อ่านสรุป บทที่ 1253 องค์หญิงตกอยู่ที่น่าลำบาก จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ บทที่ 1253 องค์หญิงตกอยู่ที่น่าลำบาก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เป็นไปได้หรือไม่ว่าหมิงเจ๋อจักจำคนผิดไป หรืออาจจะมีคนแสร้งปลอมตัวเป็นเซียวเฉวียนเพื่อลงมือกระทำกับหมิงเจ๋อเช่นนี้ก็เป็นได้ เพียงเพื่อต้องการจะใส่ร้ายป้ายสีเซียวเฉวียน?
ทว่า เรื่องเช่นนี้นักปราชญ์หาได้กล้าเอ่ยออกไปไม่ เขามิต้องการให้หมิงเจ๋อรู้สึกไม่ดี
อีกทั้ง ในยามนี้ท่านนักปราชญ์เองก็ยังเอาตัวไม่รอดแล้ว หมิงเจ๋อเอ่ยสิ่งใดในยามนี้ ท่านนักปราชญ์จึงได้แต่ฟังคำเขาเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นใดเขาหาได้สนใจไม่
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ท่านนักปราชญ์มิรู้ว่าแก้วตาดวงใจแห่งราชวงศ์ซินเจียงนั้นมีประโยชน์อันใดต่อตัวเขาบ้าง หากเขารู้แล้วละก็ เขาย่อมมั่นใจได้ว่าเซียวเฉวียนจักทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน
อีกทั้ง เพียงเพื่อเป้าหมายของตนเองแล้วนั้น เขาสามารถทำทุกวิถีทางและทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ เขาพลันคิดไปเองว่าทั้งเขาและเซียวเฉวียนเองก็เป็นจำพวกเดียวกัน รวมไปถึงผู้คนในใต้หล้าที่เป็นเหมือนเขาด้วยเช่นกัน
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ในยามนี้ท่านมีแผนการเช่นไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?” นักปราชญ์พลางอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองหมิงเจ๋ออยู่ครู่หนึ่ง ในเมื่อหมิงเจ๋อตกอยู่ในสภาพเช่นนี้แล้ว เขาย่อมมิมีทางขึ้นเป็นมกุฎราชกุมารของแว่นแคว้นไปได้อย่างแน่นอน
มิมีแว่นแคว้นใด ที่จักเอาคนที่พิกลพิการเช่นนี้ขึ้นมานั่งอยู่บนบัลลังก์อันสูงส่งหรอก
วันวานที่ผ่านมา หมิงเจ๋อที่เคยมีท่าทีสง่างามองอาจและงดงามเช่นใดนั้น
ในยามนี้ ...ช่างน่าเสียดายเสียจริง
ในใจของท่านนักปราชญ์เองพลันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจต่อหมิงเจ๋อออกมา ถึงอย่างไรเขาก็เป็นถึงองค์รัชทายาท
ทว่า ท่านนักปราชญ์เพียงแค่รู้สึกเสียใจเท่านั้น หากแต่เขาหาได้รู้สึกผิดในตนเองไม่ที่เป็นผู้ชักชวนให้หมิงเจ๋อมีใจคิดที่จะสังหารเซียวเฉวียนไม่
ความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของท่านนักปราชญ์นั้น หมิงเจ๋อเข้าใจมันเป็นอย่างดี
หากเป็นผู้อื่นมาเอ่ยถามเรื่องนี้แล้วละก็ หมิงเจ๋อย่อมคิดว่าคนผู้นั้นกำลังเอ่ยล้อเลียนและเยาะเย้ยตนเองอยู่เป็นแน่
ทว่า ท่านนักปราชญ์คือบุคคลที่หมิงเจ๋อรักและให้เคารพมากที่สุด ฉะนั้นแล้วหมิงเจ๋อหาได้กล้าที่จะระบายโทสะของตนเองใส่กับท่านนักปราชญ์ไม่
ยิ่งไปกว่านั้น หมิงเจ๋อเองก็ยังคงต้องพึ่งพาใบบุญของท่านนักปราชญ์ในการสังหารเซียวเฉวียนด้วยเช่นกัน
หมิงเจ๋อพลันถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะหันไปเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความเคร่งเครียดว่า "เป้าหมายขององค์รัชทายาทเช่นข้าในยามนี้ เพียแค่ต้องการสังหารเซียวเฉวียนลงเท่านั้น!"
ส่วนเรื่องอื่น ๆ รอจนกว่าเขาจะสังหารเซียวเฉวียนเสร็จค่อยว่ากัน
ไม่นานนัก ทั้งสองคนจึงหารือกันถึงแผนการที่จะสังหารเซียวเฉวียนในทันที
ท่านนักปราชญ์พลางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวออกมาว่า "มิอาจปิดบังฝ่าบาท ทว่า เซียวเฉวียนในยามนี้มีทั้งพลังและอำนาจกล้าแกร่งมากนัก รอบกายของเขาต่างก็มีแต่ผู้มากวรยุทธ์รายล้อม แม้แต่ตัวผู้เฒ่าเช่นข้าก็ยังจนปัญญา "
หลังจากที่เดินทางไปเยือนต้าเว่ยมานั้น ทำเอานักปราชญ์แทบจะล้มละลายไปในทันที ทั้งยังต้องขาดทุนเสียเสวี่ยนอวี๋ไปอีกหนึ่งตัวอีก
ขาดทุน ขาดทุนยิ่งนัก
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หมิงเจ๋อพลันยกยิ้มมุมปากขึ้นมาด้วยท่าทีมาดร้ายในทันที ก่อนจะกล่าวออกมาว่า "มิสำคัญ มนุษย์เช่นเราอย่างไรย่อมมีจุดอ่อนด้วยกันทั้งนั้น"
หมิงเจ๋อพลันครุ่นคิดอยู่ในใจ ในเมื่อองค์หญิงต้าถงถูกเซียวเฉวียนปกป้องราวกับไข่ในหินเช่นนี้ เพียงเพื่อเซียวเฉวียนแล้ว องค์หญิงต้าถงมินึกลังเลใจเลยที่จะลอบวางแผนสังหารพี่ชายเช่นหมิงเจ๋อผู้นี้ หมิงเจ๋ออยากจะรู้ยิ่งนักว่าเซียวเฉวียนจะสามารถปกป้องนางได้อีกหรือไม่!
ตราบใดที่องค์หญิงและบุตรของนางตกอยู่ในกำมือของเขาแล้วนั้น หมิงเจ๋อมิเชื่อหลอกว่าตนเองมิอาจทำอันใดเซียวเฉวียนได้!
เซียวเฉวียนคิดจริง ๆ หรือว่า การที่พาองค์หญิงกลับไปที่แคว้นต้าเว่ยนั้นเป็นเรื่องที่ดี?
เป็นเรื่องที่พลาดเสียยิ่งกว่าพลาดเสียอีก
อย่าลืมว่า ข้างกายขององค์หญิงนั้นเป็นคนของหมิงเจ๋อ
ยามที่เสวี่ยเยี่ยนติดตามหมิงเจ๋อนั้น นางเป็นถึงองครักษ์ชั้นดีของหมิงเจ๋อเลยทีเดียว
ในหมู่ของผู้คนในราชวงศ์ซินเจียงนั้น พลันมีข้อตกลงอย่างหนึ่งที่มิค่อยยุติธรรมมากเท่าใดนัก นั่นก็คือองครักษ์ชั้นดีขององค์จักรพรรดิและมกุฎราชกุมารจักสามารถทำพันธสัญญาทางจิตวิญญาณได้เฉพาะกับผู้เป็นนายของตนเองเท่านั้น
เมื่อพันธสัญญานี้เมื่อได้เกิดขึ้นแล้วนั้น ทั้งนายและบ่าวย่อมสามารถสัมผัสและรู้ซึ้งได้ถึงตำแหน่งของกันและกันเป็นอย่างดี
นั่นก็หมายความว่า ทั้งหมิงเจ๋อและเสวี่ยเยี่ยนได้ทำพันธสัญญาทางจิตวิญญาณแล้ว
ที่พวกเขาทำพันธสัญญาขึ้นมานั้น ก็เพื่อในยามที่หมิงเจ๋อตกอยู่ในอันตรายเสวี่ยเยี่ยนก็จักสามารถสัมผัสได้ถึงตำแหน่งของหมิงเจ๋อในทันทีว่าอยู่ที่ใด และสมารถไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที
มิคิดเลยว่า พันธสัญญานี้จะยังมีประโยชน์เรื่องอื่น ๆ อีกด้วย หมิงเจ๋อสามารถใช้ตำแหน่งของเสวี่ยเยี่ยนในการค้นหาตำแหน่งที่ซ่อนตัวขององค์หญิงได้
เช่นนี้หมิงเจ๋อก็จักสามารถจับตัวองค์หญิงได้โดยไร้ซึ่งอุปสรรคปัญหาใด ๆ
เวลามิคอยท่าแล้ว หมิงเจ๋อจึงบอกตำแหน่งที่อยู่ขององค์หญิงให้นักปราชญ์ได้รับรู้ในทันที เพื่อให้นักปราชญ์ได้ส่งคนไปจัดการได้
จางเคอพลางจับจ้องมองดูองค์หญิงด้วยดวงตาเป็นประกาย ทั้งยังแอบครุ่นคิดภายในใจว่า งาม งดงามยิ่งนัก
เมื่อเทียบกับฮูหยินและเหล่าอนุภรรยาที่อยู่ในจวนของจางเคอแล้วนั้น มิรู้ว่าองค์หญิงงามกว่าพวกนางกี่เท่าตัวกัน
หากเขาได้องค์หญิงมาครอบครองแล้วละก็ นับว่าเป็นโชคดีของจางเคอยิ่งนัก
“ชู่” จางเคอพลันยกนิ้วชี้ขึ้นมาจรดที่ริมฝีปากของตนเพื่อส่งสัญญาณให้องค์หญิงเงียบเข้าไว้
“เสวี่ยเยี่ยนถูกกระหม่อมทำให้หมดสติไปแล้ว หากมิผ่านหนึ่งวันหนึ่งคืนไปได้นั้นเกรงว่านางคงมิฟื้นขึ้นมาให้พระองค์หรอกพ่ะย่ะค่ะ” จางเคอค่อย ๆ กระตุกยิ้มมุมปากของตนเองขึ้นมาอย่างได้ใจ “คนที่อยู่ข้างนอกนั้นล้วนแต่เป็นคนของกระหม่อม ฉะนั้นแล้ว ไม่ว่าองค์หญิงจะร้องเรียกตะโกนอันใดหาได้เป็นผลไม่”
เสียงที่เสวี่ยเยี่ยนได้ยินเมื่อครู่นั้นมาจากฝีมือของจางเคอ
นั่นก็เพื่อต้องการหลอกล่อให้เสวี่ยเยี่ยนออกไป
พูดจบ จางเคอจึงค่อย ๆ ก้าวขึ้นหน้าไปหาองค์หญิงอย่างช้า ๆ
เมื่อองค์หญิงเห็นท่าทีเช่นนั้น พระนางพลันชักกริชออกมาก่อนจะชี้ไปทางจางเคอด้วยท่าทีตื่นตระหนกในทันที ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนตัวหลบหนี พลางเอ่ยข่มขู่จางเคอว่า "เจ้าอย่าเข้ามา หากเจ้าเข้ามาข้าจักสังหารเจ้าเสีย"
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวขององค์หญิงแล้วนั้น บุตรีตัวน้อยของนางพลันส่งเสียงร้องไห้ออกมาในทันที
องค์หญิงที่ต้องคอยระวังตัวจากจางเคอนั้น มืออีกข้างพลางเอื้อมไปอุ้มบุตรีของพระนางขึ้นมาในอ้อมอก ก่อนจะเอ่ยปลอบใจว่า "เด็กดี เจ้าอย่าร้องนะ"
นับว่าน่าแปลกใจยิ่งนัก ราวกับว่าเจ้าบุตรีตัวน้อยของนางจักเข้าใจในคำพูดของตน ไม่นานนักเสียงร่ำไห้ของเจ้าตัวน้อยจึงค่อย ๆ หยุดไป
เสมือนกับว่านางเข้าใจทุกอย่าง หากว่าเซียวเฉวียนอยู่ที่นี่ละก็ เขาย่อมสงสัยว่าเจ้าตัวน้อยนี้แสร้งร่ำไห้ออกมาหรือไม่
เจ้าตัวน้อยยังคงอยู่ในอ้อมอกขององค์หญิงทั้งยังเอียงหัวเข้าหาอ้อมกอดที่อบอุ่น ก่อนจะคลี่ยิ้มหวานบนใบหน้าส่งมาให้พระนางแทน
องค์หญิงที่เห็นเช่นนั้น พลันอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...