ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1249

เขากำลังจะได้พบเจอกับองค์หญิงต้าถง ระหว่างทาง จางเคอเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ เขาเป็นนักวิชาการ และเขาเดินไวกว่าสายลับอีก

เมื่อมาถึงทางเข้าถ้ำด้วยกำลังทั้งหมดของเขา จางเคอกำลังจะรีบเข้าไปข้างใน มีสายลับคนหนึ่งได้หยุดเขาไว้และพูดว่า:"ใต้เท้า องค์หญิงมีสาวใช้คนหนึ่งชื่อเสวี่ยเยี่ยน ซึ่งเก่งด้านศิลปะการต่อสู้มาก พวกข้าควรรอให้สาวใช้คนนั้นออกไปก่อนจากนั้นค่อยเข้าไป”

คำพูดนี้ ทำให้จางเคอเสียอารมณ์จริงๆ

จางเคอหันกลับมามองสายลับอย่างไม่พอใจแล้วพูดว่า:"ไม่จำเป็น ตัวข้ามีวิธีของข้าเอง"

รอ?

เป็นไปไม่ได้

ด้วยสาวสวยงามอยู่ตรงหน้าแล้ว จางเคอเมินเฉยต่อการห้ามของสายลับ และดึงรากตรงทางเข้าถ้ำออกอย่างกระตือรือร้นและเข้าไปข้างใน

.........

.........

พระราชวัง

ฮ่องเต้นั่งอยู่ในห้องหนังสือ เขาเพิ่งฟังรายงานของผู้ใต้บังคับบัญชาเกี่ยวกับหมื่นดาบที่บินอยู้บนท้องฟ้า และสีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมมาก

ฮ่องเต้รู้ตำนานเกี่ยวกับหมื่นดาบแห่งบรรพบุรุษ

ตามตำนาน หมื่นดาบแห่งบรรพบุรุษสลายตัวไปเมื่อหลายพันปีก่อน และหัวใจดาบก็เข้าสู่สภาวะหลับลึก

หากหัวใจดาบตื่นขึ้นมา มันจะเป็นลางการกลับมาของหมื่นดาบแห่งบรรพบุรุษ

ฮ่องเต้รู้ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับหัวใจดาบครอบครองร่างของชิงหลงและได้ทำอะไรไว้ในเมืองหลวง

ชิงหลงวิ่งไล่ตามเว่ยอวี๋ไปทั่วถนนและขอให้รวมตัวกับเว่ยอวี๋ ฮ่องเต้ยังรู้ด้วยว่าชิงหลงยอมรับเซียวเฉวียนเป็นนายท่านของเขา

หัวใจดาบผู้สง่างามยอมรับเซียวเฉวียนเป็นนายท่านของเขา เรื่องนี้แม้ว่าฮ่องเต้จะมีข้อสงสัย แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้

แต่ว่า ฮ่องเต้ไม่เชื่อว่าเว่ยอวี๋จะตกลงที่จะรวมตัวกับหัวใจดาบ อย่างไรก็ตาม เพราะเว่ยอวี๋เคยชินกับการอยู่เฉยๆและไม่มีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่

ในเมื่อตอนนี้ มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นมา ฮ่องเต้จึงต้องคิดใหม่เกี่ยวกับปัญหานี้

แม้ว่าเว่ยอวี๋จะมาจากฮว๋าเซี่ยเหมือนกับเซียวเฉวียน แต่เว่ยอวี๋ก็มีคุณสมบัติปานกลางและไม่ได้ทำอะไรเลย สามารถพุดได้ว่าเว่ยอวี๋คือตรงกันข้ามของเซียวเฉวียน

ยิ่งไปกว่านั้น เว่ยอวี๋ยังได้ปฏิเสธกับการรวมตัวอย่างเด็ดขาดก่อนหน้านี้ แล้วทำไมเขาถึงตอบตกลงที่จะรวมตัวกะทันหันแบบนี้ล่ะ?

เรื่องนี้ดูยังไงก็มีเงื่อนงำ

เว่ยอวี๋อยู่ใกล้กับเซียวเฉวียนมาโดยตลอด เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ฮ่องเต้จำเป็นต้องสงสัยว่ามีความจริงบางอย่างที่อยู่เบื้องหลังของชิงหลงที่ยอมรับเซียวเฉวียนเป็นนายท่าน หรือว่ามีบางอย่างที่ฮ่องเต้ไม่รู้?

“ใต้เท้าสวี ท่านคิดอย่างไรเกี่ยวกับสถานการณ์ตอนนี้?”ฮ่องเต้มองไปที่สวีซูผิงที่อยู่ข้างๆด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน

สวีซูผิงเพิ่งหยิบถ้วยชาขึ้นมาและกำลังจะจิบน้ำก็ได้ยินคำพูดนั้นจึงวางถ้วยชาลง เขายิ้มให้ฮ่องเต้แล้วพูดว่า:"ฝ่าบาทท่านพูดเล่นเก่งมาก ความสามารถของกระหม่อมนั้นอ่อนแอนัก คิดอะไรแบบง่ายๆ จะมองออกเรื่องนี้ได้อย่างไร?”

ตามที่สวีซูผิงกล่าว ท้องฟ้าจะฝนตก แม่ต้องการแต่งงาน แปลว่าสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และผ่านพ้นไม่ได้และไม่ขึ้นอยู่กับเจตจำนงและความคิดของผู้อื่น ไม่ว่าหัวใจดาบจะรวมตัวกับใครหรือจะยอมรับใครเป็นนายท่านก็ตาม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับมัน

เรื่องที่บรรพชนเหล่านี้จะทำ คนรุ่นหลังอย่างพวกเขาจะทำอะไรได้ และพวกเขาก็ไม่สามารถไปห้ามด้วย ไม่ใช่?

ปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตาจะดีกว่า

ฮ่องเต้หรี่ตาลง และเหลือบไปมองสวีซูผิงอย่างสงสัย นี่มันไม่เหมือนนิสัยปกติของสวีซูผิง

เมื่อก่อน หากมีเรื่องอะไร สวีซูผิงจะเป็นคนแรกที่ไปนินทา ก่อนที่ฮ่องเต้จะเปิดปากพูด สวีซูผิงก็จะเริ่มพูดก่อนพูดไม่หยุด

สวีซูผิงในวันนี้กลับเงียบไม่พูดอะไรเลย มันแปลกมาก สวีซูผิงต้องรู้อะไรบางสิ่งบางอย่างที่ฮ่องเต้ไม่รู้แน่เลย และไม่สามารถบอกฮ่องเต้ได้

“ใต้เท้าสวี พูดมาตามตรง ท่านรู้อะไรบางสิ่งบางอย่างใช่หรือไม่”ฮ่องเต้จ้องมองสวีซูผิงอย่างไม่ละสายตา

ตำนานเล่าไว้ว่า หมื่นดาบแห่งบรรพบุรุษสามารถควบคุมอาวุธจากคุนหลุนได้

แต่อาวุธของต้าเว่ย วัสดุเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์มาจากคุนหลุน

ใช้คำพูดอีกแบบก็คือ หากหมื่นดาบแห่งบรรพบุรุษกลับมาแล้วเกิดเปิดศึกสงครามด้วยเจตนาชั่วร้าย ตราบใดที่เขาใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบโดยใช้คำสั่งใช้อาวุธจากคุนหลุน สงครามครั้งนี้ยังไม่ได้เริ่มต้นด้วยซ้ำ อาวุธของกองทัพข้าก็ถูกหมื่นดาบแห่งบรรพบุรุษยึดมันไปแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย