจูเสิน?
ระหว่างที่มอง ชิงหลงก็พบกับเงาดำของเซียวเฉวียน ก่อนจะกระตือรือร้นลุกขึ้น แต่ศีรษะเจ้ากรรมกลับปวดร้าวอย่างรุนแรง
“ชิ้ง” ชิงหลงกุมศีรษะ พร้อมกับส่งเสียงอย่างหดหู่
ในที่สุดชิงหลงก็ใช้กำลังภายในเพื่อคลายความเจ็บปวดบนศีรษะของตัวเอง
ในตอนนี้เอง ชงหลงพบว่าตัวเองรวบรวมพลังไม่ได้
ชิงหลงอดประหลาดใจไม่ได้ พยายามครุ่นคิด ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ความทรงจำล่าสุดคือก่อนที่หัวใจดาบจะผสานร่าง ชิงหลงเห็นแสงดาบจากหอคอยดาบ หัวใจดาบอยากช่วยร่างดาบ ทั้งยังบอกเขาว่าเว่ยอวี๋คือร่างดาบ
จากนั้นชิงหลงก็จำได้ เขาลังเลว่าจะช่วยบรรพบุรุษดีหรือไม่ แสงสีแดงสายหนึ่งแทรกซึมเข้าไปในร่างกายของเขา
เรื่องหลังจากนั้น ชิงหลงจำไม่ได้โดยสมบูรณ์
บัดนี้ฟื้นบนเกาะจูเสิน ชิงหลงรู้สึกว่าตัวเองฝันไป เขาสงสัยแม้กระทั่งตัวเองมาเที่ยวเกาะจูเสิน
แต่พอดูอีกครั้ง ไม่เพียงแต่เซียวเฉวียนที่อยู่ที่นี่ เว่ยอวี๋ก็อยู่ที่นี่ ทุกอย่างไม่เหมือนความฝัน
เพื่อหลีกเลี่ยงความบ้าคลั่งของตัวเอง ชิงหลงจึงหยิกแขนของตัวเอง ความเจ็บปวดฉับพลันทำให้ชิงหลงกลับสูโลกแห่งความเป็นจริง
“ใต้เท้าเซียว” ชิงหลงขานเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน การขานเรียกนี้เรียกสติกลับมา ชิงหลงรู้สึกเจ็บปวดราวกับโดนกระชากกระดูก
พอได้ยินเสียงของชิงหลง เซียวเฉวียนที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็เบี่ยงสายตามามองอย่างเรียบเฉย พลางเอ่ยด้วยความใส่ใจว่า “รู้สึกอย่างไรบ้าง?”
ชิงหลงเหยียดยิ้ม ก่อนเอ่ยว่า “ก็ดี ลุกไม่ไหว”
ประโยคนี้ทำให้ชิงหลงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขามองชิงหลงด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ พลางครุ่นคิดในใจ คาดไม่ถึงจริง ๆ ชิงหลงผู้ซื่อสัตย์แต่ไหนแต่ไรมา กลับต้องมาลำบาก
ดูท่าเซียวเฉวียนต้องทำความรู้จักกับชิงหลงใหม่อีกครั้งเสียแล้ว
แน่นอนว่าต้องเป็นประโยคหลัง
เวลานี้ชิงหลงลุกขึ้นไม่ได้ มันคือผลข้างเคียงจากการผสานร่างของหัวใจดาบ
ถึงอย่างไรก็ยังมีกลิ่นอายหยินปรากฏอยู่ในตัวหัวใจดาบ ร่างกายของชิงหลงต้องทนความเจ็บปวดจากการแบกพลังพลังหยิน กระทั่งบาดเจ็บอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คาดว่าชิงหลงจะสามารถฟื้นตัวกลับมาหลังจากพักฟื้นได้แน่นอน
แม้ว่าเซียวเฉวียนจะรักษาตัวให้ชิงหลง แต่กลิ่นอายของผนึกจูเสินในร่างกายของเซียวเฉวียน หลีกเลี่ยงไม่ให้ชิงหลงสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ ด้วยเหตุนี้ เซียวเฉวียนจึงเก็บความคิดนั้นไว้ แล้วให้ชิงหลงฟื้นตัว
ถึงอย่างไร เซียวเฉวียนก็เชื่อว่าความสามารถของชิงหลง คงใช้เวลาฟื้นตัวไม่นาน
ในตอนนี้เอง เว่ยอวี๋ที่เกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นก็แผดเสียงคำรามอย่างอดไม่ได้ “โอ๊ย!”
......
......
เมืองหลวง
ณ ศาลาคุนหวู่
ผู้จัดการร้านวิ่งเข้ามาในห้องหนังสือด้วยความตื่นตระหนก ถลันเข้ามาโดยไม่แม้แต่จะเคาะประตู “คุณชาย แย่แล้ว แย่แล้ว!”
เวลานี้ อี้กุยกำลังเล่นหมากรุกกับฉินซูโหรวอยู่ในห้องหนังสือ
ผู้จัดการร้านเป็นคนหนักแน่น จู่ ๆ ก็ผิดปกติไป จะต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นเป็นแน่ อี้กุยวางหมากในมือลง ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
ท่านปู่เคยเป็นอาจารย์มาก่อน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ยังคงความนิ่งสงบ แค่นิ่งสงบ สมองต้องชัดเจน ถึงจะแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว
อี้กุยเป็นเด็กที่เชื่อฟัง
หลายปีมานี้ อี้กุยมักจะปฏิบัติตามคำสอนของท่านปู่เสมอ ฝึกวางมาดให้แก่กว่าวัย
ผู้จัดการร้านกำลังจะพูดบางอย่าง แต่เห็นฉินซูโหรว เขาก็หยุดชะงัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...