ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1331

สรุปบท บทที่ 1331 หาเรื่องกลับ: ซูเปอร์ลูกเขย

สรุปเนื้อหา บทที่ 1331 หาเรื่องกลับ – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บท บทที่ 1331 หาเรื่องกลับ ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เรื่องนี้ช่างมันเถอะ แต่จินเผิงดันพลาดท่า ยกก้อนหินใส่เท้าของตัวเอง

คำพูดของเขา กำลังยัดเยียดความผิดให้เขาอย่างนั้นใช่ไหม?

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เพื่อความยุติธรรม เซียวเฉวียนจึงออกคำสั่งให้คนเข้าตรวจสอบวังหลวง เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับจินเผิง วิธีนี้เหมาะสมที่สุดแล้ว

เวลานี้ ถ้าจินเผิงยังขัดขวางอยู่ นั้นหมายความว่าที่แห่งนี้ไม่มีเงิน แต่เขาประหม่าไปเองอย่างนั้นใช่ไหม?

ถึงอย่างไร หากจินเผิงไม่คิดร้ายในใจ ก็ไม่ต้องกลัวว่าใครจะตรวจสอบวังหลวง

ดังนั้นในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว จินเผิงก็ทำได้แค่ให้ความร่วมมือกับเซียวเฉวียน มองดูไป๋ฉีเข้าไปในจวนอย่างอวดดี

เมื่อเห็นพวกเขาเข้ามาในจวน มือของจินเผิงและคนอื่นก็อดเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็นไม่ได้

ทว่าจินเผิงไม่ใช่คนที่จะยอมให้จับได้ง่าย ๆ

ก่อนที่เขาจะได้รับพระราชโองการ เขามีแผนการแล้ว

เขาสั่งองครักษ์ไว้ว่าหลังจากที่พระราชโองการออกมา เซียวเฉวียนและคนอื่นยืนกรานจะเข้ามาตรวจสอบจวน ให้องครักษ์พาทหารกลุ่มหนึ่งออกไปควบคุมสถานการณ์นอกจวนอย่างเงียบ ๆ ยิ่งเงียบเท่าไหร่ยิ่งดี

สาเหตุที่ต้องออกไปควบคุมสถานการณ์นั้นจินเผิงคิดมาอย่างดีแล้ว แต่กล่าวว่าราษฎร์ลบหลู่หมิ่นกฎระเบียบบ้านเมือง ก่อความวุ่นวายในวัง ตั้งใจก่อการจลาจล สร้างความเดือดร้อน

ใช้เหตุผลนี้ขับไล่ราษฎร์

ภายใต้ความไม่ยอมของราษฎร์ อย่างไรก็ต้องเกิดความขัดแย้งขึ้นกับทหารแน่นอน

แบบนี้เซียวเฉวียนและคนอื่นก็ไม่มีเวลามาตรวจสอบวังแล้ว

ดังนั้นเวลานี้จินเผิงจึงฝากความหวังไว้ที่องครักษ์ผู้นั้น

แต่องครักษ์ผู้นั้นไม่ทำให้จินเผิงผิดหวัง เขาพาทหารกลุ่มหนึ่งเข้ามาอย่างวางอำนาจ จากนั้นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงทำการขับไล่ราษฎร์ทันที

วาจาที่แฝงไปด้วยอำนาจบาตรใหญ่นั้นทำให้เซียวเฉวียนฟังแล้วรู้สึกไม่ชอบใจนัก

เซียวเฉวียนสาวเท้าก้าวใหญ่ออกไปขวางอยู่ด้านหน้าของราษฎร์ และเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ในฐานะทหารมู่อวิ๋น ผู้ปกป้องราษฎร์แห่งรัฐมู่อวิ๋นแห่งนี้ ใครช้างมอบความกล้าหาญให้พวกเจ้า? หื้อ?”

ในฐานะทหาร ภารกิจคือปกป้องบ้านเมือง ดูแลราษฎร์ให้อยู่เย็นเป็นสุข

บัดนี้อาวุธทหารในมือของพวกเขากลับชี้หาราษฎร์ในรัฐของตัวเองอย่างนั้นหรือ?

พวกเขาจำภารกิจของตัวเองได้อยู่ใช่ไหม?

ถ้าราษฎร์อยู่อย่างสงบสุข ไหนเลยพวกเขาต้องก่อความวุ่นวายด้วย?

ถ้าไม่ใช่เพราะเหล่าขุนนางบีบบังคับให้ตกอยู่ในสถานการณ์ต้องเลือก พวกเขายังจะเรียกร้องความยุติธรรมโดยที่ไม่สนใจชีวิตของตัวเองอีกหรือ?

หรือว่าพวกเขาไม่รู้ว่าการกระทำเช่นนี้ก็เหมือนกับไข่ไก่กระทบก้อนหิน?

ไม่สิ พวกเขารู้ พวกเขารู้มากด้วย

ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาอับจนหนทาง พวกเขาไม่มีทางแตะต้องหินก้อนนี้แน่!

ถึงอย่างไรถ้าอยากมีรองเท้าใส่ ใครก็ไม่อยากเท้าเปล่า

คำพูดของเซียวเฉวียนไม่ดังนัก แต่กลับทำให้คน ณ ที่แห่งนี้อกสั่นขวัญแขวน บรรยากาศตึงเครียดไม่น้อย!

องครักษ์และเหล่าทหารพากันอึ้งงัน ไม่กล้ากระทำการบุ่มบ่าม

องครักษ์จึงถือโอกาสตอนที่ทุกคนยังไม่ทันระวังตัวหันไปมองจินเผิงแวบหนึ่ง เพื่อถามเขาว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้

จินเผิงพยักหน้าเป็นอันรู้กัน

ถ้าศึกในครานี้ไปต่อไม่ได้ จินเผิงคือคนที่โชคร้ายที่สุด

เพื่อปกป้องตัวเอง จินเผิงไม่ได้สนใจมากนัก

องครักษ์เข้าใจ จากนั้นก็รวบรวมความกล้า ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สงบที่สุด “ใต้เท้าเซียว ข้าน้อยยังคำนึงถึงความปลอดภัยของใต้เท้า ภายใต้ความโกรธ พวกอันธพาลเหล่านี้จึงได้แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวออกมา ถ้าเกิดไปทำร้ายใต้เท้าเซียวเพราะเรื่องนี้ นั้นก็คือความผิดของเรา ได้โปรดใต้เท้าเซียวคำนึงถึงความยากลำบากของเราด้วย”

เซียวเฉวียนคือคนที่ราชสำนักส่งมา พวกเขาต้องปกป้องเซียวเฉวียน ถ้าพวกเขาทำให้เซียวเฉวียนบาดเจ็บ นั้นคือความผิดร้ายแรงของพวกเขา

ไม่มีใครรู้ว่าบัดนี้เซียวเฉวียนกลายเป็นที่โปรดปรานข้างกายฮ่องเต้ไปแล้ว จะประมาทไม่ได้เด็ดขาด

ถึงอย่างไรพระราชโองการนี้ก็บอกไว้แล้ว เซียวเฉวียนคือผู้นำ ต้องฟังคำสั่งของเซียวเฉวียน

ทว่าเซียวเฉวียนกลับเปลี่ยนความคิด ขาเอ่ยเสียงราบเรียบ “ทหารทุกคนจงฟัง ข้าขอสั่งให้พวกเขาตามข้าเข้าวัง ตรวจสอบทรัพย์สินในวัง พิสูจน์ความบริสุทธิ์แม่ท่านแม่ทัพ”

ขณะที่พูดว่า ‘ความบริสุทธิ์’ เซียวเฉวียนตั้งใจเน้นย้ำเล็กน้อย จากนั้นก็เบาสายตาไปยังจินเผิง ทันทีที่เห็น หัวใจของจินเผิงก็เต้นระส่ำไม่หยุด

หวาดผวา ดูหวาดผวาอย่างเห็นได้ชัด

กล่าวจบ เซียวเฉวียนก็นำทางทุกคนเข้าไปในวัง

ทันทีที่เข้ามา เซียวเฉวียนก็เห็นกำแพงที่ถูกไป๋ฉีระเบิดจนไม่เหลือชิ้นดี เขาอดส่ายหน้าอย่างหมดปัญญาไม่ได้ ไป๋ฉีเจ้าเด็กบ้านี้ ชอบจริง ๆ กับความรุนแรง พูดดี ๆ กันไม่ได้หรืออย่างไร?

ดีแต่ใช้กำลัง

ทว่าเซียวเฉวียนชอบความบ้าระห่ำของไป๋ฉี เพราะมันได้ผล!

เสียดายวังแห่งนี้ นี่คือที่อยู่ของผู้เป็นพ่อของไป๋ฉี

ถ้าให้เด็กคนนี้รู้ว่าตัวเองทำลายที่อยู่อาศัยของผู้เป็นพ่อของตัวเอง จะคิดอย่างไร?

นิสัยนิ่งสงบของไป๋ฉีจะแสดงสีหน้าอย่างไร?

เซียวเฉวียนเริ่มตั้งตารอ

ส่วนจินเผิง ทันทีที่เห็นเซียวเฉวียนนำทหารเข้าวัง เขาก็รู้ทันทีว่าทุกอย่างได้รับการควบคุมแล้ว ถ้าเขายังอยู่ที่นี่ มีหวังเขาจบไม่สวยแน่

เมื่อคิดได้ จินเผิงก็สบตากับชนชั้นสูงผู้มีอำนาจ เตรียมถือโอกาสตอนที่เซียวเฉวียนยังไม่ถึงรีบปลีกตัวออกไป

ทว่าเซียวเฉวียนคาดเดาเหตุการณ์นี้ไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นในตอนที่เซียวเฉวียนผ่านพวกเขา เขาได้นำฉากกั้นขนาดใหญ่มาวางไว้รอบตัวของพวกเขาอย่างเงียบ ๆ ขังพวกเขาไว้

ดังนั้นยังไม่ทันรอให้พวกเขาก้าวออกไป ก็ถูกฉากกั้นเหล่านั้นขวางไว้

โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้สารเลวเซียวเฉวียนวางฉากกั้นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย