ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1260

สรุปบท บทที่ 1260 เป็นม้ามืดแท้ๆ: ซูเปอร์ลูกเขย

ตอน บทที่ 1260 เป็นม้ามืดแท้ๆ จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1260 เป็นม้ามืดแท้ๆ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ฉินซูโหรวมาที่จวนเซียว เพียงเพราะเธอต้องการติดตามเหตุและผลที่ตามมาของเหตุการณ์ดาบบินว่อนพร้อมกันและเพื่อดูว่าเซียวเฉวียนสบายดีอยู่หรือไม่

ไม่คิดว่า อี้กุยก็มาที่นี่โดยบังเอิญ

“ขอคารวะเจ้าหญิง” เมื่อเห็นฉินซูโหรว อี้กุยก็ทักทายเธออย่างมีมารยาท

“คุณชายอี้ให้เกียรติแล้ว ที่นี่ไม่มีคนนอก ไม่จำต้องพิธีรีตองก็ได้” ฉินซูโหรวพูดอย่างเป็นกันเอง ขณะที่เธอพูด ฉินซูโหรวก็เหลือบมองอี้กุยโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ และคิดในใจ อี้กุยมาที่จวนเซียว ก็คงเพราะเรื่องของวันนั้นกระมัง

โดยบังเอิญ อี้กุยสังเกตพบเห็นฉินซูโหรวแอบมองเขาอยู่ ทันใดนั้นระลอกคลื่นปรากฏขึ้นในใจของเขาและใบหน้าย้อมเป็นสีแดงทันที

เห็นสภาพนี้ เซียวเฉวียนก็เข้าใจ ไอ้หมอนี้น่าจะคิดอะไรต่อฉินซูโหรว

ในขณะเดียวกัน เซียวเฉวียนก็แอบมองไปที่ฉินซูโหรวอย่างลับๆ พอได้เห็น อี้กุยกับฉินซูโหรวก็เหมาะสมเป็นคู่ได้จริงๆ

และอี้กุยก็เป็นเด็กนิสัยดี เป็นบุคคลที่เหมาะเป็นสามีอย่างแน่นอน

เสียอยู่อย่างเดียวคือ วงศ์ตระกูลเทียบกับตระกูลฉินด้อยไปนิดหนึ่ง

พูดง่ายๆ ก็คือวงศ์ตระกูลมีฐานะไม่เท่าเทียมกัน

ในสมัยโบราณ ผู้คนถูกแบ่งออกเป็นสี่ชนชั้น ได้แก่ ข้าราชการ ชาวนา แรงงาน และพ่อค้า โดยพ่อค้าจะมีสถานะต่ำที่สุด

พูดให้เข้าใจ ไม่ว่าครอบครัวของอี้กุยจะร่ำรวยแค่ไหน กิจการค้าจะดีแค่ไหน เขาก็คือพ่อค้า

แต่ตระกูลฉินเป็นตระกูลแม่ทัพนายพล ฉินซูโหรวจึงเป็นลูกหลานแห่งตระกูลมีชื่อเสียง ทั้งยังเป็นเจ้าหญิงที่จักรพรรดิแต่งตั้งให้ด้วยพระองค์เอง มีสถานะสูงส่ง

ถึงแม้ฉินซูโหรวจะมีความรู้สึกรักต่ออี้กุยเช่นกัน สองคนคิดจะไปด้วยกันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

เรื่องสองคนจะอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่เรื่องเฉพาะระหว่างพวกเขาสองคนอีกต่อไป แต่ได้ขึ้นเป็นระดับชั้นทำลายขนบธรรมเนียมประเพณีอันเข้มงวด

ถูกลิขิตว่าต้องมีอุปสรรคมากมาย

เว้นแต่องค์จักรพรรดิจะทรงประทานงานสมรสเป็นส่วนพระองค์ เช่นเดียวกับที่องค์จักรพรรดิทรงทำกับเซียวเฉวียนและองค์หญิง จึงจะสามารถปิดปากของสาธารณชนได้

ขนบธรรมเนียมประเพณีที่เสื่อมเสียในสมัยโบราณนี้ รอให้เซียวเฉวียนโค่นล้มกลุ่มเว่ยเชียนชิวแล้ว ก็คงเสนอให้องค์จักรพรรดิทรงปฏิรูปสักหน่อย

คนสองคนที่รักกันจริงไม่ควรถูกขนบธรรมเนียมประเพณีขัดขวาง

“เจ้าหญิงเสด็จมาที่จวนเซียว มีธุระอันใดหรือ ?” หลังจากฉินซูโหรวนั่งลง เซียวเฉวียนถามพลางไอแห้งๆ

ฉินซูโหรวลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ขอโทษที่ศิษย์ล่วงเกิน ศิษย์มาวันนี้ มีเรื่องต้องขอคำชี้แนะจากท่านราชครูจริงๆ"

“เจ้าหญิงเชิญถาม” พูดเสร็จ เซียวเฉวียนหันไปมองอี้กุย พบว่าสายตาของอี้กุยแอบจ้องมองที่ฉินซูโหรวเป็นครั้งคราว

ดูลักษณะ อี้กุยสนใจฉินซูโหรวเข้าแล้ว

เป็นเรื่องที่ดี แต่จะลงเอยได้ไหม พูดยาก

“ท่านราชครู ในวันที่ดาบบินว่อนมารวมกัน ศิษย์บังเอิญอยู่ในหอคุนหวูเพื่อหารือเรื่องบางอย่างกับคุณชายอี้ ทีแรก เห็นดาบของหอคุนหวูบินออกไปก่อน ตอนหลังมีดาบบินออกไปมากขึ้น ชาวบ้านเล่าลือว่า นี่เป็นลางบอกจอมดาบจะฟื้นชีพกลับมา เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ?”

ฉินซูโหรวถามอย่างตรงประเด็น

เกิดเป็นลูกหลานตระกูลแม่ทัพนายพล ฉินซูโหรวทำตัวตรงไปตรงมา ไม่ชอบอืดอาดยืดยาด

เกี่ยวกับจอมดาบ ฉินซูโหรวรู้อะไรไม่มาก

ถึงจะมีข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องจอมดาบลือกันอย่างอึกทึก แต่ข่าวลือก็คือข่าวลือ บางครั้งก็ไม่น่าเชื่อถือมากนัก

ฉินซูโหรวคิดๆ แล้ว ยังคงรู้สึกว่าจำเป็นต้องขอให้เซียวเฉวียนยืนยันหน่อย

พอได้ยิน เซียวเฉวียนก็พยักหน้าและพูดว่า "อึ่ม มันเป็นเรื่องจริง"

“ข่าวลือล้วนบอกว่า จอมดาบมีความเกี่ยวข้องกับท่านราชครู มันหมายความว่าอะไร ?” ฉินซูโหรวถามต่อ ขณะที่เธอพูด ฉินซูโหรวก็ไม่ลืมที่จะมองไปที่เซียวเฉวียนโดยไม่ให้ใครเห็น

ฉินซูโหรวเพิ่งพบกับเซียวเฉวียนเป็นครั้งแรก หลังจากที่แยกกันจากภูมิภาคตะวันตก

ตอนนี้ เซียวเฉวียนดูสูงขึ้นอีกมาก บนตัวเขามีพลังรัศมีดูน่าเกรงขามแต่ไม่ดุ พูดให้ถูกคือ รัศมีอันเยือกเย็นในตัวเขาเข้มข้นขึ้น จึงทำให้ผู้คนรู้สึกถึงแรงกดดันบางอย่าง

ชายที่โดดเด่นเช่นนี้ เดิมทีควรจะเป็นของฉินซูโหรว แต่เทวดาเล่นตลก สุดท้ายเขาจึงกลายเป็นสามีขององค์หญิง ช่างเป็นโชคชะตาที่พลิกผันจริงๆ

จมูกของฉินซูโหรวอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเปรี้ยว เธอสูดอากาศเย็น ๆ พยายามบีบรอยยิ้มแล้วพูดว่า "เยี่ยมมาก งั้นศิษย์ยังมีภารกิจติดตัวต้องทำ ต้องเร่งเวลา ไม่ขอไปเยี่ยมพวกเขาแล้ว ฝากความคิดถึงผ่านท่านราชครูด้วย“

พูดจบ ฉินซูโหรวก็ยืนขึ้น กล่าวคำอำลา หันหลังกลับแล้วจากไปอย่างเร่งรีบ

หากเธออยู่ที่นั่นต่อ ฉินซูโหรวเกรงว่าเธอจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้

ถ้าเซียวเฉวียนรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แล้วในวันข้างหน้าเธอควรจะคบหากับเซียวเฉวียนอย่างไร ?

เธอและเซียวเฉวียน ถูกชะตากรรมลิขิตไว้ให้เป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิตแล้ว

เธอไม่อยากสูญเสียแม้กระทั่งฐานะที่จะยืนเคียงข้างเซียวเฉวียน ไม่อยากให้ทั้งสองคนต้องตะขิดตะขวงใจ

ด้วยวิธีนี้ อยู่ด้วยกันอย่างฐานะเพื่อน หรือระหว่างครูกับลูกศิษย์ ก็ดีไม่น้อย

เมื่อเห็นฉินซูโหรวรีบๆ จากไป ดวงตาของเซียวเฉวียนก็ฉายแววแสดงความชื่นชมขึ้นมา

ฉินซูโหรว หญิงเฝ้าหออยู่เรือนในยุคโบราณคนหนึ่ง รู้เหตุรู้ผล รู้อะไรควรได้อะไรควรเสีย หาได้ยากจริงๆ

ขอเพียงฉินซูโหรวยังคงเหมือนเดิม เซียวเฉวียนก็จะทำตามสัญญาของเขาที่มีต่อฉินปาฟาง ปกป้องฉินซูโหรว ปกป้องตระกูลฉิน

สำหรับอี้กุย เขาอยากจะจากไปนานแล้ว

แต่เมื่อเห็นฉินซูโหรวมา จึงนั่งอยู่ต่อสักครู่หนึ่ง

เพื่อไม่ให้เซียวเฉวียนเห็นพิรุธ อี้กุยจึงนั่งอีกสักพักหนึ่ง แล้วจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน พูดว่า "ลุงปู่ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว อี้กุยก็ขอกลับไปก่อน"

อุบายกระจุ๋มกระจิ๋มในใจของอี้กุย จะหลอกสายตาเซียวเฉวียนได้อย่างไร

แต่ว่า มองผ่านๆ ไป เป็นกุศลอย่างดีที่สุด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย