ตอน บทที่1270 ต้องการทำอะไร จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่1270 ต้องการทำอะไร คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
หวังหลินได้รับการมอบหมายหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่กะทันหันแบบนี้ จึงตัวสั่นอยู่พักหนึ่งและพูดอะไรไม่ออกเลย
จะปฏิเสธก็ไม่ใช่ หรือจะตอบรับมันก็ไม่ใช่
หากเขาปฏิเสธ เขาจะทรยศต่อความตั้งใจของเซียวเซียนชิว ไม่แน่หากวันหลังมีงานธุระอะไรให้ไปทำเว่ยเชียนชิวก็จะไม่เรียกใช้หวังหลินอีกต่อไป
แต่หวังหลินไม่เคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์ และไม่มีประสบการณ์อะไรเลย หากเขาตอบรับที่จะรับผิดชอบหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ หากเขาทำล้มเหลวก็จะทำลายอนาคตของตัวเอง จากนั้นเขาก็จะกลายเป็นลูกชายที่ถูกเว่ยเชียนชิวทอดทิ้ง
ไฮ่!
เขาต้องการทำงานให้กับเว่ยเชียนชิวเสมอ และแบ่งปันภาระ หากมีเรื่องสั่งลงมาหวังหลินก็จะรู้สึกไม่สบายใจเพราะกลัวว่าเขาอาจจะไม่สามารถจัดการมันได้ดี
เมื่อเห็นว่าหวังหลินไม่ได้แสดงท่าทีมาเป็นเวลานาน เว่ยเชียนชิวจึงไม่พอใจอย่างยิ่ง และพูดอย่างเย็นชา:"ทำไม เจ้าไม่อยากรับงานนี้หรือ?"
แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากรับ คือไม่กล้าตอบรับมันต่างหาก!
หวังหลินรีบโบกมือปฏิเสธอย่างรวดเร็วว่า:"ไม่ใช่ แต่คือ...."
“ถ้าอย่างงั้นไม่ใช่เช่นนั้น งั้นก็ไม่มีอะไรต้องไปกังวล เจ้าแค่ไปทำอย่างกล้าหาญก็พอ หากมีอะไรไม่เข้าใจสามารถไปถามจางจิ่นได้”เว่ยเชียนชิวให้ความมั่นใจกับหวังหลินอย่างเด็ดเดี่ยว“เรื่องนี้ไม่ยาก ท่านเพียงแค่ ต้องรายงานความคืบหน้าให้ตัวข้าเจียนกั๋วทราบทุกวันก็พอ”
เรื่องยากๆเว่ยเชียนชิวก็ไม่กล้าสั่งให้คนใหม่ไปทำ
ในเรื่องนี้ เว่ยเชียนชิวเพียงต้องการให้หวังหลินออกไปแสดงหน้าแค่นั้น ให้เขากลายเป็นใบหน้าที่คุ้นเคยในค่ายจวนเจียนกั๋ว และใช้โอกาสนี้สร้างภาพลักษณ์ของเขาที่เว่ยเชียนชิวเพื่อให้รับใช้
ง่ายๆ ก็คือการช่วยให้หวังหลินสร้างศักดิ์ศรีของเขาเพื่อที่เขาจะได้ทำหน้าที่ได้สะดวกยิ่งขึ้นในอนาคต
อย่างไรแล้ว เรื่องการสร้างจวนเจียนกั๋วใหม่นั้นมันสำคัญมาก เว่ยเชียนชิวได้จัดตั้งให้หวังหลินมาจัดการเรื่องนี้ คนที่ฉลาดแค่มองก้จะรู้ดีและรู้อยู่แกใจ ต่างก็รู้สึกได้ว่าหวังหลินมีผลประโยชน์ต่อเว่ยเชียนชิวมาก ดังนั้นไม่มีใครกล้าหาปัญหาหวังหลิน
ในส่วนของเรื่องการสร้างจวนใหม่นั้น เจ้าของจวนนี้คือเว่ยเชียนชิว ไม่มีใครที่กล้าจะไม่ตั้งใจทำมัน?
แน่นอนว่าไม่มีเลย
อีกอย่าง มีจางจิ่นได้ปกป้องอยู่ หวังหลินก็รู้สึกมีการปกป้องเพิ่มอีกหนึ่งระดับ
ด้วยคำพูดของเว่ยเชียนชิวคำนี้ หวังหลินก็รู้สึกโล่งอกและสบายใจใน และเขาก็พูดด้วยความกระตือรือร้นว่า:"ขอบคุณใต้เท้าเจียนกั๋วที่ให้ความสำคัญแกข้า ข้าน้อยจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน"
เขาแค่เพิ่มออกมาทำงานครั้งแรกก็ได้รับความสำคัญมากขนาดนี้ แถมเขายังได้รับความช่วยเหลือจากอัครเสนาบดีอีก
หวังหลินรู้สึกว่าชีวิตของเขากำลังจะได้ดี!
อ้า! อ้า! อ้า!
บรรพบุรุษศักดิ์สิทธิ์จริงๆด้วย!
ฮ่าฮ่าฮ่า!
หวังหลินรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
ฮื้อ!
ทีแรกเซียวเฉวียนยังพูดอีกว่า หลังจากที่ตามเขาไปฝึกฝนที่ซินเจียงกลับมาก็จะได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ ตอนนี้ดูๆแล้วก็ไม่มีร่องรอยของพวกตำแหน่งจิ้นซื่อเลย ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว
โชคดีที่หวังหลินไม่ได้ไป
นั่ไง โอกาสสำหรับความสำเร็จอย่างรวดเร็วก็มาถึงแล้ว
เมื่อเวลาผ่านไป หากหวังหลินยืนหยัดเคียงข้างเว่ยเชียนชิวและได้รับสถานะที่แน่นอนแล้ว เขาจะทำคืนเซียวเฉวียนอย่างสาสมพันเท่าหมื่นเท่า สำหรับความอัปยศอดสูที่เซียวเฉวียนทำกับเขาไว้!
ด้วยวิธีนี้ หวังหลินจึงเข้ามารับหน้าที่กำกับดูแลการสร้างจวนเจียนกั๋วขึ้นมาใหม่อย่างสง่างาม
ไม่เพียงเท่านั้น เว่ยเชียนชิวยังขอให้จางจิ่นค่อยช่วยอย่างลับๆอยู่เบื้องหลัง และหาโอกาสให้หวังหลินเข้ามาแทนที่จางเคอเป็นชั่วคราว
เรื่องที่จางเคอไปที่ซินเจียง จางเคอได้แจ้งให้เว่ยเชียนชิวทราบแล้วว่า จางเคอจะไม่สามารถกลับมาได้ภายในระยะเวลาอันสั้น
เดิมที เว่ยเชียนชิวได้ส่งจางเคอไปแอบแฝงอยู่ที่ห้องหนังสือชิงหยวน และวางแผนไว้ว่าจะใช้จางเคอ
แต่ว่าเนื่องจากพิธีบังสุกุล จางเคอได้ปลุกเร้าความขุ่นเคืองของสาธารณชน และผู้คนเรียกร้องให้ถอดจางเคอออกจากตำแหน่งของเขาในห้องหนังสือชิงหยวน
ความโกรธในที่สาธารณะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตอนนั้นเว่ยเชียนชิวก็ได้ยุ่งกับการดูแลตัวเองในเวลานั้น โดยไม่มีทางเลือกใดๆ จึงต้องสละกับสิ่งที่ได้จัดเตรียมให้กับจางเคอไว้
แต่หวังหลินในตอนนี้ มีภูมิหลังที่สะอาดสะอ้านและจงรักภักดีต่อเว่ยเชียนชิว จึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะจัดให้เขาเข้าไปอยู่ที่ห้องหนังสือชิงหยวน
อีกอย่าง เว่ยเชียนชิวยังค้นพบว่า เซียวเฉวียนได้ปล่อยเว่ยเชียนชิวไปตั้งสองครั้ง เพราะเขาคิดว่าเป็นเพราะการปรากฏตัวของหวังหลิน
หากทั้งหมดนี้เป็นเรื่องบังเอิญ เว่ยเชียนชิวจะไม่เชื่อเด็ดขาด เขาไม่เคยเชื่อว่าในโลกนี้จะมีความบังเอิญเช่นนี้
.........
.........
พระราชวัง
ห้องหนังสือหลวง
กระถางธูปที่อยู่บนโต๊ะ ควันขดตัวขึ้นมา
ฮ่องเต้นั่งที่โต๊ะ วางถ้วยชาอย่างสง่างามแล้วพูดช้าๆ:"ตัวข้าได้ยินจากจางจิ่นว่า เว่ยเชียนชิวได้จัดส่งให้หวังหลินเข้าไปที่ห้องหนังสือชิงหยวน ราชครูคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?"
พูดตามตรง ฮ่องเต้ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเว่ยเชียนชิวถึงหมกมุ่นกับห้องหนังสือชิงหยวนนัก
ก่อนหน้านั้นได้จัดส่งจางเคอมา และตอนนี้ต้องการจัดส่งหวังหลิน
หรือว่าที่ห้องหนังสือชิงหยวนมีสมบัติบางอย่างซ่อนอยู่หรือเปล่า?
ไม่อย่างนั้น เว่ยเชียนชิวเป็นเพียงแค่นักรบ เหตุใดจึงให้ความสำคัญกับห้องหนังสือชิงหยวนอย่างมาก
เมื่อเซียวเฉวียนที่นั่งอยู่ข้างล่างได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ยิ้มเบาๆและพูดว่า:"ในฐานะครูขอถามฝ่าบาทหนึ่งคำถาม วันนี้ในศาลเฉามีขุนนางฝ่ายบุ๊นเยอะหรือว่าชาวยุทธ์เยอะกว่า?"
“ขุนนางฝ่ายบุ๊น เกี่ยวอะไรด้วยกับเรื่องนี้?”ฮ่องเต้ไม่รู้ว่าคำพูดของเซียวเฉวียนแอบแฝงอะไรไว้
เซียวเฉวียนกล่าวว่า:"ในฐานะครูขอถามฝ่าบาทอีกหนึ่งคำถาม ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าขอถามฝ่าบาทอีกคำถามหนึ่ง ผู้ที่คัดค้านการตัดสินใจของฝ่าบาท ในศาลเฉา ขุนนางฝ่ายบุ๊นเยอะหรือว่าชาวยุทธ์เยอะกว่า?"
“ขุนนางฝ่ายบุ๊น อีกอย่าง คำพูดของขุนนางฝ่ายบุ๊น มักท่วมท้นที่สุดและจนตัวข้าข้าไม่สามารถทำอะไรได้เลย”ฮ่องเต้พูดอย่างไม่คิด เมื่อถึงจุดนี้ ฮ่องเต้ก็ตระหนักได้ทันที ดวงตาของเขาเป็นประกายและพูดว่า:“ความหมายของราชครูคือ เว่ยเชียนชิวต้องการใช้การพูดของปัญญาชน เพื่อเอาชนะใจประชาชน?”
คำพูดของขุนนางฝ่ายบุ๊น มีรากฐานที่ดีและทำให้ฮ่องเต้ไม่สามารถปฏิเสธได้เสมอ และคำพูดเหล่านี้ยังมีความสามารถในการหลอกลวงผู้คนและปลุกปั่นความรู้สึกของสาธารณชนได้มากที่สุด
“นั่นคือสิ่งที่ข้าหมายถึง หากห้องหนังสือชิงหยวนตกไปอยู่ในมือของเว่ยเชียนชิวละก็ มันจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเขาโดยไม่มีอันตรายใดๆ”ดวงตาของเซียวเฉวียนเต็มได้ด้วยแสนเย็นเปล่งประกาย เว่ยเชียนชิววางแผนไว้ได้อย่างดีจริงๆ!
อย่างไรก็ตาม การชนะใจผู้คนเป็นเพียงหนึ่งในนั้นเท่านั้น
เว่ยเชียนชิวคงจะถือโอกาสนี้ต้องการใช้ประโยชน์จากห้องหนังสือชิงหยวน เพื่อฝึกฝนคนที่สามารถช่วยเขาตั้งหลักในศาลเฉา
แต่น่าเสียดาย แค่เขายกก้นขึ้นมา เซียวเฉวียนก็รู้ว่าเขาต้องการที่จะอึหรือว่าฉี่ และไม่มีทางที่เขาจะสามารถรอดสายตาของเซียวเฉวียนได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...