บทที่ 1309 เสียอารมณ์จริงๆ – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1309 เสียอารมณ์จริงๆ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ยามมีเหตุการณ์อันเป็นมงคลก็ทำให้จิตใจเบิกบานจริงๆ
ชาวบ้านไม่เพียงเปลี่ยนหน้าตาที่หงอยเหงาซึมเศร้าก่อนหน้านี้ แม้แต่สีหน้าของเว่ยเชียนชิวก็ดูดีขึ้นมากไม่น้อย
จวนเจียนกั๋วที่เขาติดใจอยู่มาตลอดในที่สุดก็สร้างเสร็จเรียบร้อย แถมตกแต่งสวยงามดูอย่างเหมาะเจาะ
เว่ยเชียนชิวซึ่งใจร้อนอยากจะออกจากกระท่อมมุงจาก หลังจากทุกอย่างของจวนเจียนกั๋วได้รับการดูแลเสร็จสิ้น อัญเชิญพระภิกษุผู้เป็นที่เคารพนับถือมาช่วยเลือกวันที่มงคลให้ เขาก็ย้ายเข้ามาอย่างมีความสุข
ในที่สุดก็มีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว !
เว่ยเชียนชิวมีความสุขมากเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อเขามีความสุข เขาก็มีสีหน้าที่ดีต่อคนรับใช้ของเขาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แม้เขาจะไม่ยิ้ม แต่ก็ไม่ได้ดูดุร้ายเหมือนอย่างแต่ก่อน
พูดตามตรง ตั้งแต่เผชิญหน้ากับเซียวเฉวียนมา เขาถูกเซียวเฉวียนบีบบังคับทุกที่ สูญเสียอย่างหนักกับมือของ เซียวเฉวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า สมุนของเขาตกอยู่ในมือของเซียวเฉวียนนับครั้งไม่ถ้วน นานๆ เข้า อารมณ์ของเว่ยเชียนชิวก็ไม่ฉุนเฉียวเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
เว่ยเชียนชิวเองไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ แต่ผู้คนรอบตัวเขาสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงของเว่ยเชียนชิว เป็นที่น่ายินดีสำหรับคนรับใช้จริงๆ ฝันอยากได้เป็นอย่างนั้น
ด้วยเหตุนี้ ผู้คนรอบๆ เว่ยเชียนชิวจึงล้อเลียนกันและเล่าลือกันว่า เซียวเฉวียนมีความสามารถจริงๆ แม้แต่สิ่งมีชีวิตที่ติดไฟง่ายระเบิดง่ายอย่างเว่ยเชียนชิวก็ถูกเขาสยบอารมณ์ลงได้
พวกเขาขอบคุณเซียวเฉวียนจากก้นบึ้งของหัวใจ เซียวเฉวียนคือผู้ที่ทำให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตที่ดูปกติได้หน่อย ไม่ต้องทุกๆ นาทีอยู่ในเสียงคำรามและความโมโหของเว่ยเชียนชิวอีกต่อไป
ตอนนี้ เว่ยเชียนชิวกำลังนอนอยู่บนเก้าอี้โยก หลับตาผ่อนคลายอารมณ์อย่างสบาย ๆ
ข้างตัวเขา ใต้เข่าข้างหนึ่งมีสาวงามหนึ่งคน โฉมสวยคิ้วงามตาอมเสน่ห์ เร้ารักหลากอารมณ์
มือที่อ่อนนิ่มดั่งไร้กระดูก ถูกนวดเบา ๆ และลูบน่องของเว่ยเชียนชิว
ในเวลากว่าหนึ่งปีมานี้ เว่ยเชียนชิวถูกเซียวเฉวียนฟาดมาเรื่อย ไม่มีเวลาแม้แต่จะหาความสุขใส่ตัว
ตอนนี้ จวนเจียนกั๋วได้สร้างขึ้นใหม่อย่างยากลำบาก เซียวเฉวียนก็ไม่ได้ก่อปัญหาใดๆ ดังนั้น เว่ยเชียนชิวจึงอยากหาความสุขใส่ตัวซะบ้าง
เว่ยเชียนชิวจู่ๆ ก็ลืมตาขึ้น ด้วยสายตาที่ลวนลาม เขาเอื้อมมือออกไปคว้าสาวสวยคนหนึ่งขึ้นมา กอดเธอไว้ในอ้อมแขน ซุกศีรษะของเขาไว้ที่คอของสาวสวย ดมกลิ่นหอมจากร่างกายของเธออย่างอ่อนโยน
เคราของเขาทิ่มคอของสาวสวยจนสาวสวยต้องหลบไปโดยสัญชาติญาณ จากนั้นเธอใช้นิ้วจิ้มหน้าอกของเว่ยเชียนชิวเบาๆ และพูดด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวนอย่างยิ่ง "โอย ท่านเจียนกั๋ว ท่านแย่จริง ทำให้หนูคันไปหมดเลย"
”คนสวย ไม่ให้หลบ” เว่ยเชียนชิวยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ฉุดสาวสวยนั้นกลับมาสู่อ้อมแขนอีกครั้ง และเริ่มปลดปล่อยความปรารถนาที่หลับใหลมายาวนาน
ในเวลากลางวันแสกๆ ห้องนอนของเว่ยเชียนชิวเต็มไปด้วยทัศนียภาพที่งามหรูหราฉูดฉาด
ในขณะที่เว่ยเชียนชิวกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ด้านนอกประตูมีเสียงตะโกนของสายลับดังขึ้นอย่างเร่งรีบ "ท่านเจียนกั๋ว ๆ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว !"
เมื่อเว่ยเชียนชิวได้ยิน ใบหน้าแก่ของเขาก็บึ้งขึ้นมาทันที เขาละมือจากสาวสวยอย่างอารมณ์ค้าง ลุกขึ้นนั่งขยับเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วพูดอย่างเย็นชาผ่านประตู "พูดมาสิ ! เกิดอะไรขึ้น !"
เสียงนั้นเยือกเย็นจนสายลับสะท้านในใจ พูดอย่างตะกุกตะกัก "เรียน...ท่านเจียนกั๋ว เพิ่งได้รับจดหมายนกพิราบจากเมืองมู่อวิ๋นมา ในนั้นบอกว่าเซียวเฉวียนได้ไปที่เมืองมู่อวิ๋นทั้งยังก่อเรื่องวุ่นวายที่จวนอ๋องผู้ครองเมือง”
ให้ตายเถอะ !
เซียวเฉวียน เจ้าสารเลว !
มันไปเมืองมู่อวิ๋นตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่มีสายลับมารายงานเรื่องนี้ ?
เปลืองข้าวสุก !
พวกเปลืองข้าวสุกทั้งนั้น !
เฝ้าดูเซียวเฉวียนแค่คนเดียวยังไม่ได้ !
เซียวเฉวียนเอยเซียวเฉวียน ทำไมที่ไหนๆ ก็มีแต่เงาของเอ็ง เอ็งต้องยุ่งทุกเรื่อง !
"ป๊าก !"
เว่ยเชียนชิวกำหมัดอย่างแน่นด้วยความโมโหจัด ฟาดไปที่หน้าเตียง
"อ่า !"
เป็นเพราะหวังหลิน การเดินทางจึงล่าช้าเป็นเกือบครึ่ง
มาได้ถึงครึ่งทาง เฮยหลางทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาเดินไปที่ข้างกายเว่ยเชียนชิวและกระซิบ "ท่านเจียนกั๋ว ผู้น้อยไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมท่านถึงอยากพาเขามาด้วย"
ดูตามความเร็วนี้ เมื่อพวกเขาไปถึงเมืองมู่อวิ๋น จะยังมีประโยชน์อะไรล่ะ
ด้วยวิธีการทำงานอย่างว่องไวเด็ดเดี่ยวของเซียวเฉวียน เรื่องทั้งหมดคงเสร็จสับเรียบร้อยกลายเป็นข้อกำหนดตายตัวเปลี่ยนแปลงไม่ได้
ถึงเวลานั้น พวกเขาจะไปหรือไม่ไป ต่างกันอย่างไร ?
ถึงยังไง เว่ยเชียนชิวก็รบสู้เซียวเฉวียนไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องคิดว่าจะพลิกสถานการณ์
ที่เดินมาตลอดทางนี้ หวังหลินดูเหมือนจะเดินไปไม่ไหว ถ่วงคนอื่นเขา อันที่จริงเว่ยเชียนชิวก็ดูรังเกียจเขามาก
เป็นเพราะเว่ยเชียนชิวไม่เคยพาผู้รู้หนังสือเดินทางด้วยกันมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกและเขาไม่มีประสบการณ์ แถมเขายังประเมินความสามารถทางกายภาพของผู้รู้หนังสือสูงเกินไป คิดว่าแค่เร่งเดินทางไม่น่าจะมีปัญหา
ไม่รู้เลยว่าผู้รู้หนังสืออ่อนแอถึงขนาดนี้ แถมอืดอาดยืดยาด
พาหวังหลินเดินทางมาด้วย คิดผิดจริงๆ !
......
......
ที่เมืองมู่อวิ๋น
ด้วยความพยายามความร่วมมือประสานกันของเจินฮ่าวและพวก พวกเขาได้รับหนังสือลายมือชื่อชาวบ้านและส่งมอบให้กับมือของเซียวเฉวียนแล้ว
เซียวเฉวียนมองดูกระดาษที่มีชื่อและลายนิ้วมือเต็มหน้าอยู่ ดวงตาของเขาดูซับซ้อนเล็กน้อย
ผู้คนที่ใช้ชีวิตในสมัยโบราณนั้นลำบากจริงๆ ผลของการทำงานด้วยแรงอย่างเหน็ดเหนื่อย และเงินที่พวกเขาแลกมาด้วยเลือดเนื้อและหยาดเหงื่อยังไม่ได้เป็นของพวกเขา ไม่สามารถควบคุมแบ่งปันโดยพวกเขาเอง แต่ถูกเอารัดเอาเปรียบโดยผู้สูงศักดิ์ผู้มีอำนาจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...