ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1259

สรุปบท บทที่ 1259 ภาระของไอดอล: ซูเปอร์ลูกเขย

บทที่ 1259 ภาระของไอดอล – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย

ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1259 ภาระของไอดอล จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เรื่องทำตัวให้เขาเกลียดชัง อี้กุยก็อยากจะทำ

ช่างเถอะ ช่างเถอะ เซียวเฉวียนไม่เข้าใจไอ้ความเบื่อหน่ายของคุณชายร่ำรวยที่สืบทอดธุรกิจของครอบครัวมา ไม่อาจรู้สึกได้อย่างที่เขากำลังประสบ

สักพักใหญ่ๆ เซียวเฉวียนก็พูดอย่างเบา ๆ "อย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน"

แล้วก็ หวังว่าลูกหลานของอี้กุยจะเข้าใจความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของอี้กุย เมื่อวันหนึ่งพวกเขานั่งกินจนไม่เหลืออะไรเลย พวกเขาต้องไม่ตำหนิอี้กุยที่ไม่ทิ้งมรดกอันมั่งคั่งไว้ให้พวกเขา

นำโม อมิตาภะ

แต่แล้ว อี้กุยกลับกล่าวอย่างมุ่งมั่นเด็ดขาด "ลุงปู่ ไม่ต้องห่วง อี้กุยจะไม่เสียใจ นอกจากนี้ อี้กุยแบ่งเบาภาระให้ลุงปู่ได้ อี้กุยยินดีเป็นอย่างยิ่ง"

ดูแลจัดการกิจการของเซียวเฉวียน ทำให้อี้กุยรู้สึกภาคภูมิใจถึงความสำเร็จ

นอกจากนี้ วันๆ ก็ผ่านไปอย่างมีเนื้อหาสาระด้วย

โดยรวมแล้ว ตั้งแต่ยอมรับเซียวเฉวียนเป็นลุงปู่แล้ว อี้กุยก็ตระหนักว่าที่แท้สามารถใช้ชีวิตอย่างมีสีสันเช่นนี้ได้

คิดถึงสิบกว่าปีที่ผ่านมา มันน่าเบื่อ ใช้ชีวิตมาอย่างเสียเปล่าจริงๆ

ได้ยินสิ่งที่อี้กุยคิดในใจ เซียวเฉวียนก็พูดอย่างใจเย็น "ตกลง ถ้าเจ้าคิดดีแล้ว"

ตามความเข้าใจของเซียวเฉวียนเกี่ยวกับอี้กุย ถ้าเขาไม่ขัดจังหวะสติที่ล่องลอยของอี้กุย ปล่อยให้เขาเหม่อลอยแบบนี้ต่อไป ดีไม่ดีอี้กุยอาจจะทำสิ่งที่วิปริตยิ่งกว่านี้

เช่น คิดอยากเข้าอยู่ในจวนเซียว

กังวลเรื่องอะไร เรื่องนั้นถึงตัวจริงๆ

ความคิดของเซียวเฉวียนนี้เพิ่งผุดเข้ามาในใจ อี้กุยก็มองตาแป๋วมายังเซียวเฉวียน กะพริบตาแล้วพูดว่า "ลุงปู่ หรือว่าอี้กุยก็ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในจวนเซียวด้วย ดีไหม "

มาอาศัยอยู่ในจวนเซียว อี้กุยสะดวกรายงานตัวต่อเซียวเฉวียน นี่คือข้ออ้างอย่างเป็นทางการของอี้กุย

แต่ที่แท้ อย่าคิดว่าเซียวเฉวียนไม่รู้ว่าอี้กุยกำลังมีแผนอะไรอยู่ อี้กุยต้องการอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับเซียวเฉวียน อย่างชัดเจน เพื่อที่อี้กุยจะติดตามไอดอลของเขาได้ง่ายขึ้น

เจอหน้ากับเหมิงเอ้า แฟนตัวยงทุกวันก็ทำให้เซียวเฉวียนปวดหัวพออยู่แล้ว อี้กุยมาอีกคน เซียวเฉวียนจะเอาไม่อยู่

กลัวแล้วจริงๆ แฟนพวกนี้

ภาระของไอดอลไม่ใช่หนักธรรมดาเสียด้วย

“เจ้าเป็นเจ้าของหอคุนหวูแท้ๆ จะมาอาศัยอยู่จวนเซียว ไม่น่าจะเหมาะกระมัง” เซียวเฉวียนจะช่วยให้อี้กุยล้มเลิกความคิดที่จะมาอยู่จวนเซียวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้

ความหมายชัดเจนมาก เซียวเฉวียนปฏิเสธคำขอของอี้กุยอย่างสุภาพ

ในความเป็นจริง เหตุผลสำคัญที่เซียวเฉวียนไม่ให้อี้กุยมาอาศัยอยู่ในจวนเซียว ก็เพราะว่าเซียวเฉวียนไม่ต้องการเข้าใกล้อี้กุยมากเกินไปในสายตาของสาธารณชน นี่ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับอี้กุย

เพราะว่า ไม่รู้มีสายตากี่มากน้อยแอบซ่อนอยู่ในที่มืดคอยเฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของจวนเซียว

หากมีคนพบเห็นว่าอี้กุยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเซียวเฉวียนมากเกินไป พวกเขาจะต้องพยายามยึดอี้กุยเป็นตัวประกันและบังคับให้เซียวเฉวียนยอมจำนน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ อี้กุยก็ยิ้มเบา ๆ และพูดว่า "ลุงปู่ไม่ต้องห่วง ข้าป้องกันตัวเองได้"

จะไม่นำความเดือดร้อนมาสู่จวนเซียวเป็นอันขาด

แต่ว่า ไม่ว่าอี้กุยจะพูดอะไร เซียวเฉวียนเหมือนจะไม่ได้ยินทั้งนั้น ตัดใจแล้วที่จะไม่ให้อี้กุยเข้ามาอยู่

”ไม่ได้ หากเจ้ายืนกรานที่จะเข้ามาอยู่ ก็อยู่ในจวนเซียวเฉยๆ ไม่ต้องดูแลกิจการของจวนเซียวแล้ว” เซียวเฉวียนจับจุดอ่อนของอี้กุย กล่าวอย่างเป็นกิจจะลักษณะ

พออี้กุยได้ยินอย่างนั้น พูดอย่างโกรธเคือง "ลุงปู่ ท่านทำอย่างนี้ได้ยังไง ?"

มีคนเยอะแยะเข้ามาอยู่ได้ เพิ่มอี้กุยอีกคนก็ไม่ได้มากมายอะไรนี่

ฮึ !

เกินไปล่ะ !

ลำเอียง !

ลุงปู่ไม่ชอบอี้กุยแล้วหรือ ?

ทันใดนั้น อี้กุยดูเหมือนเด็กที่ถูกทอดทิ้ง สีหน้ามีแต่ความน้อยเนื้อต่ำใจ

เซียวเฉวียนทำเป็นมองไม่เห็น

นี่เอามาเทียบได้ยังไง ?

อี้กุยเป็นชนพื้นเมือง เป็นบุคคลที่มีหน้ามีตาในราชวงศ์ต้าเว่ย รากฐานของเขาอยู่ที่ต้าเว่ย

น่าหวงแหนตรงไหน ?

พอได้ยิน เซียวเฉวียนแทบจะหัวเราะออกมาให้ได้

เขาไอแห้งๆ แล้วพูดว่า "เสี่ยวอี้ เขาไม่ได้กินพริกแบบนั้น เวลาผัดเนื้อสัตว์ ใส่นิดหนึ่ง ให้มีรสเผ็ดนิดหน่อย จะอร่อยมาก ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้"

ขอให้อี้กุยลองทำดู เซียวเฉวียนรับรองว่า อี้กุยจะเป็นเหมือนตราจูเสิน จะขาดเผ็ดไม่ได้เลย

อี้กุยมักเชื่อฟังคำพูดของเซียวเฉวียนเสมอ เขาพยักหน้า และพูดว่า "ตกลง กลับไปจะลองเลย"

“อึ่ม พริกกระถางนั้น ข้ายกให้เจ้า” เซียวเฉวียนยิ้มๆ และพูดอย่างร่าเริง

”ขอบคุณ ลุงปู่” อี้กุยผู้ซึ่งไม่เคยขัดสนอะไรเลย ดีใจจนเหมือนคนปัญญาอ่อนเพียงเพราะเซียวเฉวียนยกพริกให้เขากระถางหนึ่ง ขอบคุณต่อหน้าเซียวเฉวียนแล้วขอบคุณอีก

มีเหตุผลเพียงอันเดียว เพราะเซียวเฉวียนเคยกล่าวไว้ว่าพริกกระถางนี้มีค่าสำคัญมาก

ของเช่นนี้ เซียวเฉวียนยินดีมอบให้กับอี้กุย หากไม่ใช่ความรักที่แท้จริงจะเรียกว่าอะไร ?

พอได้คิดว่าเซียวเฉวียนทำดีกับเขาขนาดนี้ อี้กุยก็รู้สึกมีความสุขอย่างหวานซึ้ง

เซียวเฉวียนซึ่งรับรู้ในกิจกรรมทางจิตวิทยาของอี้กุย พูดไม่ออกได้แต่กายหน้าผาก

ไม่คิดว่า อี้กุยจำคำโกหกได้อย่างชัดเจนที่เขาสร้างขึ้นในเวลานั้นเพื่อไม่ให้อี้กุยติดตามเขาไปยังภูมิภาคตะวันตก

เป็นบาปกรรมแท้ๆ ที่ไปหลอกชายหนุ่มซึ่งไม่รู้อีโหน่อีเหน่เช่นนี้

ไม่เคยคาดคิดเลยว่า ผู้นำหอคุนหวูที่มีชื่อเสียงโด่งดังในต้าเว่ยจะมีความพึงพอใจเพียงเท่านี้และหลอกได้ง่ายขนาดนี้

พริกหนึ่งกระถางก็ทำให้เขามีจิตใจเบิกบานสะพรั่งได้

เห็นใบหน้าที่มีความสุขของอี้กุย เซียวเฉวียนเบนสายตาออกไป แสดงให้รู้ว่าเขาไม่อยากเห็น

ตอนนี้ ทั้งสองคนได้ยินเสียงเรียกของฉินซูโหรว "ท่านราชครู"

ได้ยินปั๊บ เซียวเฉวียนก็เดินออกไป ต้อนรับฉินซูโหรวเข้ามา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย